กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร พร้อมเยี่ยมชมผลงานของโรงเรียน ณ โรงเรียนนราสิกขาลัย อ.เมือง จ.นราธิวาส ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแนวคิดที่จะร่วมกับสถานศึกษาเพื่อให้มีองค์ความรู้ด้านการเกษตรฯ ให้กับทางโรงเรียนไว้ใช้ในการสอนให้กับเด็กนักเรียน ในเรื่องการส่งเสริมการพัฒนาการเกษตร ที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักคิด และให้เด็กนักเรียนนำไปเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องการปลูกพืชผักสวนครัว การเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะไก่ไข่ ซึ่งจะมีการฝึกให้กับเด็กนักเรียนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยในส่วนการส่งเสริมการปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์ อาจนำมาเป็นอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน และอาจขยายต่อในการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับเด็กนักเรียน และนำไปพัฒนาสู่แนวทางการส่งเสริมการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงได้ในอนาคต
จากนั้นได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอสุไหปาดี เพื่อพบปะประชาชนและรับฟังปัญหาเรื่องที่ดินและพื้นที่ที่มีปัญหาจากเกษตรกร อีกทั้งได้เดินทางไปเยี่ยมชมการแปรรูปข้าว และพบปะเกษตรกรกลุ่มปลูกข้าวหอมกระดังงา ณ บ้านตอหลัง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งจากการรับฟังปัญหาจากเกษตรกรในพื้นที่พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ยังมีปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินจำนวนมาก เช่นเดียวกับพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เร่งรัดในการจัดรูปที่ดินให้กับเกษตรกรให้เร็วที่สุด โดยยอมรับว่าการจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกรขณะนี้ค่อนข้างมีปัญหา เนื่องจากมีพื้นที่ทับซ้อนจำนวนมาก และขณะนี้มีทั้งพื้นที่อุทยาน พื้นที่กรมป่าไม้ ทับซ้อนกับพื้นที่ของ ส.ป.ก. จำนวนมาก จนเป็นปัญหาต่อการจัดสรรพื้นที่ทำกินให้กับเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางรัฐบบาลกำลังเร่งรัดในการแก้ปัญหาในส่วนพื้นที่ทับซ้อนทั้งหมด โดยจะให้ใช้มาตรตราส่วนเดียวกันทุกหน่วยงาน โดยในอัตราส่วนเดียวกันทั้งหมด คือในมาตรส่วน 1 ต่อ 4,000 หรือวันแมป เพื่อป้องกันการทับซ้อน เบื้องต้นไดเสนอแนวทางต่อนายกรัฐมนตรีรับทราบและเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยจะมีการนำเสนอต่อ ครม.ให้เร็วที่สุด และคิดว่าน่าจะเป็นการแก้ปัญหาแบบยั่งยืนได้
"ในส่วนปัญหาที่ดินทำกินของพื้นที่ จ.นราธิวาส จากนี้ไปจะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด และต้องมีความชัดเจนในการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกร และจะต้องมีความโปร่งใส ขณะเดียวกัน พื้นที่อื่น ๆ การจัดสรรณที่ดินก็ต้องมีความโปร่งใสเช่นเดียวกัน และจากนี้ไปพื้นที่ ส.ป.ก. ทั้งหมดที่เหลืออีก 20,000 กว่าไร่ ต้องมีการจัดสรรณที่ชัดเจนและโปร่งใส โดยจะดำเนินการให้หมดภายใน180 วัน" ร้อยเอก ธรรมนัส