กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--พลังงานบริสุทธิ์
EA และธุรกิจในกลุ่มประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์กับ 10 สถาบันการศึกษา ร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูง (Energy Storage System) อุตสาหกรรมด้านโอลิโอเคมีคัล (Oleochemical) และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Electric Vehicle) เพื่อรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทางเลือก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 กลุ่มของ EA ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ 10 สถาบันการศึกษา และบริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด – ผู้ดำเนินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ โดยการลงนามในเอ็มโอยูในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกันวางแผนพัฒนาบุคลากร และจัดเตรียมกำลังคนที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ อันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างพร้อมตั้งแต่ระยะสั้นไปจนถึงระยะปานกลาง สำหรับการจะตั้งฐานการผลิตของกลุ่ม EA ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งบริษัทในกลุ่ม EA ที่เข้าร่วมลงนามในครั้งนี้ประกอบด้วยอุตสาหกรรมกักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูง (Energy Storage System) หรือ แบตเตอรี่ อุตสาหกรรมด้านโอลิโอเคมีคัล (Oleochemical) และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Electric Vehicle) หรือ EV
นอกจากทำการเซ็นเอ็มโอยูเพื่อร่วมมือกับสถาบันการศึกษาแล้ว ยังร่วมมือกับบริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด ที่มีโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ซึ่งมีคอนเซ็ปท์สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของกลุ่ม EA กล่าวคือ มุ่งเน้นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง และมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในการนี้ทุกฝ่ายที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจ จะร่วมกันพัฒนาหลักสูตรแบบต่อเนื่องและเชื่อมโยงการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ทั้งด้านทฤษฏี และการฝึกอบรม ตลอดจนการสนับสนุนทุนการศึกษาและการวิจัยและพัฒนาเพื่อการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาบัณฑิตและบัณฑิตศึกษาด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่ม EA ต่อไป
ดร.อภิชาติ ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่า "ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการพัฒนาบุคลากรของประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดอย่างตรงจุด โดยที่สถาบันการศึกษาแต่ละสถาบันสามารถนำเทคโนโลยีและความรู้ที่ได้จากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไปประยุกต์ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของแต่ละสถาบันและเสริมจุดแข็งของตน เพื่อเพิ่มความสามารถของทรัพยากรบุคคลของเราได้ ผมมั่นใจว่าจากแผนการลงทุนทางธุรกิจที่ชัดเจนของกลุ่ม EA และความพร้อมทั้งด้านเงินทุน ความเชี่ยวชาญ ความรู้ ความสามารถทางเทคโนโลยีของกลุ่ม EA จะส่งผลให้ความร่วมมือในครั้งนี้ นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมได้ในเวลาอันรวดเร็ว เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนได้ในที่สุด"
อนึ่ง สถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจที่ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ ประกอบด้วย
1) มหาวิทยาลัยบูรพา
2) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ตะวันออก
3) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
4) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา
5) วิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี
6) วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี
7) วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา
8) วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา
9) วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ
10) วิทยาลัยเทคนิคระยอง
11) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
12) บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด
13) บริษัท อีเอ ไบโอ อินโนเวชั่น จำกัด
14) บริษัท ไมน์ โมบิลีตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด
15) บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด