กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เดินหน้าก้าวสำคัญในการขยายอาณาจักรพอร์ตโครงการโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยการลงนามในสัญญาครั้งสำคัญกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อนำ 3 แบรนด์โรงแรมระดับโลกมาสู่พัทยาและภูเก็ต สองเมืองท่องเที่ยวชายทะเลชั้นนำที่ทั่วโลกรู้จักดี ความร่วมมือกับแมริออท ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรมระดับโลกครั้งนี้ นับเป็นก้าวแรกสู่การสร้างสรรค์โครงการที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ใจกลางพัทยา ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมระดับเวิลด์คลาสสำหรับทั้งนักเดินทางกลุ่มไมซ์และนักท่องเที่ยว และจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งแห่งใหม่ และนำแนวคิดใหม่ของโรงแรมที่สร้างพลังและแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าพักสู่ภูเก็ต ซึ่งพร้อมต้อนรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายครอบคลุม
AWC CENTER PATTAYA คือโครงการมิกซ์ยูสระดับเมกะโปรเจคใหม่ ประกอบด้วย โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา และ โรงแรม พัทยา แมริออท มาร์คีส์ ตลอดจนจุดหมายปลายทางด้านช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ระดับไอคอนของพัทยา พร้อมเปิดประตูสู่ประสบการณ์ใหม่ในการเข้าพักที่หรูหราให้กับกลุ่มลูกค้าจากทั่วโลกอย่างครอบคลุม ตั้งแต่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ นักท่องเที่ยว ตลอดจนกลุ่มลูกค้าองค์กร ขณะที่ โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของโรงแรมระดับบนที่เปี่ยมด้วยสไตล์อันโดดเด่นในใจกลางเมืองภูเก็ต
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมืออีกครั้งกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า ด้วยการพัฒนาโครงการระดับเวิลด์คลาสเพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไปอีกขั้น การร่วมเป็นพันธมิตรกับแมริออทครั้งนี้จะมอบประสบการณ์อันโดดเด่นให้กับลูกค้าทั้งกลุ่มนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวด้วยบริการอันเหนือระดับ"
"ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น และความเชื่อมั่นในศักยภาพแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยที่แข็งแกร่ง ทำให้ AWC มีวิสัยทัศน์และพันธกิจ ที่พร้อมจะร่วมสร้างสรรค์อนาคตที่ดีขึ้นให้กับชุมชน สังคม และประเทศ ผ่านการดำเนินธุรกิจพัฒนาและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรในประเทศไทย อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเรายังได้เล็งเห็นถึงศักยภาพที่ดีในระยะยาวของอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย ซึ่งมีข้อพิสูจน์ได้จากอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งโดยเฉลี่ยที่ 47.6% ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานสำคัญของรัฐบาล อย่างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ก็มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเดินทางและธุรกิจท่องเที่ยวของไทย เป็นที่ทราบกันดีว่า พัทยาและภูเก็ตคือเมืองสำคัญของไทยที่ปัจจุบันได้กลายเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางของทั้งนักท่องเที่ยวและนักเดินทางกลุ่มไมซ์ ด้วยปัจจัยความพร้อมต่าง ๆ ที่ดึงดูดนักเดินทางทั้งสองกลุ่มได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยพันธกิจของเราในการมุ่งสร้างอนาคตที่ดีกว่า โครงการใหม่ระดับไอคอนของเราที่พัทยาจะช่วยยกระดับให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่ครอบคลุมและสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ที่พร้อมสำหรับกิจกรรมทางธุรกิจ การพักผ่อนหย่อนใจ เอนเตอร์เทนเมนต์ ตลอดจนไลฟ์สไตล์ต่างๆ ส่วนโรงแรมใหม่ที่ภูเก็ตจะช่วยพลิกโฉมหน้าใหม่ให้กับการท่องเที่ยวในเขตตัวเมืองภูเก็ตด้วยบรรยากาศที่ทันสมัยด้วยเสน่ห์ของเมืองภูเก็ต พรั่งพร้อมด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับนักเดินทาง"
