กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--DDR
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำเจ้านายฝ่ายเหนือและประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ร่วมบวงสรวงดวงพระวิญญาณของพระเจ้าอินทวิชยานนท์เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 ครบรอบ122 ปี
ที่บริเวณลานหน้าพระสถูปพระเจ้าอินทวิชยานนท์ บนยอดดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทองจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณพระเจ้าอินทวิชยานนท์ในงานประเพณีไหว้สาพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ประจำปี 2562 โดยคณะทายาทเจ้านายฝ่ายเหนือ ร่วมกับ มูลนิธิพระสถูปพระเจ้าอินทวิชยานนท์สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สภาวัฒนธรรมอำจอมทอง และหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีของพระเจ้าอินทวิชยานนท์เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 ที่ได้สร้างประโยชน์สุขนานัปการไว้กับชาวเชียงใหม่
สำหรับการจัดพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณหรือ งานไหว้สาพระเจ้าอินทวิชยานนท์ จะจัดขึ้นในวันที่ 23 พฤศจิกายนของทุกปี ถือเป็นงานประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานเนื่องจากเป็นวันคล้ายวันถึงแก่พิราลัยของพระเจ้าอินทวิชยานนท์และได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 23 แล้ว โดยปีนี้มีประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวมาร่วมในกิจกรรมจำนวนมาก
ภายในงานมีการจัดขบวนแห่พานพุ่มดอกไม้และเครื่องสักการะของคณะทายาทเจ้านายฝ่ายเหนือและหน่วยงานต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่ตระการตาเริ่มต้นตั้งแต่บริเวณสถานีควบคุมและรายงานดอยอินทนนท์ (สถานีเรดาร์)เคลื่อนขบวนเข้ามาจนถึงบริเวณลานพิธี ระยะทางกว่า 500 เมตรมีการกล่าวเฉลิมพระเกียรติฯ แสดงความกตัญญูต่อเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่การฟ้อนรำถวาย การประกอบพิธีกรรมทางศาสนารวมถึงมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระเจ้าอินทวิชยานนท์ให้ประชาชนได้รับทราบ
ทั้งนี้ พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เดิมชื่ออินทนนท์ เป็นบุตรของพระเจ้ามหาพรหมคำคง และแม่เจ้าคำหล้าขึ้นครองนครเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.2413 เป็นเจ้าหลวงเชียงใหม่ องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าเมืองประเทศราชองค์สุดท้ายและเป็นพระราชบิดาในพระราชชายาเจ้าดารารัศมีพระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงครองนครเชียงใหม่จนกระทั่งถึงแก่พิราลัยในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2440 ด้วยโรคชรา รวมระยะเวลา 24 ปีตลอดระยะเวลาพระองค์ทรงสร้างคุณประโยชน์ให้แก่เมืองเชียงใหม่อย่างมากมายทั้งด้านการศึกษาการศาสนา การเมือง การปกครองและเศรษฐกิจ ภายหลังเสด็จพิราลัยพระอัฐิส่วนหนึ่งได้เชิญไปประดิษฐาน ณ พระสถูปพระอัฐิในกู่เจ้านายฝ่ายเหนือวัดสวนดอก พระอารามหลวง และอีกส่วนหนึ่งอัญเชิญไปประดิษฐาน ณพระสถูปบนยอดดอยอินทนนท์อันเป็นสถานที่ซึ่งพระองค์ทรงรักและหวงแหนมากที่สุดและได้นามตามพระนามของพระองค์ด้วย