กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--ภูเก็ตสแควร์
นายประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต กล่าวว่า ในปีนี้ได้ใช้งบประมาณสำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดรวมกว่า 15 ล้านบาท สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่จะเข้ามาที่ศูนย์การค้าฯ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้ โดยจังซีลอนยังคงมีแนวคิดที่จะสนับสนุนศิลปินไทยในการออกแบบผลงานคาแรคเตอร์ให้ไปสู่สายตาชาวต่างชาติมากขึ้น ซึ่งปีนี้ได้ร่วมมือกับ เซเลบริตี้อาร์ติสต์สาวชื่อดัง "คุณโอ๋-หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ" หรือ "โอ๋ ฟูตอง" อาร์ติสต์สาวที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นเฉพาะตัว และสร้างสรรค์ผลงานระดับอินเตอร์มาแล้วมากมายในต่างประเทศ โดยในครั้งนี้ได้นำ "เหมียว" (MEAW) ตัวการ์ตูนแมวเหมียวจอมซน ที่มีไลฟสไตล์ชอบแฟชั่น ช้อปปิ้ง และท่องเที่ยวในที่ต่างๆ นำมาตกแต่งทั้งศูนย์การค้าฯ เพื่อสร้างเป็นจุดถ่ายภาพคริสต์มาสที่สวยสดใสที่สุดของภูเก็ต พร้อมสร้างบรรยากาศการช้อปปิ้งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้ ให้มีความสนุกสดใส เข้ากับบรรยากาศในเทศกาลแห่งความสุข ภายใต้คอนเซ็ปต์ "OH FUTON x JUNGCEYLON MERRY X' MAS & HAPPY NEW YEAR 2020" โดยโปรเจกต์นี้ถือเป็นครั้งแรกของ "โอ๋ ฟูตอง" ในการนำตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์ "MEAW" ที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ และเคยสร้างชื่อเสียงมาแล้วในประเทศญี่ปุ่น มาออกแบบให้เข้ากับบรรยากาศของศูนย์การค้าฯ ในประเทศไทยอย่างเต็มตัว เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ถ่ายรูปและแชร์ประสบการณ์ผ่าน Social Media ต่างๆ รวมถึงได้ร่วมออกแบบของที่ระลึกสำหรับโปรโมชั่นในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่นี้ กับ "Oh Futon Limited Collection" เพื่อเป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่ศูนย์การค้าฯ ในช่วงวันที่ 21 ธ.ค. – 1 ม.ค.63 โดยตั้งเป้าหมายที่จะช่วยดึงดูดทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมงานดังกล่าวได้ถึง 70,000-80,000 คน ต่อวัน
นายประวิช ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 62 นี้ บริษัทฯ ยังเตรียมขนขบวน อีเว้นท์ส่งท้ายปลายปีอีกมากมาย เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามายังศูนย์การค้าฯ อย่างต่อเนื่อง อาทิ แคมเปญพิเศษ "7 วันไม่ธรรมดา" (Tourist 7 Days Special) เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ด้วยการมอบส่วนลดพิเศษ 10-80% จากร้านค้าแบรนด์ดังภายในศูนย์ฯกว่า 300 ร้านค้า และเมื่อช้อปครบ 1,000 บาทขึ้นไป ยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมเกม พร้อมลุ้นรับ Gift Voucher จากร้านค้าดัง และของรางวัลมากมาย พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงบนเวที ที่มาร่วมสร้างสีสันและความบันเทิงตลอดทั้ง 7 วันไม่ซ้ำกัน อาทิ คาบาเร่โชว์, การแสดงดนตรีลูกทุ่ง, การแสดงมายากล และการแสดงละครใบ้ เป็นต้น กิจกรรม "To Be Number One Teen Dancercise Thailand Championship 2020" ระดับภาคใต้ เพื่อชิงถ้วยเกียรติยศประทานจากทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมทุนการศึกษากว่า 2 ล้านบาท, งานแถลงข่าวการแข่งขันมวยไทยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต "THAI FIGHT THAI FEST IN PATONG" ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รอบชิงชนะเลิศ) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต อนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปมวยไทย ไปสู่สายตาชาวต่างชาติทั่วโลก
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมที่ศูนย์การค้าจังซีลอนจัดขึ้นอีกมากมาย ได้แก่ กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ, กิจกรรม Christmas Charity ร่วมมอบความสุขให้แก่เด็กด้อยโอกาส, กิจกรรม Santa's Around the World Troop ขบวนพาเหรดซานตาคลอสในชุดประจำชาติแสนน่ารักกว่า 10 ประเทศ, กิจกรรม Christmas Disco Dance ร่วมฉลองค่ำคืนคริสต์มาสแห่งความสุข, Promotion Santa's Treasure เพียงช้อปครบ 1,000 บาท ลุ้นรับของที่ระลึก Limited Collection OH FUTON X Jungceylon, สนุกสุดเหวี่ยงกับ Jungceylon New Year Concert ส่งท้ายปี กับวงดนตรีสกาสุดมันส์ "The Super Glasses Ska Ensemble" และวงดนตรีสุด Hot จาก Hard Rock Cafe โดยในช่วงเทศกาลดังกล่าวจังซีลอนยังได้ขยายเวลาให้บริการ ไปจนถึงเวลา 23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. - 1 ม.