กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--เอบีเอ็ม คอนเนค
บ๊อชร่วมงาน Worlddidac Asia 2019 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการเร่งผลักดันให้ประเทศไทยปรับเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-based Economy)
ยุคอุตสาหกรรม 4.0 และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตออฟทิงส์หรือ IoT เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินงานของหลายธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ซึ่งบ๊อชเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรม 4.0 ไม่ใช่เป็นการนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานคน แต่เป็นการจัดโครงสร้างให้พร้อมสำหรับการฝึกอบรมขั้นสูงสำหรับคนทำงานเดิมและคนที่เข้ามาใหม่ ให้สามารถเข้าใจและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและโซลูชั่นออนไลน์ได้ในทางปฏิบัติ เมื่อต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล
ในฐานะที่เป็นองค์กรชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อการควบคุมและขับเคลื่อน บ๊อชจึงมีความพร้อมด้วยทักษะและความชำนาญด้านเทคโนโลยีระดับแนวหน้า ทั้งในฐานะที่เป็นผู้ใช้งานภายในและ ผู้ให้บริการภายนอก ซึ่งประสบการณ์ทั้งสองด้าน ได้นำมาพัฒนาเป็นหลักสูตรฝึกอบรม ระบบต่างๆ เครื่องมือช่วยเรียนรู้ และสื่อการเรียนการสอนต่างๆ
มร.นิโคไล เคอโนซอฟ ผู้จัดการทั่วไป บ๊อช เร็กซ์รอธ ประเทศไทย กล่าวว่า "วิสัยทัศน์ของบ๊อชที่มีต่อโรงงานแห่งอนาคต (Factory of the Future) ในประเทศไทย และในประเทศอื่นๆ คือ พนักงานจะต้องสามารถปรับตัวและพัฒนาชุดทักษะความเชี่ยวชาญใหม่ที่ครอบคลุมกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่การทำ Data Mining ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยี Augmented Reality"
งานประชุม Worlddidac Asia 2019 ที่ผ่านมา บ๊อชได้นำเสนอระบบ E-Learning E-Training และระบบฝึกอบรมภาคปฏิบัติต่างๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาวิชาชีพให้ก้าวหน้า โดยใช้ประโยชน์จากมัลติมีเดีย ภาพประกอบ แอนิเมชั่น และวิดีโอต่างๆ ทั้งนี้ Learning Curve จะมีความราบเรียบมากขึ้นและบริหารจัดการได้ดีกว่า เมื่อมีข้อเท็จจริง กระบวนการ และประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ซับซ้อน สามารถแก้ไขได้ด้วยโซลูชั่นและกรณีศึกษาที่ปฏิบัติได้จริงและเข้าใจง่าย
จากงาน Asia Education Leadership Forum ที่รู้จักกันในอดีต ปัจจุบันกลายเป็น Worlddidac สมาคมการค้าระดับโลกที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกับภาคการศึกษาและสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อช่วยกันพัฒนาและยกระดับภาคการศึกษา ทั้งนี้สมาชิกของ Worlddidac ประกอบด้วยผู้ผลิตสื่อการศึกษา ตัวแทนจำหน่าย ผู้จัดจำหน่าย สมาคมระหว่างประเทศ สถาบันภาครัฐ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และเจ้าของกิจการเอกชนต่างๆ ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจการศึกษาในทุกระดับและแขนงวิชา
บ๊อช เร็กซ์รอธ ได้ร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร เช่น บริษัท เจ็ต (ประเทศไทย) จำกัด ในการแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานประชุมเห็นถึงจุดเด่นของโมเดลการศึกษาและหลักสูตรการเรียนการสอนที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้ตอบโจทย์เฉพาะ โดยสามารถวางรากฐานสำคัญและนำไปปฏิบัติได้จริง มุ่งเน้นการนำมาใช้กับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่อยู่ในหลายสาขาวิชา อาทิ ไฮดรอลิก นิวเมติก เมกคาทรอนิก และออโตเมชั่น
เร็กซ์รอธ ยังได้จัดแสดงระบบ mMS4.0 ซึ่งเป็นโมดูลการฝึกอบรมด้านเมกคาทรอนิกที่ช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้ประสบการณ์ของผู้ใช้จริงในทางปฏิบัติ ภายใต้สภาพแวดล้อมการผลิตจริง โดยใช้อุปกรณ์มาตรฐานด้านอุตสาหกรรม แทนการอบรมผ่านแบบจำลองเหตุการณ์
