กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ 4 รุ่นใหม่ล่าสุด ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ "ร็อกเก็ต 3 อาร์" (ROCKET 3 R) และ "ร็อกเก็ต 3 จีที" (ROCKET 3 GT) รถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2500 ซีซี. ถือเป็นเครื่องยนต์สำหรับรถจักรยานยนต์มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ "ทรักซ์ตัน อาร์เอส" (All New Thruxton RS) และ "สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส" โฉมใหม่ (New Street Triple RS) ที่ขนมาให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสตัวจริงก่อนใครในเอเชียแปซิฟิก โดยพร้อมเปิดจองทั้ง 4 รุ่น และรับข้อเสนอสุดพิเศษในรุ่นอื่น ๆ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2019 ณ บูธไทรอัมพ์ G11 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562
มร.มาร์เซโล ซิลวา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกฝ่ายขาย และการตลาด (Regional Director Asia/Pacific – Sales & Marketing) บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2019 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้ขนกองทัพรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทุกไลน์มาโชว์ภายในงานรวมทั้งสิ้น 26 คัน ซึ่งไฮไลท์ของงานในปีนี้คือการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ 4 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ "ร็อกเก็ต 3 อาร์" (ROCKET 3 R) "ร็อกเก็ต 3 จีที" (ROCKET 3 GT) "ทรักซ์ตัน อาร์เอส" (All New Thruxton RS) และ "สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส" โฉมใหม่ (NEW 2020 STREET TRIPLE RS) ซึ่งถือเป็นการเผยโฉมให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกก่อนใครในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เริ่มต้นกันด้วยรถจักรยานยนต์ที่เป็นที่สุด ได้แก่ "ร็อกเก็ต 3 อาร์" (ROCKET 3 R) และ "ร็อกเก็ต 3 จีที" (ROCKET 3 GT) ที่พร้อมสืบทอดตำนานแห่งรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่อีกครั้ง ด้วยเครื่องยนต์ขนาดอันทรงพลัง 2,500 ซีซี ซึ่งนับเป็นเครื่องยนต์สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ได้รับการผลิตบนสายพานการผลิต รวมถึงการผสมผสานกันระหว่างรูปลักษณ์ขนาดใหญ่ที่น่าประทับใจ สไตล์ที่หรูหรางดงาม เทคโนโลยีขั้นสูงสุด สัมผัสการควบคุมรถชั้นนำของไทรอัมพ์ ภาพลักษณ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกของรถรุ่นร็อกเก็ต และความสามารถในการขับขี่ทำให้รถทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง
โดย "ร็อกเก็ต 3 อาร์" (ROCKET 3 R) สุดยอดรถจักรยานยนต์โรดสเตอร์ที่ทรงพลังขั้นสูงสุด มาพร้อมกับแรงบิดมหาศาลระดับชั้นนำของโลก ให้การควบคุมรถ ความสบาย และความสามารถในการขับขี่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่รุ่น "ร็อกเก็ต 3 จีที" (ROCKET 3 GT) ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ก้าวล้ำ ทั้งในแง่มุมของความสบายอย่างที่สุด และความสามารถในการขับขี่ทางไกลได้อย่างง่ายดาย