ค. 63 และคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตมากขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศการช้อปปิ้งกลับมาคึกคัก และช่วยให้ยอดการจับจ่ายซื้อสินค้าของลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 – 5,500 บาทต่อคน จากปกติเฉลี่ย 3,500 - 4,000 บาทต่อคน และจะสามารถกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 - 20 ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์การค้าฯ พร้อมทั้งดึงร้านค้าใหม่ๆ แบรนด์ดังเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายและตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งล่าสุด ได้แก่ โซนร้านอาหาร "LOVE EAT" ที่ตกแต่งในรูปแบบของ Court House with a Touch of Art & Culture Style ด้วยงบการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท โดยผสมผสานความเป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน บนพื้นที่เกือบ 4,000 ตร.ม. (2 ชั้น) ที่คัดสรรร้านอาหารชั้นเลิศนานาชาติ ให้ได้เลือกอิ่มอร่อย สำหรับคนรุ่นใหม่ และทุกคนในครอบครัว อาทิ Sizzler, The Crab House, Grand Tarboosh, The Alley และ Shima Sushi เป็นต้น โดยในขณะนี้ได้ปิดการขายไปแล้วกว่า 70% และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน เม.ย 63 นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร และร้านแฟชั่นชื่อดังที่จะเปิดใหม่ในช่วงสิ้นปีนี้ ได้แก่ แหลมเจริญ ซีฟู้ด, American Eagle และ LYN
ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของศูนย์การค้าจังซีลอน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและ Expat ร้อยละ 30 และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร้อยละ 70 โดยในปี 62 ที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวจากเอเชียยังคงเป็นกลุ่มหลัก อาทิ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น ฯลฯ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว นอกจากนั้นยังมีจาก ออสเตรเลีย รัสเซีย แอฟริกาใต้และตะวันออกกลาง ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยทางศูนย์ฯ ได้เน้นการสื่อสารการตลาดแบบ Direct Marketing เพื่อโปรโมทและประชาสัมพันธ์ตรงกับกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ทั้งสื่อ On line และ Off line เช่น สื่อ On line Platform หลักๆ ของจีน, การโฆษณาในสื่อสนามบิน, Inflight Magazine ของสายการบินต่างๆ อาทิ กลุ่มสายการบินของจีน, แอร์เอเชีย, การบินไทย, คาเธ่ย์แปซิฟิค, บางกอกแอร์เวย์ เป็นต้น นอกจากนั้นในช่วงนี้ ไปจนถึงสิ้นปี 62 ยังได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ บริษัทเอเย่นทัวร์ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ JTB ที่มอบสิทธิพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ, โรงแรมในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะโรงแรมที่หาดป่าตอง อาทิ แคมเปญ Enjoy your stay with Jungceylon และบัตรเครดิต, E-Payment ต่างๆ อาทิ Bank of Communications หรือ BOCOM มอบสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ, แคมเปญ Alipay X' Mas Gift ,บัตรเครดิต เคทีซี (KTC) มอบประสบการณ์ช้อปสุดคุ้มแก่ผู้ที่ถือบัตร นอกจากนั้น ยังมีแคมเปญร่วมกับ Matrix Application สำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียโดยเฉพาะอีกด้วย
และในปีนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แก่ โปรแกรม Amazing Thailand Grand Sale "Passport Privilege 2019" และโปรแกรมเที่ยววันธรรมดา ราคา Shock โลก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและดึงลูกค้าชาวไทยมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งให้มากยิ่งขึ้น สำหรับอีเว้นท์ทางการตลาด และแคมเปญโปรโมชั่นในปี 63 นี้ ยังคงมีไม่ต่ำกว่า 80 อีเว้นท์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว เข้ามาใช้บริการต่างๆ ภายในศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 จากเดิมเฉลี่ยประมาณ 60,000 - 70,000 คนต่อวัน ในช่วงไฮซีซั่น และเฉลี่ยวันละ 40,000 - 50,000 คนต่อวัน ในช่วงโลว์ซีซั่น