ทั้งนี้ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ดร.วาสสิลิออส ฟเตนาคิส ประธานการจัดงานและประธานสมาคม Didacta กิตติมศักดิ์ ได้เข้าเยี่ยมชมบูธของ บ๊อช เร็กซ์รอธ โดยมี มร.นิโคไล เคอโนซอฟ ให้การต้อนรับ
มร.เคอโนซอฟ ได้สรุปการบรรยายโดยแสดงให้ว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนาและแก้ปัญหา เพื่อให้พร้อมรับมือกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยกล่าวว่า "ยุคแห่งการค้นพบเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อหลักสูตรการเรียนและธุรกิจต่างๆ ในการนำไปปฏิบัติจริง ทั้งเรื่อง IoT ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และโรโบติก กระบวนการผลิตและระบบออโตเมชั่นต่างๆ ให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมทั้งหมด ซึ่งเป็นทั้งความท้าทายและเป็นโอกาสสำหรับนักเรียนและพนักงาน การที่บ๊อชได้นำโซลูชั่นที่เชื่อมต่อกันมาใช้ในโรงงานของตัวเองกว่า 280 แห่ง แสดงให้เห็นว่าบ๊อชมองเห็นความท้าทายต่างๆ เป็นปัจจัยที่เสริมสร้างให้เกิด Learning Curve และเป็นสิ่งที่จะสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ด้วยโมเดลการทำงานในแบบบ๊อชที่ได้รับการพิสูจน์และเห็นผลจริง"
เกี่ยวกับบ๊อชในประเทศไทย
บ๊อชได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2466 ปัจจุบัน บ๊อชสร้างความหลากหลายในธุรกิจถึงสี่ด้าน ได้แก่ โซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อน เทคโนโลยีอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค และเทคโนโลยีพลังงานและอาคาร บริษัทมีโรงงานผลิตในธุรกิจโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อนสองแห่ง พร้อมทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา อีกทั้งสำนักงานขายและศูนย์บริการสำหรับอุปกรณ์ไฮดรอลิกและเครื่องจักรในจังหวัดระยอง ในปีที่ผ่านมา บ๊อชในประเทศไทยมีพนักงานกว่า 1,500 คน ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.bosch.co.th และ https://www.facebook.com/BoschThailand
เกี่ยวกับกลุ่มบ๊อช
กลุ่มบริษัทบ๊อช ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีและบริการชั้นนำของโลก มีพนักงานทั่วโลกกว่า 410,000 คน (ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561) ปี 2561 บริษัทมียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 78.5 พันล้านยูโร โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจสำคัญได้แก่ กลุ่มโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อน กลุ่มเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานและอาคาร ในฐานะผู้นำทางด้าน IoT (Internet of Things) บ๊อชนำเสนอนวัตกรรมแห่งโซลูชั่นส์เพื่อบ้านอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ ยานยนต์ และ อุตสาหกรรมที่สามารถเชื่อมต่อถึงกัน ด้วยความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเซนเซอร์ ซอฟท์แวร์ และการให้บริการ รวมถึงไอโอทีคลาวด์ของบ๊อชเอง เราจึงสามารถให้บริการโซลูชั่นส์ที่เชื่อมต่อแบบข้ามโดเมนได้เบ็ดเสร็จจากแหล่งเดียว เป้าหมายกลยุทธ์ของเรา คือการส่งมอบนวัตกรรมและสร้างแรงบันดาลใจเพื่อชีวิตที่เชื่อมต่อถึงกัน ผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการเสนอคำตอบที่ล้ำสมัยและเป็นประโยชน์ที่นับได้ว่าเป็น "เทคโนโลยีเพื่อชีวิต" กลุ่มบ๊อช ประกอบด้วยบริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จีเอ็มบีเอช และบริษัทในเครืออีกกว่า 460 บริษัท รวมถึงสำนักงานระดับภูมิภาคในประเทศต่าง ๆ อีกกว่า 60 ประเทศ หากรวมบริษัทคู่ค้าผู้จัดจำหน่ายและให้บริการต่าง ๆ ทั้งส่วนการผลิต งานวิศวกรรม และเครือข่ายด้านการขาย บ๊อชครอบคลุมอยู่เกือบทุกประเทศทั่วโลก เพราะพื้นฐานสำคัญสำหรับการขยายตัวในอนาคตของบริษัทขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรม บริษัทจึงมีพนักงานในส่วนการวิจัยและพัฒนากว่า 68,700 คน ในศู นย์วิจัยกว่า 130 แห่งทั่วโลกในปัจจุบัน