กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--โรงพยาบาลลานนา
โรงพยาบาลลานนา ออกเตือนอันตรายในฤดูร้อน อาการสำคัญ "เหงื่อไม่ออก ตัวร้อนมากขึ้น หายใจติดขัด หน้ามืด เวียนหัว คล้ายจะเป็นลม" ... ระวังให้ดี !!! นี่คือสัญญาณของโรคลมแดด … แนะนำเลี่ยงการอยู่กลางแดดนานๆ สวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ และดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากความร้อน
จากสภาพในบ้านเราที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ทั้งร้อน ทั้งหนาว สลับกับฝนตก บวกกับพายุฤดูร้อนที่มาเป็นระยะๆ ทำให้เราต้องปรับตัวรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ โดยเฉพาะอากาศที่ร้อนจัดอาจจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรค (Heat Stroke) ก็เป็นได้ วันนี้ นพ.อภินันท์ ตันติวุฒิ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลลานนา จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะอันตรายของโรคลมแดด กันครับ
นพ.อภินันท์ ตันติวุฒิ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลลานนา ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะ Heat Stroke หรือโรคลมแดด ว่า "ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัวแล้ว อากาศก็ร้อนอบอ้าว ภัยเงียบที่เราอยากจะเตือนกันมากที่สุด ก็มาจากความร้อนนั่นแหละครับ ก็คือ โรคลมแดด (Heat Stroke) เป็นภาวะวิกฤติของร่างกาย ไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ เกิดจากการที่ร่างกายอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง และร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ทำให้มีอุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ร่างกายกำจัดความร้อนจากการเผาผลาญพลังงานออกไม่ได้ตามปกติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยขาดน้ำ เกิดภาวะช็อกได้ อาการในลักษณะนี้ เป็นภาวะอันตราย ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ หากไม่รับการช่วยเหลือที่ทันท่วงที
ทั้งนี้แนะนำให้เฝ้าสังเกตอาการของตนเองด้วยว่ากำลังจะเป็นโรคลมแดดหรือไม่ โดยอาการเบื้องต้นของโรคนี้คือ ไม่มีเหงื่อออก แม้จะอากาศร้อน หน้าแดง ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน กล้ามเนื้อเกร็ง รูม่านตาขยาย ความรู้สึกตัวลดน้อยลง อาจหมดสติ หัวใจเต้นเร็วแต่แผ่วเบา ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและทันเวลา อาจทำให้หัวใจหยุดเต้น และถึงแก่ชีวิตได้
"สำหรับวิธีในการป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดดคือ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วและหากท่านต้องทำงาน หรือปฏิบัติภารกิจภายใต้อากาศที่ร้อนจัดจะต้องดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ1 ลิตรและควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี พร้อมกับหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีแดดแรง ๆ ด้วย"
แต่หากท่านใดที่พบเจอผู้ที่เป็นโรคลมแดดสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ โดยนำผู้ป่วยเข้าที่ร่ม ให้นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือพรมน้ำผู้ป่วย บริเวณใบหน้า ลำคอ รักแร้ ข้อพับต่างๆ เพื่อระบายความร้อน ร่วมกับใช้พัดลมเป่าหรือพัดให้ผู้ป่วยระบายความร้อน ดื่มน้ำหรือเกรือแร่ เพื่อทดแทน แล้วรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยด่วน โรงพยาบาลลานนา มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย สอบถามเพิ่มเติมได้ทาง โทรศัพท์ 053-999-777 หรือทางเว็บไซต์ www.lanna-hospital.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : นพ.อภินันท์ ตันติวุฒิ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลลานนา