กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--กรมส่งเสริมการเกษตร
จากการที่มีพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนราษฎรในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับความเสียหายจากอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโพดุล ภาวะฝนทิ้งช่วง และภาวะฝนแล้ง ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการเจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย หลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอขอรับเงินชดเชยตามระเบียบ พร้อมส่งมอบปัจจัยการผลิตสนับสนุนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรหลังน้ำลด
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี 2562 จาก3 ภัยธรรมชาติ คือ ภาวะฝนทิ้งช่วง ภาวะฝนแล้ง และอุทกภัยจากพายุโพดุล ให้เกษตรกร รวมทั้งสิ้น 26,200 ราย เป็นเงินกว่า 344 ล้านบาท พร้อมมอบพันธุ์พืช 3 ชนิด ได้แก่ พริก มะเขือ และมะละกอ เป็นพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีผลดก รวมทั้งสิ้น 4,000 ต้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มอบหมายให้ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 7 จังหวัดมหาสารคาม ดำเนินการขยายพันธุ์ไว้ เพื่อให้เกษตรนำไปปลูกลดรายจ่ายและสร้างรายได้มาสู่ครอบครัว ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับการมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในปี 2562 จ.ขอนแก่น จากภัยพิบัติ 3 ภัย ดังนี้
1) ภาวะฝนทิ้งช่วง วันที่ 4 กรกฎาคม 2562 พื้นที่ 19 อำเภอ ได้แก่ อ.พล อ.หนองสองห้อง อ.แวงน้อย อ.บ้านไผ่ อ.ชนบท อ.แวงใหญ่ อ.พระยืน อ.โนนศิลา อ.โคกโพธิ์ไชย อ.บ้านแฮด อ.ชุมแพ อ.มัญจาคีรี อ.น้ำพอง อ.ภูผาม่าน อ.บ้านฝาง อ.เวียงเก่า อ.อุบลรัตน์ อ.หนองนาคำ และอ.ซำสูง จำนวนเกษตรกร 81,193 ราย พื้นที่เสียหาย ประมาณ 8.5 แสนไร่
2) ภาวะฝนแล้ง วันที่ 4 กรกฎาคม 2562 พื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.หนองเรือ อ.ภูเวียง อ.สีชมพู และ อ.กระนวน จำนวนเกษตรกร 32,884 ราย พื้นที่เสียหาย 2.5 แสนไร่
3) อุทกภัย (พายุโพดุล) พื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ชนบท อ. บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด และ อ.เปือยน้อย จำนวนเกษตรกร 1,287 ราย พื้นที่เสียหาย 6,988 ไร่
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกพืชที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ หากมีพื้นที่ทำการเพาะปลูกเสียหายโดยสิ้นเชิง และเป็นเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร จะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เสียหายจริง รายละไม่เกิน 30 ไร่ ได้แก่ ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่นๆ อัตรา ไร่ละ 1,690 บาท ทั้งนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติและผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตพื้นที่การให้ความช่วยเหลือฯ เกษตรกรต้องยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) โดยให้ผู้นำท้องถิ่นรับรอง ก่อนที่จะมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกร และพื้นที่เสียหายจริง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน.-