กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--โอกิลวี่
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ("ธนาคารกรุงเทพ" หรือ "ธนาคาร") ประกาศในวันนี้ว่า ธนาคารได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นโดยมีเงื่อนไขกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ("สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด") และ พีที แอสทร่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทีบีเค ("แอสทร่า") เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 89.12 ในธนาคารพีที เพอร์มาตา ทีบีเค ("เพอร์มาตา") ซึ่งเป็นธนาคารอินโดนีเซีย โดยคาดว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพคาดว่าจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดของเพอร์มาตาอีกร้อยละ 10.88 หลังจากการเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 89.12 ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การทำธุรกรรมนี้ตั้งอยู่บนหลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าซึ่งมีการตกลงร่วมกันอยู่ที่ 1.77 เท่าของมูลค่าตามบัญชีของเพอร์มาตา (โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงราคา) ดังนั้น หากคำนวณมูลค่าตามบัญชีของเพอร์มาตา ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 ราคาซื้อหุ้นเบื้องต้นจะอยู่ที่ 1,498 รูเปียต่อหุ้น สำหรับการถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 89.12 มูลค่าธุรกรรมเบื้องต้น จะอยู่ที่ 37,430,974 ล้านรูเปีย (ประมาณ 2,674 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ81,017 ล้านบาท) [1] และสำหรับการถือหุ้น 100% มูลค่าเบื้องต้นจะอยู่ที่ 42,001,080 ล้านรูเปีย (ประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 90,909ล้านบาท) 1 โดยราคาซื้อหุ้นที่ธนาคารจะต้องชำระในการเข้าซื้อหุ้นจำนวนร้อยละ 89.12 ในเพอร์มาตา จะถูกคำนวณอีกเป็นครั้งสุดท้ายโดยอ้างอิงที่อัตรา 1.77 เท่าของมูลค่าตามบัญชีของเพอร์มาตา (โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงราคา) ตามที่ปรากฏในงบการเงินล่าสุดของเพอร์มาตาที่ได้รับการเผยแพร่ก่อนวันที่ทำธุรกรรมแล้วเสร็จ
ธุรกรรมนี้จะสำเร็จได้ เมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อน ซึ่งรวมถึงการได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย (Otoritas Jasa Keuangan) ตลอดจนการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของธนาคารกรุงเทพ
ในการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ ธนาคารคาดว่าจะใช้เงินทุนภายในและแหล่งเงินทุนที่ได้จากการจัดหาเงินทุนตามปกติของธนาคาร และคาดว่า เมื่อธุรกรรมแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มกำไรต่อหุ้นและอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นของธนาคารได้ทันที ขณะที่ธนาคารยังคงมีฐานะเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งต่อไป
ธนาคารกรุงเทพเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีเครือข่ายสาขาในต่างประเทศกว้างขวางที่สุด โดยมีสาขาครอบคลุม 14 เขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก และสินเชื่อของกิจการต่างประเทศมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 17 ของสินเชื่อรวมของธนาคาร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารมีกลยุทธ์ในการเชื่อมโยงสู่ภูมิภาค เพื่อสนับสนุนลูกค้าของธนาคารในการขยายกิจการไปยังต่างประเทศ โดยเครือข่ายในต่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การดำเนินธุรกิจของธนาคารเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เพอร์มาตาเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของอินโดนีเซีย โดยมีเครือข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ด้วยความโดดเด่นของฐานเงินฝากและเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นเลิศ รวมถึงทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง เพอร์มาตาพร้อมที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งหลังการปรับโครงสร้างองค์กรที่ผ่านมา การเข้าซื้อกิจการเพอร์มาตาจะตอกย้ำถึงพันธะผูกพันที่ธนาคารมีต่ออินโดนีเซียซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2511 และช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำของธนาคารกรุงเทพในระดับภูมิภาค ด้วยฐานธุรกิจที่มั่นคงทั้งในไทยและอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน
นายปิติ สิทธิอำนวย ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า "การขยายธุรกิจในต่างประเทศเป็นกลยุทธ์สำคัญของธนาคาร อินโดนีเซียเป็นตลาดที่ธนาคารให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วที่สุดในเอเชีย และมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก มีปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ที่เอื้ออำนวย ตลอดจนมีความเชื่อมโยงของประเทศในเขตเศรษฐกิจอาเซียนที่เพิ่มขึ้น"
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า "จากประสบการณ์โดยตรงในการดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย และความเข้าใจในภาคธุรกิจธนาคารอย่างลึกซึ้ง เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจธนาคารในอินโดนีเซียมีการเติบโตที่น่าสนใจ โดยที่ยังคงรักษาอัตราผลกำไรที่ดี เพอร์มาตาจะเป็นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยเสริมเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของธนาคาร ด้วยช่องทางการให้บริการที่กว้างขวาง ความโดดเด่นของฐานเงินฝากและชื่อเสียงของธนาคาร ตลอดจนความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เรามีความยินดีที่จะได้ทำงานและสนับสนุนผู้บริหารและพนักงานของเพอร์มาตา เพื่อให้เพอร์มาตาก้าวหน้าขึ้นไปในอีกระดับ"
ปัจจุบัน เพอร์มาตาเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 12 ของอินโดนีเซียเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์รวม การเข้าซื้อเพอร์มาตาโดยธนาคารกรุงเทพจะช่วยให้เพอร์มาตาได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านบริการสำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอี เครือข่ายทางธุรกิจและความสัมพันธ์กับองค์กรธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเซียที่แข็งแกร่ง ตลอดจนผลิตภัณฑ์การเงินระหว่างประเทศ และความเชี่ยวชาญที่หลากหลายในแต่ละอุตสาหกรรม ธนาคารกรุงเทพจะให้การสนับสนุนลูกค้าของเพอร์มาตาด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง ส่งเสริมความรู้และการเข้าถึงทางด้านการเงิน อีกทั้งสนับสนุนลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ และลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอี ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย รวมถึงผู้ประกอบการในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทางธุรกิจ
นายชาติศิริกล่าวเพิ่มเติมว่า "การรวมกันระหว่างสองธนาคาร ก่อให้เกิดการประสานพลังความร่วมมืออย่างชัดเจน ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายต่างประเทศที่ครอบคลุมอย่างกว้างขวางของธนาคารกรุงเทพในเอเชีย และความสามารถในการเชื่อมโยงเครือข่ายต่างประเทศ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ลูกค้าของเพอร์มาตาสามารถเข้าถึงตลาดสำคัญทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อพร้อมรับการเชื่อมโยงระหว่างประเทศในอาเซียน และกับภูมิภาคจีนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งว่า แอสทร่าจะยังคงความเป็นพันธมิตรในการทำธุรกิจและให้การสนับสนุนร่วมกับเพอร์มาตาต่อไป" มอร์แกน สแตนลีย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของธนาคารกรุงเทพในการทำธุรกรรมครั้งนี้