กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
"ป่าไม้" มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์และสัตว์ต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากป่าไม้ถูกทำลายหายไปก็จะส่งผลต่อระบบนิเวศน์และความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตทั่วโลก ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้จึงเป็นสิ่งมีค่าที่พาให้ทุกชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข แต่ในปัจจุบันป่าไม้มีจำนวนน้อยลงจากเดิมมาก จึงมีการรณรงค์ให้หยุดตัดไม้ทำลายป่าและปลูกป่าทดแทนมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากการดูแลรักษาป่าด้วยตนเองแล้ว ยังมีบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งที่เราควรสนับสนุนการทำงานของพวกเขา คือ "ผู้พิทักษ์ป่า" ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้ที่คอยปกป้องผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ รวมถึงช่วยดูแลคุ้มครองชีวิตสัตว์ป่าทุกตัวในประเทศไทย
ถึงแม้การทำงานของผู้พิทักษ์ป่าจะเป็นเหมือนการปิดทองหลังพระมาโดยตลอด แต่พวกเขายังคงมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผืนป่าและสัตว์ป่าทั่วประเทศไทยอย่างเต็มความสามารถ จึงทำให้มูลนิธิเอสซีจีพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขา โดยการริเริ่มโครงการ "HANDS FOR HEROES รวมมือเราเพื่อคนเฝ้าป่า" เพื่อช่วยเหลือ สร้างขวัญ และกำลังใจให้ผู้พิทักษ์ป่าได้ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ต้อง "ห่วงหน้า พะวงหลัง" ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ มาตลอด 2 ปี เพื่อระดมรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปจัดซื้อชุดอุปกรณ์ลาดตระเวนที่จำเป็น และนำไปมอบให้แก่ผู้พิทักษ์ป่า อาทิ ชุดเครื่องแบบลายพราง และเป้เดินป่า เป็นต้น
ล่าสุดมูลนิธิฯ ได้จัดกิจกรรม "Trail for Heroes วิ่งเทรลเพื่อผู้พิทักษ์ป่า" เพื่อระดมนักวิ่งทั่วประเทศมาวิ่งเทรล เพื่อตระหนักถึงความสำคัญและเข้าถึงการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว โดยอุทยานแห่งชาติปางสีดาเป็นป่าไม้ที่มึความอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้ สัตว์ป่า และมีทัศนียภาพที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย ทั้งยังเป็นแหล่งดูนกกว่า 300 ชนิด รวมถึงเป็นแหล่งดูผีเสื้อที่ใหญ่ที่สุดกว่า 400 สายพันธุ์ จึงทำให้นักวิ่งทุกคนอยากมาสัมผัสกับธรรมชาติและอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งนอกจากนักวิ่งจะได้เพลิดเพลินไปกับเส้นทางวิ่งที่ปลอดภัย และมีวิวธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังได้มีส่วนช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานผู้พิทักษ์ป่าอีกด้วย และสำหรับระยะทางการวิ่งเทรลครั้งนี้ มีระยะทาง 21 กิโลเมตร 11.5 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตร
กิจกรรมครั้งนี้มีนักวิ่งจากทั่วประเทศมาร่วมวิ่งเทรลเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักวิ่งทุกคนได้ชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติปางสีดาเป็นเสียงเดียวกัน โดย จาด้า อินโตร์เร ดารานักแสดงชื่อดังได้บอกถึงความประทับใจของโครงการไว้ว่า "งาน Trail for Heroesเป็นการวิ่งเทรลในระยะ 11.5 กิโลเมตรครั้งแรกของจาด้า โดยก่อนจะมาก็มีการฝึกซ้อมวิ่งตลอดเวลา ซึ่งเหตุผลที่ตัดสินใจมาวิ่งเทรลที่นี่เพราะอยากสัมผัสธรรมชาติ อยากเห็นผีเสื้อ และที่นี่ก็อากาศดีด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเพราะโครงการ HANDS FOR HEROES ด้วย เพราะคราวที่แล้วจาด้าได้ไปวิ่งในงาน Run for Heroes ที่สวนพุทธมณฑล จ.