กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลังใน "โครงการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรเพื่อขนส่งสินค้า-พัสดุไปรษณีย์" นำยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า 100% ทดลองขนส่งสิ่งของในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้แนวคิดสร้างระบบขนส่งอย่างยั่งยืน รุดโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาส่งเสริมการประหยัดพลังงานในการขนส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ เพื่อพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า คาดการณ์หากปณท ใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งจำนวน 10,000 คัน ในระยะเวลา 1 ปี จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากกว่า 130,000ต้น ลดปัญหาการเกิดมลภาวะทางอากาศ ดึงบ้านปู ร่วมพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานให้ก้าวทันโลกยุคดิจิทัล รองรับเทรนด์การใช้พลังงานสะอาด ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดควบคู่กับการลดการก่อมลพิษ ย้ำการเป็นฟันเฟืองหลักด้านโลจิสติกส์ นำประเทศไทยสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้
นายกาหลง ทรัพย์สอาด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (สายงานระบบปฏิบัติการ) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ปัจจุบันการคมนาคมขนส่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปณท ในฐานะหน่วยงานด้านการขนส่งโลจิสติกส์ที่มีส่วนในการใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อประกอบธุรกิจ ตระหนักถึงแนวคิดการนำระบบขนส่งอย่างยั่งยืน (Sustainable Transport) จึงได้จับมือกับกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ใน "โครงการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรเพื่อขนส่งสินค้า-พัสดุไปรษณีย์" ซึ่งบริษัท บ้านปูฯ ได้ส่งมอบยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า100% ให้ ปณท ทดลองใช้ขนส่งไปรษณียภัณฑ์ ได้แก่ รถตู้ไฟฟ้า ที่สามารถขับเคลื่อนได้ในระยะทางประมาณ 250-300 กิโลเมตร บรรทุกสิ่งของได้ 300-700 กิโลกรัม มาให้ทดลองใช้ในพื้นที่คลองหลวง จ.ปทุมธานี และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถขับเคลื่อนได้ในระยะทางประมาณ 60-80 กิโลเมตร บรรทุกสิ่งของได้ 30-80 กิโลกรัม มาให้ทดลองใช้ในพื้นที่สามเสนใน จ.กรุงเทพฯ เพื่อนำร่องการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีการใช้พลังงานสะอาด และสนับสนุนแผนการลดมลภาวะทางอากาศให้เป็นศูนย์ ตลอดจนส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ โดย ปณท ตั้งเป้านำรถไฟฟ้าขนส่งสิ่งของใช้งานกว่า 100 คันภายใน 4 ปี (พ.ศ.2566)
นายกาหลง กล่าวเพิ่มว่า การทดลองใช้ยานยนต์ไฟฟ้านำจ่ายครั้งนี้ นอกจากช่วยประหยัดพลังงาน แล้วยังลดค่าซ่อมบำรุงและค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่าปกติ เนื่องจากรถตู้ไฟฟ้าใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้าเพียง 4-6 ชั่วโมง และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาในการชาร์จเพียง 2 ชั่วโมง สามารถใช้งานยานยนต์ดังกล่าวได้นานหลายวันขึ้นอยู่กับระยะทางที่วิ่ง นอกจากนี้ ปณท ยังมีโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาส่งเสริมการประหยัดพลังงานในการขนส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ และจัดหาสถานที่สำหรับการติดตั้งสถานีจ่ายไฟ(Charging Station) เพื่อพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าต่างๆ ที่เหมาะกับการดำเนินงานของ ปณท อย่างต่อเนื่อง เช่น สามล้อไฟฟ้า (e-Tricycle) รถบรรทุกไฟฟ้าพร้อมตู้พ่วง (e-Truck) หรือรถเข็นไฟฟ้า (e-trolley) เป็นต้น โดยคาดการณ์ว่าหาก ปณท หันมาใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งจำนวน 10,000 คัน ภายในระยะเวลา 1 ปี จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากกว่า 130,000 ต้น หรือเท่ากับการปลูกป่าประมาณ 190 ไร่ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และค่าเชื้อเพลิงได้สูงสุด 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งการนำรถจากพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระยะยาว จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดควบคู่กับการลดการก่อมลพิษ และตอกย้ำความพร้อมการเป็นฟันเฟืองหลักด้านโลจิสติกส์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและธุรกิจ e-Commerce ของไทย อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้
ด้านนายเจมส์ รามา ปัทมินทรวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า บ้านปูฯ เดินหน้ามุ่งขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ หรือ ESGควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานให้ก้าวทันโลกยุคดิจิทัล และรองรับเทรนด์การใช้พลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ในอนาคต ตามกลยุทธ์ "Greener & Smarter" ดังนั้น ความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย ในโครงการนำร่องนี้ จึงเป็นโครงการระดับแฟล็กชิพที่จะช่วยกระตุ้น และผลักดันให้ทุกภาคส่วนหันมาให้ความสำคัญ และใช้พลังงานสะอาดกันมากขึ้น โดยเฉพาะยานยนต์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ (Green Vehicles) เพื่อช่วยอนุรักษ์พลังงาน ลดปัญหามลพิษทางอากาศในระยะยาว
"บ้านปูฯ ได้พัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แนวคิด Mobility as a service โดยถือเป็นผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าและขนส่งแบบครบวงจร (Electric Vehicle and Mobility Services) รายแรกของประเทศไทย พร้อมมอบโซลูชันและบริการแบบเบ็ดเสร็จ (one stop service) ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ศึกษารูปแบบความต้องการใช้งานและจัดหายานยนต์ที่เหมาะกับการดำเนินงานของแต่ละองค์กร ดูแลบริการหลังการขายให้กับลูกค้าอย่างดีที่สุด ตลอดจนนำเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ การใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน มาผสานเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์การดำเนินงานในยุคดิจิทัล การได้รับความไว้วางใจจาก ปณท จึงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของบ้านปูฯ ได้เป็นอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้ให้ดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับ ปณท คัดเลือกยานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับการนำจ่ายพัสดุ-สินค้า รวมถึงมีเทคโนโลยีการบริหารประสิทธิภาพ ที่แสดงผลการทำงาน สมรรถนะเครื่องยนต์ รวมถึงแจ้งเตือนเหตุขัดข้องแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ และวางแผนการซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังให้บริการหลังการขายด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในราคาที่เหมาะสม พร้อมยังเตรียมแผนพัฒนาแอปพลิเคชันให้กับ ปณท เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งพัสดุให้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ พร้อมสามารถตรวจสอบความคุ้มค่าจากการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมสนับสนุนแนวคิดด้านระบบขนส่งอย่างยั่งยืน" นายเจมส์ กล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.thailandpost.co.th หรือ THP Contact Center 1545 และผู้ประกอบการ หรือเจ้าของธุรกิจที่สนใจเทคโนโลยีด้านพลังงาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.banpuinfinergy.co.th หรือติดต่อลูกค้าสัมพันธ์ โทร.02-095-6599 หรือ contact@banpuinfinergy.co.th