กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
สทนช.และกรมพัฒนาที่ดิน ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการใช้แผนที่และข้อมูลทางแผนที่ หวังใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการวิเคราะห์คาดการณ์สถานการณ์น้ำ รวมทั้งการวางแผนในระดับลุ่มน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และนางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน (พด.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการใช้แผนที่และหรือข้อมูลทางแผนที่ ระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติกับกรมพัฒนาที่ดิน โดยมี นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการ สทนช. และนายสถาพร ใจอารีย์ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ร่วมลงนามเป็นพยานในบันทึกข้อตกลงฯ พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 หน่วยงาน เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ห้องประชุมน้ำปิง ชั้น 4 อาคารจุฑามาศ สทนช. เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า จากการที่ สทนช. ได้ร่วมบูรณาการทำงานกับหน่วยงานด้านน้ำมากกว่า 40 หน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด พบว่า ฐานข้อมูลที่ได้จากหลากหลายหน่วยงานนั้น มีประโยชน์อย่างมากในการนำมาต่อยอดการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ จึงมีแนวคิดที่จะนำฐานข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาทิ เพื่อใช้ในการจัดทำผังน้ำ การวิเคราะห์ข้อมูลด้านการบริหารจัดการน้ำ ประกอบกับภารกิจในก้าวต่อไปของ สทนช. ตามบทบาทที่เพิ่มขึ้นจากพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 จึงมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลทางแผนที่และข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการวิเคราะห์และคาดการณ์สถานการณ์น้ำด้วย และได้เล็งเห็นว่า กรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านแผนที่และมีฐานข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินของทั้งประเทศ รวมทั้งมีการพัฒนาแบบจำลองเชิงพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพและมีค่าความแม่นยำสูง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญและเป็นประโยชน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) สำหรับนำมาประกอบการวิเคราะห์สภาพภูมิประเทศในระดับลุ่มน้ำและจัดทำแบบจำลองคณิตศาสตร์ เพื่อกำหนดนโยบายและแผนแม่บทที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติต่อไป จึงมั่นใจว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงจะมีประโยชน์กับภารกิจของ สทนช. เท่านั้น จะยังประโยชน์ให้กับประเทศชาติอีกด้วย ซึ่งอนาคต สทนช. และกรมพัฒนาที่ดิน จะมีความร่วมมือในการทำงานด้านอื่นๆ ต่อไป
ด้าน นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีภารกิจที่สำคัญในด้านการพัฒนาที่ดินและการอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ สทนช. ในการจัดหาแหล่งน้ำสาธารณะให้กับชุมชน ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) และเนื่องจากกรมพัฒนาที่ดิน มีข้อมูลพื้นฐานด้านแผนที่และการใช้ที่ดินจำนวนมาก อาทิ ภาพถ่ายออร์โธสีเชิงเลข แผนที่เขตป่าไม้ถาวร แผนที่สภาพการใช้ที่ดิน เป็นต้น จึงได้เปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามาใช้บริการฐานข้อมูล อันจะเป็นประโยชน์และสามารถต่อยอดเชื่อมโยงในการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการพัฒนาประเทศและยกระดับภาครัฐให้ก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ มีความยินดีอย่างยิ่งและพร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูลด้านการใช้แผนที่และข้อมูลแผนที่ ตามกรอบแห่งความร่วมมือของบันทึกข้อตกลงต่อไป
สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการใช้แผนที่และหรือข้อมูลทางแผนที่ ระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติกับกรมพัฒนาที่ดิน มีกำหนดระยะเวลา 10 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความร่วมมือในการใช้แผนที่และหรือข้อมูลทางแผนที่ของทั้งสองหน่วยงาน ในการปฏิบัติงานร่วมกันและแต่ละฝ่ายจะทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมีกรอบความร่วมมือในการดำเนินงานเพื่อขอรับการสนับสนุนและให้บริการแผนที่และข้อมูลแผนที่ในพื้นที่ดำเนินการที่เกี่ยวข้อง ตามความจำเป็นและเหมาะสม ดังนี้ (1)ภาพถ่ายทางอากาศสีเชิงเลข มาตราส่วน 1: 25,000 (2)ภาพถ่ายออร์โธสีเชิงเลข มาตราส่วน 1: 25,000 (3)ภาพถ่ายออร์โธสีเชิงเลข มาตราส่วน 1: 4,000 (4)แผนที่เส้นชั้นความสูงเชิงเลข มาตราส่วน 1: 4,000 (5)แบบจำลองระดับสูงเชิงเลข มาตราส่วน 1: 4,000 (6)หมุดหลักฐานภาคพื้นดิน (7)แผนที่สภาพการใช้ที่ดิน (8)ข้อมูลดิน และ(9) แผนที่แสดงชั้นความเหมาะสมของการปลูกพืชเศรษฐกิจ