กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองผู้อำนวยการสำนักการโยธารักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวกรณีสื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตการซ่อมแซมผิวจราจรของ กทม. ที่ชำรุดอาจเป็นการสร้างปัญหาให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังใช้วิธีการและมาตรฐานแบบเดิมที่ใช้แอสฟัลต์มาปูทับ ทำให้ผิวจราจรไม่ราบเรียบ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ว่าการซ่อมแซมผิวจราจรของ กทม. ดำเนินการตามมาตรฐานงานทางและเป็นไปตามหลักวิศวกรรมจึงมีความมั่นคงแข็งแรง โดยการจัดซ่อมผิวจราจรด้วยวิธี overlay หรือ patching ซึ่งจะมีการตรวจสอบ ผิวแอสฟัลต์เดิมก่อนว่าสามารถปูทับใหม่เพื่อจัดซ่อมได้หรือไม่ หากแอสฟัลต์เดิมหลุดร่อนเนื่องจากหมดสภาพต้องไสแอสฟัลต์เดิมก่อนการปูทับ และหลังจากปูแอสฟัลต์ใหม่แล้วจะต้องใช้รถบดและเครื่องตบ เพื่อให้แอสฟัลต์เกิดความเรียบ แน่น และมั่นคงแข็งแรง นอกจากนี้ สนย.ยังมีการตรวจสอบถนนทุกเส้นทาง เพื่อบำรุงรักษาตามวงรอบทุก 15 วัน หากพบชำรุดเป็นหลุมบ่อจะจัดหน่วยซ่อมเข้าดำเนินการโดยทันทีและในถนนสายเก่าหรือถนนที่คาดจะมีโพรงข้างใต้จะใช้เครื่องมือเพื่อสแกนตรวจสอบโพรง ข้างใต้พื้นผิวจราจร หากพบการเกิดโพรงจะเข้าดำเนินการจัดซ่อมทันที
นางชุลีพร วงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการเขตสาทร กทม. กล่าวถึงการจัดซ่อมผิวจราจรถนนเชื้อเพลิง ที่ชำรุดว่า หากพบผิวจราจรชำรุด สำนักงานเขตฯ จะเร่งรัดดำเนินการซ่อมแซมในเบื้องต้น ซึ่งจากการตรวจสอบ ถนนเชื้อเพลิงอยู่ใต้ทางด่วนจึงมีน้ำจากท่อตกลงมาผิวจราจร ทำให้เกิดการชำรุด ประกอบกับมีปริมาณรถบรรทุกสัญจรไปมาจำนวนมาก สำนักงานเขตฯ จึงเร่งดำเนินการแก้ไขตามมาตรฐานงานทางของ กทม.