กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ. แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ ("บริษัทฯ" หรือ ACE) เข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชูพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของประเทศและผู้นำด้านพลังงานสะอาด และมีจุดแข็งด้านการนำองค์ความรู้มาใช้พัฒนาสูตรผสมเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำ และนำ Big Data มาวิเคราะห์เพื่อออกแบบและพัฒนาเครื่องจักรให้สามารถรองรับเชื้อเพลิงที่หลากหลาย รวมถึงความมั่นคงด้านซัพพลายเชนของวัตถุดิบ พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเติบโตก้าวกระโดดเป็นกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567
นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ" หรือ ACE) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของประเทศไทยและเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด (The Clean Energy Leader) เปิดเผยว่า ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันนี้
(13 พฤศจิกายน 2562) โดยใช้ชื่อย่อ 'ACE' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังปิดการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนทั้งสิ้น 1,018 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10.00 ของหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ที่ราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้นละ 4.40 บาท และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันที่จองซื้ออย่างท่วมท้น ซึ่งการเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินและศักยภาพการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเพิ่มเครื่องมือทางการเงินในการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต
บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จนปัจจุบันถือได้ว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของประเทศไทย และเป็นผู้นำด้านโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดของโลก ที่มีความสามารถผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท มีความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ เป็นต้นแบบของโลกเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 14001 , ISO 9001 และ OHSAS 18001 อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างของโลกในการดำเนินกิจการ โดยยึดหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล และเป็นธุรกิจที่ก่อให้เกิด positive Total Societal Impact (TSI) หรือผลลัพธ์เชิงบวกให้แก่สังคมจากการดำเนินงานของบริษัท อันจะส่งผลดีต่อผลตอบแทนการลงทุนโดยรวม อันได้แก่กำไรจากราคาหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และเงินปันผลที่ดีจากการลงทุน กล่าวคือ นอกจากโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะ ของ ACE จะประกอบกิจการที่ส่งผลกระทบในทางบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน อาทิเช่น การรับซื้อเศษวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตรมาใช้เป็นเชื้อเพลิง เป็นการช่วยลดการเผาทิ้งในสวน ในไร่นา กลางที่โล่งแจ้งของเกษตรกร เพื่อป้องกันการเกิด PM2.5 นอกจากจะช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนในชนบทได้อีกด้วย ในส่วนโรงไฟฟ้าขยะของ ACE จะรับขยะสดจากครัวเรือน และขยะเก่าที่กองสะสมทิ้งไว้ มากำจัดด้วยการแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดกลิ่น ปลอดฝุ่นละออง และ ไม่มีการปล่อยน้ำเสีย ออกนอกโรงงาน (Zero Discharge) ถือได้ว่าเป็นการช่วยกำจัดขยะที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยที่ดีของประชาชน ทั้งยังทำหน้าที่เปลี่ยนภูเขาขยะให้เป็นสวนสุขภาพสำหรับประชาชนอีกด้วย / ด้วยยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจดังกล่าว นอกจากจะเป็นประโยชน์โดยรวมต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชน และประชาชนแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านซัพพลายเชนของเชื้อเพลิง และลดต้นทุนทางด้านเชื้อเพลิงให้แก่กิจการโรงไฟฟ้าของ ACE อีกด้วย
นอกจากนี้ ACE ยังให้ความสำคัญกับการค้นคว้า และการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี ที่ทำให้โรงไฟฟ้าสามารถใช้เชื้อเพลิงชีวมวลได้ เกือบทุกชนิดที่มีในเอเชีย ออกแบบเครื่องจักรให้สามารถรองรับเชื้อเพลิงชีวมวล และเชื้อเพลิงจากขยะชุมชนที่มีค่าความชื้นสูง ได้ส่งผลให้โรงไฟฟ้าของ ACE มีต้นทุนต่ำ ในการผลิตไฟฟ้า
สำหรับการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะเพิ่มความมั่นคง ด้านฐานะการเงิน และโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต จากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว กำลังการผลิตติดตั้งรวม 211.18 เมกะวัตต์ และมีแผนงานขยายกำลังการผลิตติดตั้งรวม เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เท่าตัว จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โครงการที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนา และโครงการที่บริษัทฯ อาจได้มาเพิ่มเติมในอนาคต รวม 20 โครงการ
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายระยะยาว ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งรวมเป็นมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 อันจะส่งผลให้ ACE เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงอีก 5 ปี นับจากนี้
นางสาววีณา เลิศนิมิตร กรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะ Sole Bookrunner และผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า คาดว่าหลังนำหุ้น ACE เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะเป็นบริษัทฯ ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากมีจุดแข็งทางธุรกิจหลายด้าน ทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหาร การให้ความสำคัญกับการวิจัยค้นคว้า การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการจัดเก็บข้อมูลและบริหารจัดการโรงไฟฟ้า ตลอดจนการปรับปรุงและพัฒนาเครื่องจักรและขีดความสามารถการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โรงไฟฟ้าของ ACE สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเมื่อเทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีการกระจายการลงทุนโรงไฟฟ้าในทำเลต่างๆ ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่มีความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและความมั่นคงในด้านเชื้อเพลิงที่นำมาใช้ผลิตไฟฟ้า
ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของ ACE จะได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ตลอดจนแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็น 'World Mega Trend' ทั่วโลก จะส่งผลดีต่อการขยายการลงทุนของบริษัทฯ ในอนาคต
ดร. วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า ACE เป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีผลการดำเนินงานในอดีตช่วง 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2559 – 2561) เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 2,161 ล้านบาท 4,346 ล้านบาท และ 4,849 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 134 ล้านบาท 334 ล้านบาท และ 547 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2562 มีรายได้รวม 2,555 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 342 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งจะได้รับผลดีจากภาพรวมต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภาครัฐที่มีนโยบายรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น รวมถึงการส่งเสริมพลังงานสะอาดที่เป็น 'Mega Trend' ของโลก