กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--กรมป่าไม้
"วราวุธ" รมว.ทส. ลงพื้นที่ต้นแบบโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ชุมชนแม่ทา ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ กรมป่าไม้ร่วมถอดบทเรียนสู่ความสำเร็จ "รัฐได้ป่า ประชาได้ที่ทำกิน"
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ที่ อบต.แม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน 10 หมู่บ้าน พร้อมมอบกล้าไม้ให้ผู้แทนหมู่บ้าน 12 หมู่บ้าน โดยชุมชนแม่ทาเป็นชุมชนที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการและอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ได้นำผู้แทนจากชุมชนที่ได้รับ คทช. ทั่วประเทศ ร่วมลงพื้นที่เพื่อถอดบทเรียนสู่ความสำเร็จ "ชุมชนแม่ทา"
นายวราวุธ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมที่ดีโดยรวมของทั้งประเทศ ขณะเดียวกันก็ได้เล็งเห็นถึง ความเดือดร้อนของราษฎรที่อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าอยู่แล้วมาอย่างไม่ถูกต้อง จึงได้แถลงนโยบายของรัฐบาลไว้ต่อ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เร่งรัดการจัดสรรที่ดินให้แก่ผู้ยากไร้ โดยไม่ต้องเป็นกรรมสิทธิ์ แต่รับรองสิทธิ์ร่วมในการจัดที่ดินของชุมชน ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรและการรุกล้ำเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยอนุญาตให้อยู่อาศัยอย่างถูกต้อง ในลักษณะแปลงรวม
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เมื่อปี 2557
เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรให้สามารถอยู่อาศัยทำกินในที่ดินของรัฐได้ถูกต้องตามกฎหมายของที่ดินแต่ละประเภท ซึ่งปัจจุบันได้มีการตราและประกาศใช้ พ.ร.บ. คณะกรรมการ นโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 แล้ว
"การดำเนินงานของ คทช. ช่วยให้ราษฎรได้รับการแก้ไขปัญหาให้อยู่อาศัยทำกินได้อย่างถูกต้องได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพส่งผลให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันชุมชนและหน่วยงานรัฐได้ร่วมกันดูแลรักษาและใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างยั่งยืนในลักษณะที่เกื้อกูลต่อการอนุรักษ์ เกิดความร่วมมือกันระหว่างชุมชนและหน่วยงานรัฐในการฟื้นฟูสภาพป่าส่งผลให้พื้นที่ป่าของประเทศเพิ่มขึ้นตามคำกล่าวที่ว่า รัฐได้ป่า ประชาได้ที่ทำกิน" รมว.ทส. กล่าวย้ำ
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเสริมว่า กรมป่าไม้ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ได้นำนโยบายดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติในลักษณะของการแก้ไขปัญหาให้กับราษฎรที่อยู่อาศัยทำกินในป่าสงวนแห่งชาติ อยู่แล้วมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ลุ่มน้ำ 3,4,5 โดยการอนุญาตให้ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในลักษณะแปลงรวม ไม่บุกรุกขยายพื้นที่เพิ่มเติม ไม่ให้ซื้อขาย จำหน่าย จ่ายโอน แต่ให้ตกถอดถึงลูกหลานได้ สำหรับป่าชุมชนแม่ทา เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง มีกฎระเบียบในการดูแลรักษาป่าเป็นอย่างดีแต่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจาก อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ทา จึงเป็นนำร่องของ คทช. ในพื้นที่ชุมชนบ้านแม่ทาเป็นแห่งแรกของประเทศ
นายอรรถพล กล่าวว่า เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2557 โดย คทช. มีมติเห็นชอบให้นำพื้นที่ชุมชนบ้านแม่ทาสามารถจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนได้ และในวันที่ 2 เมษายน 2558 กรมป่าไม้ได้ออกหนังสืออนุญาต ให้จังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ทา ตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 เพื่อดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน รวมเนื้อที่ 7,282-1-23 ไร่ ต่อมาวันที่ 5 เมษายน 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้ชุมชนทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ชุมชนได้ปลูกสร้างสวนป่าหรือไม้ยืนต้น ได้ส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่ปลูกป่าเศรษฐกิจชุมชนไว้ใช้สอยไม้ในชุมชนในอนาคต ภายใต้โครงการ ผังชีวิต ผังชุมชนตำบลแม่ทา
"ชุมชนบ้านแม่ทา ถือเป็นชุมชนต้นแบบตามนโยบาย "ไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่กับป่า" ที่สามารถจัดการและ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของชุมชนได้อย่างยั่งยืน เพราะภาคประชาชนได้เข้าร่วมศึกษาและกำหนดเขตพื้นที่ป่าชุมชนและที่ดินทำกินร่วมกับส่วนท้องถิ่น ลดการทำลายและรักษาทรัพยากรไว้ ทำให้ทุกวันนี้ชุมชนบ้านแม่ทามีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่มีความสมดุลและยั่งยืนในวิถีของชุมชนและธรรมชาติ" นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้าย