ทั้งนี้ Rocket 3 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง 3 สูบ ขนาด 2,500 ซีซี นับว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน ที่ได้รับการผลิตบนสายพานการผลิตรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะส่งมอบขีดความสามารถและประสิทธิภาพที่มากกว่ารุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่ง และการขับขี่ที่แสนสบายไม่ว่าจะเข้าเกียร์ใดได้ตลอดวันจะมีคนซ้อน หรือจะขี่คนเดียวก็ไม่เป็นปัญหา ซึ่งเครื่องยนต์ของ Rocket 3 ใหม่นี้ ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการส่งมอบพละกำลังสุดเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ความเร็ว 6,000 รอบต่อนาที รวมถึงแรงบิดที่ทรงพลังที่สุดในบรรดารถจักรยานยนต์จากสายพานการผลิตทั้งหมด ด้วยแรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 4,000 รอบต่อนาที ตลอดจนให้พลังเสียงท่อ 3 สูบคำรามนุ่มลึกตามแบบฉบับของร็อกเก็ต จากคอท่อไอเสียผ่านวิธีการขึ้นรูปแบบไฮโดรฟอร์มสุดโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อน 40 กิโลกรัม
ด้านรูปลักษณ์ได้รับการออกแบบรายละเอียดที่โดดเด่นสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า LED คู่ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงตราสัญลักษณ์ไทรอัมพ์รูปสามเหลี่ยม และท่อไอเสียรวม 3 หัวแกะสลัก ทำให้ Rocket 3 ใหม่นี้มีทั้งรูปแบบโครงรถ และรูปลักษณ์ที่น่าทึ่ง นอกจากนี้ ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปแบบ 20 ก้านน้ำหนักเบาแบบใหม่ ยังช่วยเสริมความมีสไตล์แบบร่วมสมัยที่ทรงพลัง โดยล้อของรถรุ่น Rocket 3 R จะเป็นล้อสีดำสนิท ในขณะที่ Rocket 3 GT ก้าวล้ำไปอีกขั้นโดยการลงรายละเอียดด้วยการกัดผิวบริเวณซี่ล้อและขอบล้อ ที่ประกอบเข้ากับยางของ Avon Cobra Chrome ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับ Rocket 3 โดยเฉพาะ โดยความกว้างของยางหลังมีขนาด 240 มิลลิเมตร ซึ่งยางใหม่นี้มีการลงรายละเอียดสุดประณีต ด้วยรูปแบบของดอกยางที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อการยึดเกาะที่ดีและความทนทานในการใช้งานทางไกล เพื่อให้สอดรับกับสไตล์ที่เรียบง่ายและดูสะอาดตาของ Rocket 3 ชิ้นส่วนต่าง ๆ อย่าง สวิงอาร์มเดี่ยวที่ผ่านกระบวนทางวิศวกรรมออกมาอย่างสวยงาม ระบบกันการสั่นสะเทือนหลังเดี่ยวแบบ Offset เป็นต้น
พร้อมกันนี้ Rocket 3 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น ยังมีอุปกรณ์คุณลักษณะเฉพาะขั้นสูงสุด อันเป็นสุดยอดแห่งการควบคุมรถ และการขับขี่แบบสั่งการได้ ซึ่งรวมไปถึงเบรก Brembo Stylema Monobloc และระบบกันสะเทือนของ Showa แบบปรับได้ เทคโนโลยีเสริมการขับขี่ที่รวมถึง ชุดอุปกรณ์หน้าจอแสดงผลแบบ TFT รุ่นที่ 2 และปุ่มควบคุมแบบเรืองแสง ระบบความปลอดภัยด้วยระบบเบรก Optimised Cornering ABS และระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน ตลอดจน รูปแบบการขับขี่ 4 โหมด แบบถนน (Road) ฝนตก (Rain) สปอร์ต (Sport) และการขับขี่ที่กำหนดตามลักษณะของผู้ขับขี่ (Rider configurable) ระบบส่องสว่างโดยใช้หลอด LED ทั้งหมด ระบบการช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Hold Control) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ ระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ และปลอกมือปรับอุณหภูมิโดยเป็นชุดมาตรฐานในรุ่น GT และเป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่น R
นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถตกแต่ง Rocket 3 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น เพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับความต้องการและสไตล์ของผู้ขับขี่ได้ด้วยอุปกรณ์เสริมของแท้จากไทรอัมพ์กว่า 50 รายการ ทั้งชุดใส่สัมภาระและอุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมดเพื่อความสะดวกสบายใช้งานได้จริง ที่มีสไตล์สวยงาม และความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงชุดแต่ง "Highway" ใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขับขี่ทางไกลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โดยรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ "ร็อกเก็ต 3 อาร์" (ROCKET 3 R) มาพร้อมกับทางเลือกเฉดสีสุดพรีเมี่ยม 2 แบบให้เลือก ได้แก่ Korosi Red และ Phantom Black ส่วน "ร็อกเก็ต 3 จีที" (ROCKET 3 GT) มีเฉดสีสุดพรีเมี่ยม 2 แบบให้เลือกเช่นเดียวกัน ได้แก่ Silver Ice / Storm Grey พร้อมลาย pinstripe decal สี Korosi Red และ Phantom Black สนนราคา 955,000 บาท สำหรับรุ่น "ร็อกเก็ต 3 อาร์" (ROCKET 3 R) และ "ร็อกเก็ต 3 จีที" (ROCKET 3 GT) ราคา 985,000 บาท
มร.มาร์เซโล กล่าวต่อว่า ขณะที่ภายในงานนี้ไทรอัมพ์ยังเปิดตัว "ทรักซ์ตัน อาร์เอส" (All New Thruxton RS) รถจักรยานยนต์ในตำนานที่พัฒนาไปอีกขั้น โดยรวมเอา DNA การออกแบบ cafe racer ดั้งเดิมและสไตล์ต้นตำรับของแท้เข้ากับความสามารถของทรักซ์ตัน ในขณะเดียวกันก็สร้างประสิทธิภาพระดับใหม่ด้วยเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมากกว่าเดิม การควบคุมรถในสไตล์ cafe racer ที่ก้าวขึ้นไปอีกขั้น รวมถึงสไตล์การตกแต่ง และรายละเอียดแบบร่วมสมัย โดยมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี ที่ให้กำลังสูงกว่าเดิม ส่งมอบกำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 112 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 4,250 รอบต่อนาที
ด้านความปลอดภัยมาพร้อมเทคโนโลยีที่เน้นให้มีความเหมาะสมกับผู้ขับขี่ เพื่อส่งมอบความปลอดภัยและการควบคุมรถที่ดีกว่าเดิม รวมไปถึงความมั่นใจของผู้ขับขี่ ผสานเข้ากับลักษณะและสไตล์ cafe racer ดั้งเดิมที่โดดเด่น รวมถึงการควบคุมรถที่ปราดเปรียวและใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยการลดน้ำหนักของชิ้นส่วนต่าง ๆ ในรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด ทำ ให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 6 กิโลกรัม จึงช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปราดเปรียวและมีไดนามิกมากขึ้น นอกจากน้ำหนักที่น้อยลง ยังมีคาลิปเปอร์เบรกแบบเรเดียลโมโนบล็อค 4 สูบ Brembo M50 และจานเบรกคู่แบบลอยตัว และแม่ปั๊มเบรคของ Brembo ซึ่งจะช่วยส่งกำลังในการหยุดรถได้อย่างดีเยี่ยม รวมไปถึงยาง RR Metzeler Racetec ที่ยึดเกาะถนน และมีคุณลักษณะเฉพาะเหมาะกับการแข่งขัน และยังมีโช้คหน้าคู่หัวกลับ Showa แบบปรับได้ สำหรับสายแข่ง และโช้คหลังคู่ Öhlins ปรับได้เต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยส่งมอบการขับขี่ ทรักซ์ตัน อาร์เอส ที่น่าตื่นเต้น และก้าวไปอีกขั้น
ในขณะที่ด้านรูปลักษณ์มาพร้อมสไตล์ที่ร่วมสมัยและทันสมัยมากกว่าเดิม ด้วยรูปลักษณ์สไตล์คัสตอมที่ใช้สีดำทั้งหมด ความสุขุมนุ่มลึกแต่ทรงพลัง และคุณลักษณะเฉพาะสุดพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสร้างสไตล์คัสตอมของ "ทรักซ์ตัน อาร์เอส" ในแบบฉบับของตนเองได้ จึงมาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งกว่า 80 รายการที่จะช่วยให้คุณเพิ่มความสบาย สไตล์ การป้องกัน และความปลอดภัยให้กับรถจักรยานยนต์
ทั้งนี้ "ทรักซ์ตัน อาร์เอส" (All New Thruxton RS) มาพร้อม 2 เฉดสีใหม่ ได้แก่ Jet Black และ Matt Storm Grey/Matt Silver Ice สนนราคา 672,000 บาท
ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งรุ่นไฮไลท์ของงาน ได้แก่ "สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส" โฉมใหม่ (New Street Triple RS) ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติเฉพาะขั้นสูงสุดของไทรอัมพ์ และสมรรถนะที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นโดยทีมเครื่องยนต์ Moto2 ด้วยสไตล์ที่ดุดัน และออกแบบมาเพื่อสร้างจุดเด่นในเรื่องของขีดความสามารถในการใช้งาน ทำให้ สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส โฉมใหม่นี้ กลายเป็นรถสไตล์สตรีทไบค์ที่มีสมรรถนะขีดสุด โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงขนาด 765 ซีซี พร้อมมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ให้แรงบิดสูงสุดที่มากกว่าเดิมถึง 79 นิวตันเมตร ที่ 9,350 รอบต่อนาที และส่งมอบกำลังสูงสุดที่ 123 แรงม้า ที่ 11,750 รอบต่อนาที
โดย "สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส" โฉมใหม่ (New 2020 Street Triple RS) ถือเป็นอีกครั้งของการพลิกโฉมหน้าใหม่ให้แก่รถในกลุ่มเดียวกัน ด้วยการเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในบรรดารถรุ่นเดียวกัน โดยได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งรูปลักษณ์ที่ดุดัน และเทคโนโลยีเสริมการขับขี่ให้ดีกว่าเดิม ผสานกับความปราดเปรียวที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของแบรนด์ การควบคุมการขับขี่ที่ทรงพลัง และระบบกันสะเทือน เบรก และยางที่มีคุณลักษณะเฉพาะสูง ทำให้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบในการขับขี่ทั้งบนท้องถนนและสนามแข่ง
ด้านรูปลักษณ์มาพร้อมสไตล์ สุขุม และดุดันมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า LED เป็นแบบใหม่ทั้งหมด ทั้งรูปทรงที่ใหม่ สไตล์ที่เฉียบคมและใช้งานตามวัตถุประสงค์ได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงโครงรถใหม่ทั้งหมดในรูปแบบที่เป็นเหลี่ยม และสปอร์ตมากกว่าเดิม รวมถึงลายเส้นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ท่อเก็บเสียงก็ได้ถูกออกแบบใหม่ให้มีความสปอร์ตและกะทัดรัดมากกว่าเดิม โดยในปัจจุบัน สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส โฉมใหม่นี้ มีโครงรถสีไทเทเนียมซิลเวอร์ และจะใช้ชุดสีแบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่น Speed Triple ด้วย
ทั้งนี้ "สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส" โฉมใหม่ (New 2020 Street Triple RS) มี 2 สีหลักให้เลือก ได้แก่ สี Matt Jet Black / Aluminium Silver - Yellow decals และสี Silver Ice / Diablo Red - Aluminium Silver decals โดยชุดสีทั้งสองตัวเลือกนี้ยังรวมถึงสีขอบล้อที่ลงด้วยมือ สี Diablo Red และโครงรถด้านหลังสี Aluminium Silver สนนราคา 480,000 บาท
อย่างไรก็ตามบูธไทรอัมพ์ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2019 ยังขนกองทัพรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทุกไลน์มาโชว์ในงานจำนวน 26 คัน พร้อมคอลเลคชันเสื้อผ้าฤดูกาล Autumn/Winter 2019 ใหม่ล่าสุด ที่ขนกันมาให้เลือกช็อปกันอย่างจุใจ พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 30% ภายในงานเท่านั้น โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชม และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บูธไทรอัมพ์ G11 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2562 มร.มาร์เซโล กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th หรือติดตามข่าวสาร และกิจกรรมอื่น ๆ ได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 620 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร้ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 65,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