กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
ประเทศนิวซีแลนด์ถูกจัดให้เป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และอันดับสองของโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจสำหรับผู้หญิง มาสเตอร์การ์ดเผยดัชนีผู้ประกอบการสตรี (Mastercard Index of Women Entrepreneurs) เป็นฉบับที่สาม เพื่อฉลองให้กับประเทศที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เติบโต ขณะเดียวกันเพื่อส่งสัญญาณให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันที่ยังคงมีอยู่ในสังคม
ดัชนีผู้ประกอบการสตรีของมาสเตอร์การ์ดรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานระหว่างประเทศ องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ ยูเนสโก และรายงานการศึกษาความเป็นผู้ประกอบการระดับโลก (The Global Entrepreneurship Monitor) เพื่อติดตามความก้าวหน้าและความสำเร็จของผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่เป็นผู้หญิงใน 58 ประเทศ (คิดเป็นเกือบร้อยละ 80 ของแรงงานหญิงทั่วโลก) พิจารณาจากสามองค์ประกอบ ได้แก่ 1) ผลลัพธ์ด้านความก้าวหน้าของสตรี 2) สินทรัพย์ด้านความรู้และการเข้าถึงทางการเงิน และ 3) สภาพที่เอื้อต่อการประกอบกิจการ
รายงานนี้ได้ตอกย้ำถึงความสามารถของผู้หญิงในการทำธุรกิจและการมีส่วนร่วมในการทำงานที่มากขึ้นในประเทศที่เปิดกว้างอย่างนิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ประเทศเหล่านี้มีอัตราการสนับสนุนการทำธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่สูงและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ผู้หญิงในประเทศเหล่านี้สามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน การให้บริการด้านการเงินและหลักสูตรให้ความรู้ในด้านต่างๆ โดยทั่วไปแล้วประเทศเหล่านี้มีบรรทัดฐานทางสังคมที่ส่งเสริมความสำเร็จของบุคคลที่มีความพยายาม คิดสร้างสรรและกล้าได้กล้าเสีย รวมถึงให้โอกาสผู้หญิงอย่างเท่าเทียมในการเป็นผู้นำทางธุรกิจ ได้รับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา และให้การยอมรับในฐานะผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งร้อยละ 80 จาก 20 อันดับประเทศทั่วโลกที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการสตรี เป็นประเทศที่มีฐานรายได้สูง
จาก 58 ประเทศในดัชนีนี้ มี 8 ประเทศที่มีการเลื่อนอันดับมากกว่า 5 อันดับในแต่ละปี ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีการเลื่อนอันดับเร็วที่สุดและเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน คือ อินโดนีเซีย (+13 อันดับ) ไต้หวัน (สาธารณรัฐจีน) (+9 อันดับ) และไทย(+5 อันดับ)
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงที่อยู่ในประเทศที่อยู่อันดับล่างของดัชนีนี้ไม่ได้รับโอกาสในการทำงานในตำแหน่งระดับสูง ถูกจำกัดโอกาสทางธุรกิจเนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ โอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินต่ำ ได้รับโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษาน้อย และระบบธุรกิจและการเงินที่ด้อยพัฒนาทำให้การทำธุรกิจเป็นเรื่องยาก ที่สำคัญ สังคมและกฎระเบียบทางสังคมไม่สนับสนุนให้พวกเธอทำงาน ไม่สนับสนุนความก้าวหน้า และไม่สนับสนุนให้ผู้หญิงสวมบทบาทผู้นำ
"สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการศึกษานี้คือ ความไม่เท่าเทียมทางเพศยังปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วทุกมุมโลกแม้จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเป็นประเทศพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา เพราะแม้กระทั่งในประเทศที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจก็ยังไม่สามารถผลักดันให้ผู้หญิงเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ สถานการณ์เช่นนี้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสำเร็จของผู้หญิงทั้งทางสังคม อาชีพ เศรษฐกิจและการเมือง ทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคมในภาพรวม ด้วยเหตุนี้มาสเตอร์การ์ดจึงเดินหน้าสู้กับปัญหานี้ทั่วทุกมุมโลก โดยจัดหาเครื่องมือและโครงข่ายที่จะผลักดันสังคมสู่การเติบโตแบบทั่วถึง และนำเศรษฐกิจดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับทุกคนในทุกที่" จูเลียน โลห์ รองประธานกรรมการบริหารความร่วมมือระหว่างองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด กล่าว
"ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของและเป็นผู้นำสามารถสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ ทำให้ทุกชีวิตดีขึ้น จากการศึกษานี้ มาสเตอร์การ์ดได้ส่องไฟไปสู่กลุ่มที่ไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก เพราะทุกวันนี้ยังมีความไม่เท่าเทียมและการกีดกันที่ดึงรั้งผู้หญิงไว้ มาสเตอร์การ์ดเชื่อว่าความคิดที่ดีเริ่มต้นได้ทุกที่ และถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลและองค์กรต่างๆ จะร่วมมือกันผลักดันให้ผู้หญิงได้ก้าวหน้าทางธุรกิจมากขึ้น โดยกำจัดอคติทางเพศและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาและโอกาสทางการเงิน" แอนน์ แคนส์ รองประธานกรรมการบริหาร มาสเตอร์การ์ด กล่าว
เกี่ยวกับมาสเตอร์การ์ด
Mastercard (NYSE: MA) www.mastercard.com เป็นบริษัทเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการชำระเงินระดับโลก เครือข่ายการประมวลผลการชำระเงินทั่วโลกของเราเชื่อมต่อผู้บริโภค สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ หน่วยงานรัฐบาล และธุรกิจในกว่า 210 ประเทศและดินแดนต่างๆ ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของมาสเตอร์การ์ดช่วยให้ธุรกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การจับจ่ายซื้อสินค้า การท่องเที่ยว การดำเนินธุรกิจ และการจัดการทางการเงิน เป็นเรื่องง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง สามารถติดตามเราได้บนทวิตเตอร์ @MastercardAP หรือร่วมสนทนากับเราที่ Beyond the Transaction Blog และ subscribe เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดผ่าน Engagement Bureau