กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--สำนักงาน กปร.
พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคกลาง พร้อมพลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยยางแพรกขวา จากปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร ราษฎรตำบลห้วยยาง จึงได้ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ
โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยยางแพรกขวา เป็นโครงการที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2562 ตามที่ราษฎรตำบลห้วยยาง ขอพระราชทานโครงการฯ โดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน ได้ข้อสรุปประมวลความเห็นจัดทำเป็นรายงานทูลเกล้าฯ ถวาย ขอพระราชทานกราบบังคมทูลและพระองค์ทรงรับโครงการก่อสร้างแก้มลิงห้วยยางแพรกขวาพร้อมอาคารประกอบและระบบส่งน้ำ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้าง
นายอำนาจ ปานทิพย์ หนึ่งในราษฎรตำบลห้วยยางที่ขอพระราชทานโครงการเปิดเผยว่า เดิมพื้นที่เป็นแหล่งน้ำที่ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ เมื่อมีน้ำไหลเข้ามาเท่าใดก็จะไหลออกหมด ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งหากมีการสร้างระบบการเก็บกักเอาไว้ ประชาชนหลายร้อยครัวเรือนจะได้รับประโยชน์จากแหล่งน้ำนี้ และหลังจากปรึกษาหารือกัน ทุกคนมีความเห็นร่วมกันว่าจะขอพระราชทานความช่วยเหลือจากพระองค์ท่าน และพระองค์ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ "เมื่อโครงการแล้วเสร็จ ราษฎรประมาณ 5 หมู่บ้านจะได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะชาวสวนมะพร้าวและนาข้าว จะมีน้ำเพียงพอในฤดูแล้ง ต่อจากนี้ก็จะมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมและทั่วถึงกัน ตลอดถึงการดูแลโครงการให้มีความสมบูรณ์เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยาวนานต่อไป" นายอำนาจ ปานทิพย์ กล่าว
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าลำน้ำห้วยยางมีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ยทั้งปีกว่า 1.74 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หากขุดลอกแก้มลิงในพื้นที่ 4.5 ไร่ จะได้ความจุน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 28,000 ลบ.ม. พร้อมกันนี้จะมีการสร้างระบบท่อส่งน้ำยาวประมาณ 7 กิโลเมตร (กม.) เพื่อผันน้ำไปเติมในสระเก็บน้ำในพื้นที่บ้านหนองพลับ 1 และ บ้านหนองพลับ 2 สามารถช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตรได้ 499 ครัวเรือน พื้นที่ 5 หมู่บ้าน ประชากร รวม 1,565 คน
การนี้ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ พบว่าโครงการมีความคืบหน้าเป็นลำดับ โดยทางส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงาน กปร. กรมชลประทาน และส่วนงานราชการในพื้นที่ต่างให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการอย่างเต็มที่เพื่อประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างเร็ววันและเต็มที่
"โครงการนี้เท่าที่รับทราบข้อมูล พบว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงในพื้นที่ช่วงหน้าฝนมีปริมาณมากในแต่ละปี แต่สามารถเก็บไว้ได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลือไหลงลงสู่ทะเลหมด ซึ่งการทำแก้มลิงพร้อมทั้งสร้างฝายและระบบส่งน้ำก็จะช่วยให้พื้นที่สามารถเก็บน้ำไว้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ได้มากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง และคิดว่าโครงการคงจะแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด" พลอากาศเอก ชลิต
พุกผาสุข องคมนตรี กล่าว