กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมผู้ค้าปลีกไทย มีมติสนับสนุนแคมเปญ "Everyday Say No to Plastic Bags" งดให้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 63 เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดการลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยภาครัฐต้องรณรงค์ให้ประชาชนรับทราบและร่วมกันงดรับถุงพลาสติกหูหิ้วอย่างทั่วถึง นั้น กทม. โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย สำนักการแพทย์และสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมรณรงค์ขับเคลื่อนมาตรการลดการใช้พลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม โดยสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ได้ลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ สภาอุตสาหกรรมและภาคีเครือข่าย ดำเนินโครงการความร่วมมือภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ในการจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน โดยนำร่องในพื้นที่เขตคลองเตย มุ่งพัฒนาระบบการทิ้งขยะแยกประเภทภายในอาคารและลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง รวมถึงจัดระบบการจัดเก็บขยะแยกประเภทเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ นอกจากนั้น ได้ร่วมกับบริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการ "วน" โดยรับบริจาคพลาสติกชนิดอ่อน เช่น ถุงหูหิ้ว พลาสติกกันกระแทก มารีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติกแล้วนำไปผลิตเป็นถุงใช้ซ้ำ เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกที่จะออกสู่สิ่งแวดล้อม ตลอดจนจัดกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟม ครอบคลุมทั้ง 50 เขต รวมทั้งสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน สำนักอนามัย กทม. ได้กำชับให้ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 68 แห่ง เปลี่ยนถุงใส่ยาเป็นถุงกระดาษ ยกเลิกการใช้ถุงหูหิ้วพลาสติก พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนนำถุงผ้ามาใส่ยาด้วย
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้น สำนักการแพทย์ กทม. ยังได้ดำเนินโครงการ "กทม.ทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติกและโฟม" ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 61 โดยรณรงค์ให้โรงพยาบาล และส่วนราชการในสังกัด ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก รวมถึงประชาสัมพันธ์แนวทางการลดและคัดแยกขยะตามหลัก 3R ได้แก่ Reduce ลด ละ เลิก การใช้สิ่งของที่ไม่จำเป็น Reuse ใช้ซ้ำ และ Recycle นำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้บรรจุภัณฑ์หรือภาชนะที่ใช้ซ้ำได้ สำหรับในส่วนของสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศเสียงตามสายประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ค้าในตลาดให้ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ตลอดจนกำหนดเป้าหมายการลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วของแต่ละตลาด คาดจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน ม.ค. 2563 เป็นต้นไป