กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--มาเธอร์ ครีเอชั่น
เปิดเวทีสัมมนาระดมความคิดเห็นจากนักวิชาการ องค์กรภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน ประเมินทิศทางการใช้พลังงานในอนาคตในภาคขนส่ง หลังรัฐบาลปักธงส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อนำมาปรับแผนให้ทันการณ์หลังเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็วโดยเฉพาะการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งเอทานอลและไบโอดีเซล
นายพงษ์ศักดิ์ พรหมกร รักษาการผู้อำนวยการกองพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผย ในงานสัมมนาเปิดตัวโครงการศึกษาผลกระทบการส่งเสริมยานยนต์ทางเลือก และการอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่งในประเทศไทย ต่อการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพ ประจำปี 2562 ว่า พพ. ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวโดยร่วมกับสำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือเพื่อศึกษาประเด็นผลกระทบของการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี)ที่จะมีต่อการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพในอนาคต รวมถึงความเป็นไปได้ในการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในยานยนต์สมัยใหม่ในอนาคตเพื่อนำมาสู่การศึกษาวิจัยของโครงการในขั้นตอนต่อไป
"การสัมมนาเพื่อที่จะเป็นการระดมสมองในการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากนักวิชาการ สถาบันการศึกษา นักวิจัย หน่วยงานรัฐ และเอกชนต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะนำไปวิเคราะห์ศึกษาและวิจัยเพื่อที่จะนำมาใช้ปรับปรุงแผนพลังงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก(AEDP) และแผนอนุรักษ์พลังงาน(EEP) และยังเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมในระยะยาว"นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ภายใต้แผน EEP และนโยบายรัฐได้มุ่งส่งเสริมให้เกิดพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) จำนวน 1.2 ล้านคันในปี 2579 เนื่องจากมองบทบาทว่ายานยนต์ไฟฟ้าจะมีส่วนสำคัญต่อการลดมลพิษ และลดการนำเข้าน้ำมันซึ่งมาตรการส่งเสริมรถอีวีอาจจะกระทบต่อสัดส่วนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพที่จะเกี่ยวโยงไปถึงราคาพืชผลทางการเกษตรเนื่องจากปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้ส่งเสริมการใช้น้ำมันชีวภาพทั้ง การใช้ปาล์มบริสุทธิ์(บี100)มาผสมกับดีเซล(ไบโอดีเซล)และส่งเสริมการนำเอทานอลที่ได้จากกากน้ำตาล(โมลาส)และมันสำปะหลังมาผสมกับเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์จึงจำเป็นจะต้องศึกษาที่มองภาพรวมในอนาคต
"นโยบายรัฐได้วางเป้าหมายที่จะส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าเพราะถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในอนาคตตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และจะทำให้ไทยยังคงรักษาฐานการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้ไว้ได้ อย่างไรก็ตามการพัฒนาเทคโนโลยีในทุกวันนี้ มีความรวดเร็วและรถอีวีเริ่มมีราคาที่ถูกลง ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้พลังงานในภาคขนส่ง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงการใช้น้ำมันเป็นไฟฟ้า อาจเป็นไปได้ ที่จะส่งผลต่อการใช้เชื้อเพลิงเบนซินและดีเซลในอนาคต โดยจะรวมถึงปริมาณการใช้เอทานอลและไบโอดีเซลอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน พพ.จึงต้อง เตรียมวางแผนการบริหารจัดการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในอนาคต ให้สอดรับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่งของประเทศ"นายพงษ์ศักดิ์กล่าว