จุดแข็งของโรงแรมภายใต้แบรนด์แมริออททุกแห่งคือ แพล็ตฟอร์มในการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งครอบคลุมทั่วโลก การสร้างสรรค์แคมเปญการขายและการตลาดที่น่าสนใจ ตลอดจนทีมงานที่มีประสบการณ์สูงในธุรกิจโรงแรม นอกจากนั้น แมริออทยังมีเครือข่ายขนาดใหญ่และโครงการสำหรับสมาชิกโรงแรมที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดแขกและลูกค้าใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ
มร. เครก เอส สมิธ ประธานบริหารกลุ่มแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "เราเล็งเห็นถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งที่มีอย่างต่อเนื่องยาวนานกับแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น และการเติบโตต่อเนื่องไปด้วยกัน การลงนามในสัญญาครั้งสำคัญสำหรับการบริหารสามโรงแรมใหม่ในพัทยาและภูเก็ต ทั้ง AWC และแมริออทต่างยึดมั่นต่อการสร้างสรรค์มาตรฐานระดับสูงสุดในธุรกิจโรงแรม เราจึงภูมิใจที่ได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมวิสัยทัศน์ของ AWC เพื่อขยายพอร์ตโรงแรมและโครงการสถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น"
โครงการมิกซ์ยูสใหม่ระดับเมกะโปรเจคใจกลางพัทยา
AWC CENTER PATTAYA โครงการมิกซ์ยูสใหม่ของ AWC คือโครงการขนาดใหญ่ที่จะเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในพัทยา สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์และเปิดโฉมหน้าใหม่ให้กับพัทยาในฐานะศูนย์กลางด้านไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวชั้นนำในประเทศไทย และจะกลายเป็นโครงการระดับไอคอนแห่งใหม่ ที่จำลองแนวคิดและรูปแบบมาจากเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ในกรุงเทพฯ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้ว ประกอบด้วยพื้นที่ค้าปลีกและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจทั้งในร่มและกลางแจ้ง ภายใต้บรรยากาศที่หลากหลายเพื่อกลุ่มลูกค้าในทุกช่วงวัย พร้อมโรงแรมระดับหรูสองแห่งภายใต้แบรนด์แมริออท
โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา และโรงแรม พัทยา แมริออท มาร์คีส์
ทั้งสองโรงแรมตั้งอยู่ภายในโครงการมิกซ์ยูสใหม่บนทำเลพัทยากลาง ประกอบด้วยห้องพักรวมกัน 1,298 ห้อง ภัตตาคารและร้านอาหาร 11 แห่ง พร้อมด้วยพื้นที่สำหรับการจัดเลี้ยง ประชุม สัมมนา กว่า 10,000 ตารางเมตร กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา คือนักเดินทางยุคใหม่ที่เลือกสรร ต้องการที่พักระดับหรูซึ่งมอบบรรยากาศของการพักผ่อนและเติมเต็มทั้งทางกายและจิตใจ ด้วยหลากหลายบริการต่าง ๆ ที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันมาไว้ภายในโรงแรม ขณะที่โรงแรมพัทยา แมริออท มาร์คีส์ ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิด "Let Your Mind Travel" ของแบรนด์แมริออท จะมีการผสมผสานนวัตกรรมดีไซน์อันทันสมัยในห้องพักที่ออกแบบขึ้นเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้พัก บริการที่ชาญฉลาด รวมทั้งตัวเลือกภัตตาคารและร้านอาหารที่ตอบสนองทุกความต้องการของนักเดินทาง เพื่อให้โรงแรมเป็นพื้นที่แห่งการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้แขกผู้เข้าพักจากทั่วโลก
โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์
โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ ตั้งอยู่ในใจกลางตัวเมืองภูเก็ต รายล้อมด้วยอาคารเก่าสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสอันสง่างามและทรงคุณค่า ภายใต้บรรยากาศที่สวยงามตลอดสองฝั่งถนน คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท ภูเก็ต เป็นการปรับโฉมจากโรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ประกอบด้วยห้องพัก 248 ห้อง ภัตตาคารและร้านอาหาร 2 แห่ง และพื้นที่จัดประชุมสัมมนากว่า 2,000 ตารางเมตร พร้อมมองประสบการณ์ที่ช่วยเติมพลังและแรงบันดาลใจให้แขกผู้เข้าพัก ทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัย ครบครัน