นครปฐม ก็รู้สึกประทับใจเรื่องความรู้ที่เขาให้ระหว่างทาง โดยมีการบอกว่าการทำงานของผู้พิทักษ์ป่าเป็นอย่างไร ต้องอยู่ในป่ากี่วัน และในป่ามีสัตว์ต่าง ๆ เหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่บ้าง ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลป่าและสัตว์ป่า รวมถึงความยากลำบากในการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งการวิ่งของเราก็มีส่วนในการช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า เพราะมูลนิธิฯ จะนำรายได้ทั้งหมดที่ได้จากการจัดกิจกรรมไปช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่าโดยไม่หักค่าใช้จ่าย จาด้าก็รู้สึกดีใจที่การวิ่งของเราสามารถช่วยสนับสนุนการทำงานของผู้พิทักษ์ป่าได้"
ทางด้านเซเลบสายวิ่งอย่าง ไอดอลสาวนักวิ่ง "Super Jiew" the Running Idol ก็ชื่นชมในการจัดกิจกรรมครั้งนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่า"จิ๋วได้ทราบข่าวว่างานวิ่ง Trail for Heroes จะเป็นการวิ่งเพื่อสนับสนุนการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ก็รู้สึกว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์มาก ๆ เหมือนเราได้เข้าถึงผืนป่าและมีส่วนช่วยดูแลป่าไปด้วย จึงตัดสินใจมาร่วมวิ่งเพื่อช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งการมาวิ่งเทรลครั้งนี้ถือว่าเป็นการวิ่งที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติและได้ช่วยป่า โดยเราวิ่งเทรลมาหลายสนามก็ยังไม่เคยร่วมกิจกรรมทางธรรมชาติระหว่างการวิ่งแบบนี้ ตอนขึ้นไปชมวิวบนหอส่องสัตว์ก็รู้สึกได้ว่าธรรมชาติสวยมาก อากาศดีและเย็นสบาย ส่วนเส้นทางวิ่งก็เป็นเส้นทางที่วิ่งสนุกมาก ซึ่งครั้งนี้จิ๋วได้ลงวิ่งในระยะ 21 กิโลเมตร แต่วันนี้เราตั้งใจจะมาวิ่งช้า ๆ เพื่อชมบรรยากาศและอากาศสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติในตอนเช้า ซึ่งถือว่าเป็นการทำประโยชน์ให้ทั้งตนเองและผู้พิทักษ์ป่า"
นอกจากนี้ยังมีนักวิ่งอีก 2 ท่านที่กล่าวถึงความรู้สึกในการร่วมกิจกรรม Trail for Heroes วิ่งเทรลเพื่อผู้พิทักษ์ป่าครั้งนี้ โดยน.ส.รัณย์ฑิญา ภานุวงศ์ธนรัชต์ นักวิ่งในระยะ 5 กิโลเมตร กล่าวว่า "ได้เห็นงานวิ่ง Trail for Heroes จากในเฟซบุ๊ก เรากับเพื่อน ๆ ก็เลยชวนกันมา ซึ่งครั้งนี้เป็นการลงสนามงานวิ่งครั้งแรกในชีวิต ปกติจะแค่วิ่งออกกำลังกาย เราก็ซ้อมและเตรียมตัวก่อนมาวิ่งเต็มที่ โดยการซ้อมวิ่งตอนเย็นวันละ 4-5 กิโลเมตร ในหนึ่งสัปดาห์ก็จะวิ่งประมาณ 4 วัน หรือถ้ามีเวลาจริง ๆ จะวิ่งสัปดาห์ละ 5 วัน แล้วพัก 2 วัน ซึ่งในขณะที่วิ่งเรารู้สึกว่าเราได้หายใจเต็มปอด อากาศที่นี่บริสุทธิ์มาก เป็นเพราะป่ายังอุดมสมบูรณ์ เราก็อยากเป็นกำลังใจให้ผู้พิทักษ์ป่าที่ช่วยดูแลป่าไม้ในประเทศ และขอบคุณที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้มีผืนป่าเอาไว้ให้เราหายใจ"
ปิดท้ายด้วย นายไพศาล เนียมกลั่น นักวิ่งระยะ 11.5 กิโลเมตร กล่าวว่า "ครั้งนี้เป็นการวิ่งเทรลในระยะ 11.5 กิโลเมตรครั้งแรกของผม ที่ตัดสินใจมาวิ่งในงาน Trial for Heroes เพราะรู้สึกท้าทายดีอยากทดสอบตัวเองว่าจะทำได้ไหม นอกจากนี้ผมยังประทับใจในเส้นทางวิ่งที่สะอาด มีจุดชมวิวทางธรรมชาติ มันก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี เพราะเราเคยมาที่นี่แต่ยังไม่เคยไปในบางจุด ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราได้มาชมธรรมชาติด้วย ซึ่งผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้พิทักษ์ป่าที่เสี่ยงอันตรายเพื่อปกป้องดูแลผืนป่าในประเทศไทย ถ้าขาดบุคคลเหล่านี้ทรัพยากรธรรมชาติของเราก็จะลดน้อยลงไป"