กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดราชบุรี ก่อนจะมีการประชุมครม.สัญจร ที่จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของครม.ชุดนี้ หลังจากมีการเลือกตั้ง ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมความก้าวหน้ากิจการสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ตำบลหนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี พร้อมทั้งได้ชมพิพิธภัณฑ์สหกรณ์โคนมหนองโพ การผลิตนม UHT นิทรรศการด้านปศุสัตว์ พร้อมชมการสาธิตการเลี้ยงโคนมและให้อาหารโค ก่อนจะพบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่มารอให้การต้อนรับจำนวนมาก
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับสมาชิกสหกรณ์โคนมหนองโพฯ ว่า การทำสิ่งต่าง ๆ ไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่มีใครแก้ปัญหาได้โดยลำพัง บางคนมีหนี้มีสิน บางคนมีรายได้น้อย เพราะฉะนั้นจึงต้องรวมกลุ่มกัน ร่วมมือกันเป็นสหกรณ์ ซึ่งเป็นแนวทางในการช่วยเกษตรกรที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานไว้ ถ้าเราทำให้ถูกตามกติกา ใช้หลักสหกรณ์ให้ถูกให้เป็น สหกรณ์ก็จะเจริญก้าวหน้า กิจการของสหกรณ์จะเข้มแข็งและช่วยดูแลอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกการดำเนินงานของสหกรณ์ ในอนาคตอยากให้สหกรณ์ลองหาตลาดใหม่ ๆ และเปิดตลาดผลิตภัณฑ์นมของสหกรณ์ให้กว้างมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการบริโภคนมในประเทศ และพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อแปรรูปสินค้าที่ผลิตจากนมให้มีความหลากหลายตรงกับ ที่ตลาดและผู้บริโภคต้องการ นอกจากนี้ ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันหามาตรการรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก่อตั้งมากว่า 40 ปี ช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ ในเรื่อง "นม" และในอีก 5 ปีข้างหน้า ต้องเตรียมพร้อมเพื่อเผชิญกับการแข่งขันมากขึ้น โดยการหาวิธีช่วยเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้สามารถสู้กับตลาดต่างประเทศได้
สำหรับจุดเริ่มต้นของสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) เมื่อปี 2512 เกษตรกรผู้เลี้ยง โคนมในเขตจังหวัดราชบุรีและนครปฐมประสบปัญหาเรื่องไม่มีสถานที่จำหน่ายน้ำนมดิบที่รีดได้จากแม่โคนม สถานีผสมเทียมจังหวัดราชบุรี ได้นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเข้าเฝ้าละอองธุลีพระบาทฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวโรกาสที่เสด็จฯ เปิดโรงงานนมผงสวนจิตรลดา ณ พระราชวังสวนจิตรลดา และทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาถึงปัญหาความเดือดร้อนที่ไม่มีตลาดจำหน่ายน้ำนมดิบ พระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ความช่วยเหลือในการที่จะสร้างโรงงานนมผงขึ้น ต่อมาในปี 2513 นายทวิช กลิ่นประทุม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรีในขณะนั้นได้ทราบปัญหาของผู้เลี้ยงโคนม จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินจำนวน 1,400,000 บาท แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพิจารณานำมาช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมดังกล่าว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้พระราชทานเงินจำนวนนี้ร่วมกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 1,002,000 บาท ในการก่อสร้างและจัดตั้งโรงงานนมผงขึ้น ณ ตำบลหนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยได้ดำเนินการในรูปบริษัทจำกัด ใช้ชื่อว่า บริษัทผลิตภัณฑ์นม หนองโพ จำกัด และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์
ในระยะที่เกษตรกรได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา และรอรับการแก้ไขอยู่นั้น กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจึงได้ขอ ความช่วยเหลือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรีในขณะนั้นคือ นายจรูญ วัฒนากร ให้ช่วยติดต่อหาผู้รับซื้อน้ำนมดิบ จนกระทั่งได้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตกลงเป็นผู้รับซื้อ ต่อมากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม รวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็น 'ศูนย์รวมนมหนองโพ' ขึ้นในปี พ.ศ.2513 และเปิดรวบรวมน้ำนมดิบจากสมาชิก ต่อมาวันที่ 5 มีนาคม 2514 คณะกรรมการศูนย์รวมนมและสมาชิกได้ประชุมร่วมกันและมีมติจัดตั้งสหกรณ์โคนมขึ้น มีสมาชิกแรกตั้ง 185 คน โดยใช้ชื่อว่า 'สหกรณ์โคนมราชบุรี จำกัด ต่อมาในปี 2516 ได้เริ่มผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ครั้งแรก ทางสหกรณ์จึงขอจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น "สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด" ประเภทสหกรณ์การเกษตร เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2516
สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ได้ดำเนินกิจการมาเป็นเวลากว่า 48 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด ฯ ได้ดำเนินกิจการมาตามแนวพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมาโดยตลอด ดำเนินธุรกิจที่ตอบสนองและช่วยส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ทั้งการให้สินเชื่อเพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพ การรับฝากเงิน การจัดหาสินค้าและปัจจัยการผลิตมาจำหน่าย โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ธุรกิจรวบรวมและแปรรูปผลิตภัณฑ์นม ธุรกิจบริการ และส่งเสริมอาชีพการเกษตร โดยการให้บริการความรู้ด้านการเลี้ยงโคนมเพื่อให้ได้น้ำนมดิบที่มีคุณภาพ บริการผสมเทียม การดูแลสุขภาพโคนม และส่งเสริมการจัดทำฟาร์มโคนมของเกษตรกรให้มาตรฐาน
ปัจจุบัน สหกรณ์ฯ สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์นมได้หลากหลายชนิด ทั้งนมพาสเจอร์ไรส์ นม UHT โยเกิร์ต ไอศครีม และนมอัดเม็ด จำหน่ายไปทั่วประเทศ ทั้งในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านโชห่วย ช่องทางOn Line ผ่านเพจลาซาด้าและ Shopee ร้านหนองโพคาเฟ่ รวมถึงตลาดต่างประเทศ ได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาวและบรูไน คาดว่าในปี 2562 สหกรณ์จะมียอดขายผลิตภัณฑ์นมไม่น้อยกว่า 2,900 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ยังได้เพิ่มกำลังการผลิต ให้เพียงพอที่จะรองรับกับปริมาณน้ำนมดิบที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในเขตตำบลหนองโพและพื้นที่ใกล้เคียงผลิตได้ ทำให้เกษตรกรไม่มีปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องสถานที่จำหน่ายน้ำนมดิบ เมื่อเกษตรกรรวมกลุ่มกันเพื่อดำเนินงานในรูปสหกรณ์ ทำให้ได้รับประโยชน์ ทั้งเรื่องการผลิตน้ำนมดิบ การแปรรูปและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมของสหกรณ์ ที่ส่งผลต่อการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรในตำบลหนองโพ ซึ่งนับได้ว่าสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) คือทางออกของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้อย่างแท้จริง