กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร
นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์หอมแดง ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญของประเทศ การผลิตหอมแดง ปี 2563 หรือปีเพาะปลูก 2562/63 คาดว่า มีเนื้อที่เพาะปลูก 14,817 ไร่ ลดลงจากปีที่แล้ว 7,979 ไร่ (ลดลงร้อยละ 35) เนื่องจากปีที่ผ่านมาหอมแดงได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวน อากาศร้อนจัด ความชื้นในอากาศ มีน้อย หอมแดงจึงมีลักษณะหัวเล็ก แคระแกรน และยังเกิดปัญหาหนอนกระทู้ระบาด จึงส่งผลให้เกษตรกรลดพื้นที่เพาะปลูก อย่างไรก็ตามถึงแม้เนื้อที่เพาะปลูกลดลงแต่ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 45,665ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2,872 ตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7) และผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 3,082 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1,205 กก./ไร่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 64) ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพอากาศเย็น ความชื้นในอากาศสูง เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต และไม่มีโรคแมลงรบกวน โดยคาดว่าผลผลิตหอมแดงจะออกสู่ตลาดมากที่สุดในช่วงเดือน ธันวาคม 2562 - มกราคม 2563
สำหรับต้นทุนการผลิตของเกษตรกร เฉลี่ยอยู่ที่ 12 บาท/กก. ลดลงจากปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 5 บาท/กก. (ปี 61/62 ต้นทุนเฉลี่ย 17 บาท/กก.) ส่วนราคาที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา (ราคา ณ 20 พฤศจิกายน 2562) หอมแดงสด ที่ยังไม่มีการตาก ราคาเฉลี่ย 18 บาท/กก. หอมปึ่ง ซึ่งเป็นหอมแดงที่เก็บเกี่ยวและแขวนตากในโรงเก็บเป็นเวลาประมาณ 12 วัน ราคาเฉลี่ย 35 บาท/กก. และหอมมัดจุกใหญ่ ราคาเฉลี่ย 55 บาท/กก. (ราคาปี 61/62 ของหอมแดงสด หอมปึ่ง และหอมมัดจุกใหญ่ อยู่ที่เฉลี่ย 12 , 20 และ 35 บาท/กก. ตามลำดับ) โดยการซื้อขายหอมแดงจะมีพ่อค้าในชุมชน พ่อค้ารายย่อย พ่อค้าเร่ มารับซื้อจากเกษตรกร ส่วนพ่อค้ารายใหญ่ในจังหวัดศรีสะเกษจะรับซื้อหอมแดงเพื่อส่งให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นต้น
รองเลขาธิการ สศก. กล่าวทิ้งท้ายว่า จากราคาหอมแดงที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้นับว่าเป็นโอกาสทองของเกษตรกร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นและมีเงินทุนสำรองเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกในปีถัดไป อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรรักษาผลผลิตหอมแดงให้มีคุณภาพ สำหรับเกษตรกรหรือท่านที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมด้านการผลิต สามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 จังหวัดอุบลราชธานี โทร. 045 344 654 หรืออีเมล zone11@oae.go.th