กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--
นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ มั่นใจธุรกิจหนังสือปี 51 โตต่อเนื่อง ล่าสุดผนึกภาครัฐ เอกชน จัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 36 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 6 งานนิทรรศการและจำหน่ายหนังสือใหญ่สุดในประเทศ รวม 870 บูธจาก 400 สำนักพิมพ์คาด ผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.5 ล้านคนใน 13 วัน เผยปัจจัยบวกด้านการเมือง ที่สร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ส่งผลตลาดหนังสือภายในงานมีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาทเติบโตขึ้นอีก 7-8% ขณะที่ผู้ประกอบการเล็งผลิตและพัฒนาหนังสือใหม่ๆป้อนตลาด พร้อมดึงกูรูธุรกิจหนังสือเปิดเวทีเสวนา “ทิศทางธุรกิจหนังสือปี 51”
นางริสรวล อร่ามเจริญ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (ส.พ.จ.ท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจหนังสือในปีนี้เชื่อว่ายังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการที่แต่ละสำนักพิมพ์วางแผนที่จะพัฒนาและผลิตหนังสือออกมามากขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมคนไทยยังให้ความสนใจในการเลือกและซื้อหนังสือประเภทต่างๆเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดีการจัดงานนิทรรศการและจำหน่ายหนังสือยังถือเป็นช่องทางสำคัญการในสร้างโอกาสให้ผู้อ่านได้เลือกซื้อหนังสือที่หลากหลาย ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสที่ผู้ประกอบการนำเสนอหนังสือให้กับผู้อ่านอีกด้วย
โดยในปีนี้สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและองค์กรอิสระ อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร กรมส่งเสริมการส่งออก สมาพันธ์องค์กรเพื่อพัฒนาหนังสือและการอ่าน มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ฯลฯ จัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 36 (36th Nation Book Fair) และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 6 (Bangkok International Book Fair 2008) ขึ้นในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-7 เมษายนนี้ รวม 13 วัน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“งานสัปดาห์หนังสือในครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด ความรู้... ยิ่งอ่าน ยิ่งได้ Knowledge the more you read the more you gain โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้คนไทย ตั้งแต่เด็ก เยาวชน ตลอดจนผู้ใหญ่เห็นความสำคัญของการอ่านและอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังส่งเสริมให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู และผู้เกี่ยวข้องรู้เทคนิค วิธีการส่งเสริมการอ่านแก่เด็กและเยาวชนอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้คนไทยและชาวต่างประเทศได้สัมผัสและแลกเปลี่ยน เรียนรู้หนังสือจากนานาชาติและหนังสือของไทย เพื่อศึกษา เรียนรู้การพัฒนาและเติบโตของหนังสือในแต่ละประเทศ ซึ่งจะสร้างให้นักเขียนและสำนักพิมพ์ของไทยตื่นตัว ปรับปรุงพัฒนาการผลิตหนังสือให้มีคุณภาพมีความหลากหลาย เพื่อให้เป็นที่รู้จักและมีโอกาสก้าวสู่ตลาดในต่างประเทศ” นางริสรวลกล่าว
การจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 36 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 6 นี้ เป็นงานแสดงและจำหน่ายหนังสือและสื่อการศึกษา อบรมสัมมนาวิชาการ นิทรรศการ และเวทีการแสดงที่เปิดกว้างให้ผู้สนใจเข้าชมงานนิทรรศการ การแสดง การเสวนา การเปิดตัวหนังสือจากนักเขียนชั้นแนวหน้าและสมัครเล่น การเลือกซื้อหนังสือหลากหลาย ทั้งหนังสือทั่วไป หนังสือเด็ก หนังสือแบบเรียน หนังสือเก่า และหนังสือจากต่างประเทศรวมกว่า 870 บูธ จากสำนักพิมพ์กว่า 400 แห่ง
โดยกิจกรรมภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 36 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 6 ประกอบไปด้วย โซนแพลนนารีฮอลล์ จัดแสดงและจำหน่ายหนังสือทั่วไป และหนังสือต่างประเทศ โซนซี 1 จัดแสดงและจำหน่ายหนังสือทั่วไป โซนซี 2 จัดแสดงและจำหน่ายหนังสือทั่วไป หนังสือเด็ก หนังสือแบบเรียน และหนังสือเก่า โซนพลาซา จัดแสดงและจำหน่ายหนังสือทั่วไป โซนเอเทรียม แสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ พิเศษสำหรับปีนี้ สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ได้รับเกียรติจากประเทศเยอรมนีเป็น Guest of Honor 2008 โดยได้จัดแสดงนิทรรศการหนังสือที่น่าสนใจมากมายบริเวณเมนฟอร์เย่ และใน ห้อง Meeting Room 1-4 จัดแสดงและจำหน่ายหนังสือต่างประเทศ ห้องโถงกิจกรรมโซนเอ จัดแสดงนิทรรศการและเวทีการแสดง และห้องบอลรูม จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ รวมพื้นที่จัดแสดงกิจกรรมและนิทรรศการ กว่า 20,000 ตารางเมตร
“งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 36 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 6 เป็นงานหนังสือระดับประเทศที่ทุกคนรอคอยและในครั้งนี้ก็เช่นกัน โดยแนวคิดในการจัดงานนี้เกิดขึ้นเพื่อต้องการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน คนไทยทุกคนรักการอ่านหนังสือทุกชนิด ที่เหมาะสมกับวัย รวมทั้งยังเป็นการเปิดโลกหนังสือทั้งไทยและนานาชาติ ให้เชื่อมโยงกันแบบบูรณาการ ให้นักเขียนไทยและนานาประเทศได้มีโอกาสแลกเปลี่ยน ศึกษา และพัฒนาหนังสือให้ก้าวหน้า โดยเฉพาะในปีนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้สัมผัสหนังสือจากสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่มาร่วมจัดแสดง จำหน่าย และกิจกรรมต่างๆกว่า 870 บูธ ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยจัดมา และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าชมและเลือกซื้อหนังสือมากกว่า 1.5 ล้านคน”
นางริสรวล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันธุรกิจสิ่งพิมพ์และหนังสือมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 18,000 ล้านบาท ในปี 2550 ที่ผ่านมามีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 6-7 % ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยหลักเกิดจากจำนวนช่องทางการจำหน่ายหนังสือ คือร้านหนังสือที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนในปีนี้ คาดว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์และหนังสือจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 6-7 % จากปัจจัยบวกด้านการเมือง หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว เชื่อว่าด้วยเสถียรภาพทางการเมืองที่เข้มแข็งขึ้น จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับคืนมา อีกทั้งผู้ประกอบการสำนักพิมพ์เองมีการพัฒนา และวางแผนผลิตหนังสือเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จัดเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางธุรกิจหนังสือปี 2551” ขึ้น โดยมีกูรูในธุรกิจหนังสือซึ่งมากด้วยประสบการณ์ร่วมแสดงความคิดเห็นอีกด้วย
สำหรับการจัดงานงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 6 (Bangkok International Book Fair 2008) จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2551 และงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 36 (36th Nation Book Fair) จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม -7 เมษายน 2551 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2551 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงานได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยงานตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม -7 เมษายน 2551 จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandbookfair.com และ www.bangkokibf.com