กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--ม.มหิดล
ในยุคดิสรัปชั่นที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ศาสตร์ด้านสะเต็มศึกษา (Science Technology Engineering and Mathematics: STEM Education) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ใหม่ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสังคม
เมื่อเร็วๆ นี้ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการเปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อสะเต็มศึกษา คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ศูนย์ MUSC-STEM EDUCATION ซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศ Euro-Asia Collaboration for Enhancing STEM Education (EASTEM) โดยได้รับทุนสนับสนุนงบจาก Erusmus+ Programme ประกอบด้วยเครือข่ายความร่วมมือจาก 15 สถาบันที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านสะเต็มศึกษา ทั้งในยุโรป (สวีเดน ลิทัวเนีย ฝรั่งเศส) และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย) โดยมีมหาวิทยาลัย Uppsala ประเทศสวีเดน เป็นสถาบันหลักของเครือข่าย ซึ่งศูนย์ความเป็นเลิศ MUSC-STEM EDUCATION ตั้งอยู่ ณ ชั้น 1 อาคารวิทยาศาสตร์ 4 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
รองศาสตราจารย์ ดร. วรรณพงษ์ เตรียมโพธิ์ ประธานกรรมการศูนย์ความเป็นเลิศ MUSC-STEM EDUCATION เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาศูนย์ฯ มีบทบาทในการสนับสนุนการเรียนการสอน และการจัดฝึกอบรมด้านสะเต็มศึกษา โดยมุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศในทุกระดับ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงอุดมศึกษา รวมถึงบุคลากรที่อยู่ในสายอาชีพต่างๆ เพื่อให้สามารถบูรณาการความรู้ และเข้าถึงศาสตร์ที่จำเป็นต่อการพัฒนาตนเอง สามารถเชื่อมโยงและแก้ปัญหาในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต
"3 ปีที่ผ่านมา มีสถาบันการศึกษาในระดับชั้นต่างๆ มาจัดค่ายที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กว่า 200 ครั้ง โดยมีเครือข่ายรวมทั้งสิ้น 72 โรงเรียน ซึ่งเราสามารถจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาโดยการออกแบบตามความต้องการของแต่ละโรงเรียนในหลากหลายรูปแบบทั้งในและนอกคณะวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ ศูนย์ความเป็นเลิศ MUSC-STEM EDUCATION ได้ถูกริเริ่มขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบการขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับทั้งความเป็นสากลและบริบท ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมแบบ DIY การทดลอง การสำรวจ Project-based learning ตลอดจนการจัดกิจกรรมแบบ Challenge หรือการแข่งขัน โดยเป้าประสงค์หลักไม่ได้ขึ้นอยู่กับมูลค่าหรือการทำตามกระแส แต่อยู่ที่การสร้างคุณค่าของการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนได้เข้าใจกระบวนการเรียนรู้และสามารถออกแบบการเรียนรู้ตามศักยภาพของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมากิจกรรมของของเราเป็นที่รู้จักและยอมรับเป็นอย่างมาก ดังนั้นเป้าหมายต่อมาคือการมุ่งสู่ระดับนานาชาติเพื่อยกระดับมาตรฐานกิจกรรมและสร้างเครือข่ายในการแชร์ทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ระหว่างกัน ซึ่งนอกจากจะนำไปสู่การยอมรับแล้ว จะทำให้ผลงานที่เราทำ สามารถส่งผลกระทบในวงกว้างขึ้นต่อไป โดยหลังจากที่มีการเปิดตัวศูนย์ฯ อย่างเป็นทางการ เราได้ประเดิมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการด้านสะเต็มศึกษาระดับนานาชาติของ โครงการ EASTEM เพื่อระดมสมองและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้แทนจากสถาบันเครือข่ายฯ จากประเทศต่างๆ ในการต่อยอดกระบวนการจัดการศึกษาผ่านการบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์"
"หลักการสะเต็มศึกษาเป็นการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ การเชื่อมโยงศาสตร์ การยึดโยงกับการนำไปใช้ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนสามารถร่วมกันวิเคราะห์และเข้าใจปัญหา ออกแบบคำตอบของปัญหาและได้มีโอกาสลงมือทำตลอดจนสื่อสารออกมาให้เข้าใจได้ จากผลการสำรวจในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า นายจ้างต้องการลูกจ้างที่ถึงพร้อมทั้งในด้านสมรรถนะ และความสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ ซึ่งเป็นทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่สังคมต้องการ และด้วย platforms ของสะเต็มศึกษาที่ศูนย์ความเป็นเลิศ MUSC-STEM EDUCATION ได้ถูกเริ่มขึ้นนี้ น่าจะส่งผลต่อการยกระดับการเรียนรู้และการศึกษา ไม่ใช่เฉพาะที่มหาวิทยาลัยมหิดลเท่านั้น แต่จะขยายวงกว้างสู่ระดับประเทศ และโลกใบนี้ต่อไป" รองศาสตราจารย์ ดร.วรรณพงษ์ เตรียมโพธิ์ กล่าว
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม
นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ)
งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป
สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
โทร.0-2849-6210