การลงนามในสัญญาครั้งนี้
แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น คือหนึ่งในเจ้าของโรงแรมแบรนด์ในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย แปซิฟิค (ยกเว้นประเทศจีน) ด้วยจำนวนห้องพักรวม 4,252 ห้องทั่วประเทศไทย (จากโรงแรมที่เปิดบริการอยู่ 9 แห่ง ห้องพักรวม 3,452 ห้อง และโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 1 แห่ง ห้องพักรวม 800 ห้อง) การลงนามสัญญาครั้งนี้จะส่งผลให้มีโรงแรมเพิ่ม 3 แห่ง (ในพัทยาและภูเก็ต มีห้องพักรวม 1,546 ห้อง) และส่งผลให้จำนวนนห้องพักรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5,820 ห้อง (ซึ่งหากรวมกับโรงแรมในเครือของบริษัททั้งหมด 6,826 ห้อง) แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่นยังคงเดินหน้าสานต่อความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าด้วยสินทรัพย์ที่มีศักยภาพให้กับทุกคน
เกี่ยวกับบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัท Holding Company ภายใต้เครือทีซีซีกรุ๊ป (TCC Group) ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรในประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ซึ่งบริหารงานโดยผู้บริหารโรงแรมที่มีชื่อเสียงภายใต้แบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพและเป็นที่รู้จักระดับสากล อาทิ แมริออท, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, บันยันทรี, ฮิลตัน และเชอราตัน และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building) ซึ่งครอบคลุมโครงการในกลุ่ม 1) อสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail and Wholesale) ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ชอปปิงมอลล์ คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต และอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้าส่ง โดยอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้ามีโครงการที่มีชื่อเสียงคือ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการเกทเวย์ แอท บางซื่อ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ และโครงการตะวันนา บางกะปิ 2) อาคารสำนักงาน (Office) โดยโครงการที่โดดเด่นในเครือ AWC คือ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ และอาคารแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลทางธุรกิจที่มีศักยภาพในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ
ล่าสุด บริษัทประสบความสำเร็จหลังจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ณ วันที่ 10 ต.ค. ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ (จากฐานข้อมูลของบลูมเบิร์ก)
เกี่ยวกับแมริออท อินเตอร์เนชันแนล อิงค์
แมริออท อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ (NASDAQ: MAR) ตั้งอยู่ในเมืองเบเธสดา รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีทรัพย์สินมากกว่า 7,000 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์โรงแรมชั้นนำ 30 แบรนด์ใน 132 ประเทศและอาณาเขต แมริออทดำเนินกิจการและบริหารธุรกิจแฟรนไชส์โรงแรม และรีสอร์ทที่มีกรรมสิทธิ์ในการออกใบอนุญาตทั่วโลก ปัจจุบันดำเนินโครงการสำหรับสมาชิกโรงแรมภายใต้ชื่อ Marriott Bonvoy ซึ่งใช้แทน Marriott Rewards(R), The Ritz-Carlton Rewards(R) และ Starwood Preferred Guest(R) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.marriott.com สำหรับข่าวล่าสุดของบริษัทฯ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.marriottnewscenter.com หรือติดตามเราที่ Facebook และ @MarriottIntl บน Twitter และ Instagram