กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ไออาร์ พลัส
APP มั่นใจเข้าเทรดในตลาด mai วันแรก 22 พ.ย.นี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หนุนราคาเหนือจอง จากราคาไอพีโอที่ตั้งไว้ระดับ 2.46 บาท/หุ้น "สมภพ กีระสุนทรพงษ์" กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส FA และ Lead underwrite เชื่อเป็นอีกหนึ่งหุ้นเด่นในตลาด mai ปีนี้ ที่ราคา IPO 2.46 บาท มีค่า P/E Ratio 10.44 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับสภาวะของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน สะท้อนความเชื่อมั่นและโอกาสในการลงทุน ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาหุ้นที่มีการเติบโตสูง อัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 45% แถมมีสัดส่วน Recurring Income ถึง 30 % แม่ทัพใหญ่ "ประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์" ประกาศชัดพื้นฐานธุรกิจแน่นปึ้ก ชี้เงินที่ได้จากการระดมทุนช่วยหนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต ตอกย้ำการเป็นหุ้น Growth Stock สุดแกร่ง
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) หรือ APP เปิดเผยถึง APP หุ้นใหม่ล่าสุดที่จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน มั่นใจปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นหุ้นเทคโนโลยีที่มีโอกาสการเติบโตสูง จากกระแสของภาครัฐและเอกชนที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนองค์กรไปสู่ยุคดิจิตอล (Digital Transformation) ด้วยราคาไอพีโอที่หุ้นละ 2.46 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) 10.44 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับสภาวะของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน โดยบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 5 แห่งที่ร่วมเสนอขาย ได้ประเมินช่วงราคาเหมาะสมปี 2563 ไว้ที่ 3.48 บาท ถึง 4.20 บาท ยิ่งทำให้หุ้น APP น้องใหม่ไอพีโอตัวนี้ เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจและมีความโดดเด่นอีกตัวหนึ่ง มั่นใจหุ้น APP จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน
นายประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) หรือ APP กลุ่มผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นสำหรับการออกแบบอย่างครบวงจร เชื่อมั่นว่าหุ้น APP ที่มีกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 นี้ จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนได้อย่างสง่างาม เนื่องจากเป็นบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ในธุรกิจมายาวนานกว่า 25 ปี ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ จะยิ่งทำให้ APP แข็งแกร่งพร้อมรับปัจจัยบวกด้านเทคโนโลยี และการขยายตัวของอุตสาหกรรมในอนาคต รวมถึงช่วยสนับสนุนแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำในระดับอาเซียนได้เป็นอย่างดี โดยผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 3/2562 ที่ประกาศออกมา มีรายได้รวมอยู่ที่ 237.04 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 29.07 ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิของงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 ที่อยู่ที่ 20.51 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2562 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 569.30 ล้านบาท กำไรขั้นต้นรวมจำนวน 263.98 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 46.89% และมีส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 49.59 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 8.71% ตั้งเป้าหมายปี 2562 เติบโตต่อเนื่องจากปี 2561 ทำไว้ที่ 739 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในหุ้น Growth Stock ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
"มั่นใจหุ้น APP จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน และสามารถยืนเหนือราคาจองได้ ผมเชื่อมั่นในพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นสำหรับการออกแบบอย่างครบวงจร ประกอบกับ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ อยู่ในระดับที่สูง โดยการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยหนุนให้บริษัทฯ เป็นผู้นำในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านการให้คำปรึกษาและคัดสรรผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางด้านออกแบบและผลิต รวมถึงการก่อสร้าง ตามเป้าหมายที่บริษัทฯมุ่งหวังไว้ และจะไม่ทำให้นักลงทุนทุกท่านผิดหวัง " นายประภาส กล่าว
ข้อมูลสรุปบริษัทแอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) (APP)
บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นด้านการออกแบบอย่างครบวงจร ทั้งซอฟต์แวร์สำหรับออกแบบอุตสาหกรรม (MEC) และสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง (AEC) รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการออกแบบ 3 มิติ (Hardware) ได้แก่ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) และเครื่องสแกน 3 มิติ ตลอดจนการให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง โดยกลุ่มบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายจากผู้ผลิตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์แบรนด์ชั้นนำ และสามารถแบ่งธุรกิจหลักของบริษัทฯ ดังนี้ ธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบ เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้แก่กลุ่มบริษัทฯ ได้แก่ ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบอุตสาหกรรม (MEC) ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง (AEC)
ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการออกแบบ 3 มิติ (ฮาร์ดแวร์) ได้แก่ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) และเครื่องสแกน 3 มิติ (3D Scanner) รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ธุรกิจการบริการและฝึกอบรมการใช้งานซอฟต์แวร์ ผ่านบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ดีอีทีไอ จำกัด และบริษัท แรบบิท โปรโตไทป์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด นอกจากนี้ ได้ขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซียผ่าน PT. Indonesia AppliCAD (APP Indo) บริษัทย่อย ซึ่งประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นด้านการออกแบบ 3 มิติ ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 67 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด