กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--โอกิลวี่ (ประเทศไทย)
วริษา ภาสกรนที ทายาทตัน ภาสกรนที ได้ฤกษ์เปิดอาคาร T-ONE (The New Tech & Innovative Hub) อาคารสำนักงานและพื้นที่ Co Working Space เกรดเอแห่งเดียวในทำเลทองหล่อ-สุขุมวิท พร้อมประกาศความสำเร็จ มีผู้เช่าครบ 100% ภายใน 3 เดือน
บริษัท ทีวัน บิวดิ้ง จำกัด เปิดตัว "อาคาร T-One" อาคารสำนักงานเกรด A ขนาด 43,700 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุน 3,500 ล้านบาทมีความสูง 47 ชั้น แบ่งเป็นส่วนพื้นที่สำนักงาน Co-working space ร้านอาหาร ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และพื้นที่ส่วนกลาง ชูจุดเด่นเป็นอาคารสำนักงานสำหรับธุรกิจ ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจคลื่นลูกใหม่ทั้งระดับประเทศ และระดับโลก อาทิ Tencent, Joox, WeWork, Wongnai, Sanook, Etigo, Zelingo, Shiseido รวมทั้งสำนักงานใหญ่ของอิชิตัน กรุ๊ป ด้วยโลเคชั่น ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริเวณ ทองหล่อ - สุขุมวิท 40 ที่มาพร้อมการคมนาคมสะดวกทุกรูปแบบ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า บีทีเอส สถานีทองหล่อ และเข้าออกได้ทั้งถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 กับสถาปัตยกรรม แบบทวิสต์ที่สวยงามไม่ซ้ำใครจนชนะรางวัลด้านการออกแบบจาก BCI Top 10 Architects 2017 Thailand และ Asia Pacific Property Award Architecture พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในการบริหารจัดการอาคารอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ตรงความต้องการของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แบบ Work Hard, Play Harder
นางสาววริษา ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวัน บิวดิ้ง จำกัด กล่าวว่า "บริษัท ทีวัน บิวดิ้ง เป็นบริษัทที่ดำเนินงานเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินงานภายใต้ค่านิยมของการใส่ใจ ในทุกรายละเอียด เราเต็มใจที่จะลงทุนในแต่ละโครงการด้วยการสร้างสรรค์โครงการที่ดีที่สุด ทั้งด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นอาคารที่สร้างความสวยงามและโดดเด่นให้กับเมือง เห็นได้จากโครงการ Villa Maroc Resort ปราณบุรี One Nimman เชียงใหม่ จนมาถึง T-One ทองหล่อ-สุขุมวิท จุดเด่นของอาคาร T-One เราใส่ใจในทุกโครงการตั้งแต่การออกแบบ ด้านสถาปัตยกรรมระดับโลกอย่าง Palmer & Turner (Thailand) Ltd ตัวโครงสร้างเป็นดีไซน์แบบทวิสต์ ใช้กระจกสีฟ้าและทอง เปรียบเสมือนคริสตัลบอลให้ความรู้สึกที่แตกต่างเมื่อสะท้อนกับแสงแดดในแต่ละช่วงเวลา รูปลักษณ์ของอาคารจะแตกต่างกันเมื่อมองจากทางเข้าอาคารทั้ง 4 ด้าน เหมาะกับแนวคิด ของกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งไม่ยึดติดกับความคิดเดิม ๆ อาคาร T-One ตั้งอยู่บนทำเล CBD เดินทางสะดวกทั้งทางรถไฟฟ้าบีทีเอสและทางรถยนต์ที่สามารถทะลุออกได้ทั้งถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 อยู่ในแหล่งที่ใกล้กับศูนย์การค้าระดับโลกอย่าง Emporium, EmQuatier รวมไปถึงแหล่งพักผ่อนของคนเมืองชั้นนำอย่างย่านทองหล่อ
เราใช้นวัตกรรมการก่อสร้างและการบริหารพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยี จากเยอรมันที่ทำให้ตัวอาคารตั้งอยู่บนลูกบอลซึ่งทำให้โครงสร้างของตึกมีน้ำหนักเบาไม่มีคาน ทนทานปลอดภัย นอกจากนั้นยังมีระบบจอดรถที่ทันสมัยแบบ Automate Car Parking system เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่อีกด้วย ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางออกแบบให้คนทำงานภายในอาคาร ทุกคนสามารถเข้ามาพบปะ พูดคุย และสังสรรค์กันได้อย่างเต็มที่ สะท้อนภาพลักษณ์การทำงานของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการครีเอทีฟสเปซ สำหรับสร้างสรรค์ไอเดียที่สดใหม่อยู่ตลอดเวลา เหมาะสำหรับบริษัทรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์การเป็นบริษัทระดับนานาชาติโดยใช้ทำเลนี้เป็นฮับด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่จะขยายธุรกิจต่อไปยังประเทศ AEC พิสูจน์ได้จากการที่พื้นที่ในส่วนสำนักงานทั้งหมดถูกเช่าหมดตั้งแต่เปิดจองในเวลาเพียง 3 เดือน"
นางสาวทัตยากรณ์ เบญจภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการแผนกอาคารและสำนักงาน บ.โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ยังคงอยู่ในภาวะของการ มีปริมาณพื้นที่ไม่เพียงพอรองรับความต้องการของบริษัทผู้เช่า โดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรดเอ ปัจจุบันอาคารสำนักงานทั่วกรุงเทพฯ มีพื้นที่รวมกันทั้งสิ้น 9 ล้านตารางเมตร ซึ่งในจำนวนนี้ มีอัตราการว่างเหลือเช่าเฉลี่ย 8.7% ในขณะที่กลุ่มอาคารสำนักงานเกรดเอมีพื้นที่ว่างเหลือเพียง 5% จึงทำให้อาคารสำนักงาน เกรดเอมีแนวโน้มปรับตัวค่าเช่าสูงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่ในอาคาร T-One ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้เป็นมากกว่าอาคารสำนักงานสำหรับการทำงาน เราจึงออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนกลางที่กว้างขวางโดยเฉพาะชั้น 40 และ 46 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีทำเลและบรรยากาศดีที่สุดของอาคารเพื่อให้บริการร้านอาหาร และบาร์บน rooftop ท่ามกลางวิวกรุงเทพมหานคร 360 องศา ซึ่งจะเปิดให้ผู้เช่าและบุคคลภายนอกได้ เข้ามาใช้บริการและดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างเต็มที่ เพื่อตอบสนองแนวคิด "Where the Connection Begins" นอกจากนี้เรายังจัดพื้นที่โคเวิร์คกิ้งสเปซขนาด 3,200 ตารางเมตรที่บริเวณชั้น 20,26,27 ที่จัดไว้รองรับการเติบโตของสตาร์ทอัพ และใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยมาช่วยให้การเข้ามาใช้พื้นที่ภายในอาคารทำได้สะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น อาทิ การใช้ระบบจอดรถ Automate Car Parking system ที่สามารถรองรับการจอดรถได้เกือบ 400 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้อย่างดีที่สุด"
การก่อสร้างโดยรวมออกแบบมาเพื่อเป็น "อาคารสีเขียว' ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ถึง 60% ภายในบริเวณพื้นที่เปิดโล่งรอบอาคารเป็นการลดพื้นที่รับรังสีจากแสงอาทิตย์ เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีส่วนผสมรีไซเคิลกว่า 30% มีระบบการประหยัดน้ำอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเลือกใช้ระบบน้ำและสุขภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดน้ำ ติดตั้งมาตรวัดน้ำที่ระบบย่อยเพื่อใช้ทำ cooling tower และน้ำสำหรับรดต้นไม้ เลือกใช้สารทำความเย็นในระบบปรับอากาศที่ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ โครงสร้างอาคารออกแบบนวตกรรมอนุรักษ์พลังงานทำให้โครงการ T-One ประหยัดพลังงานมากกว่าอาคารทั่วไปกว่า 28% และการบริหารจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ"
คุณ กฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผุ้จัดการ จาก บ.Tencent ประเทศไทยในฐานะผู้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน T-One กล่าวว่า "Tencent เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกจากประเทศจีน เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553 โดยในปัจจุบันมีธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดูแลในประเทศไทยเช่น Sanook, WeChat, JOOX, WeTV และ PUBG ซึ่งเรามองว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญและเราวางยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยเป็นฮับในเอเชียของเราในการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์มสาเหตุที่เราเลือกเช่า T-One เป็นสำนักงานเพราะเรามองเห็นถึงการขยายพื้นที่ในอนาคต โดยการเดินทางก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงาน ซึ่ง T-One ตอบโจทย์ของเราได้อย่างลงตัว ทั้งการเป็นอาคารใหม่ใจกลางย่านสุขุมวิท เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งยังมีการบริหารจัดการพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถวางรูปแบบออฟฟิศของเราได้อย่างอิสระก็ทำให้เราตัดสินใจเลือก T-One ได้เช่นกัน"