กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น
โรงไฟฟ้าแก่งคอย2 เดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้ายูนิตที่สอง จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ กฟผ. เรียบร้อยแล้ว ขนาด 734 เมกะวัตต์
นายพีระพันธ์ ศรีสุโข ผู้จัดการทั่วไป บริษัทกัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ดำเนินงานโดย บริษัทกัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท กัลฟ์อิเล็คตริก จำกัด มหาชน ได้จ่ายไฟเข้าระบบของ กฟผ. ในชุดที่2 ขนาดกำลังการผลิตจำนวน 734 เมกะวัตต์ เรียบร้อยแล้ว และไม่พบปัญหาและอุปสรรคใดๆ ในการเดินเครื่องครั้งนี้
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าแก่งคอย2 เชื่อว่า การจ่ายไฟเข้าสู่ระบบครบทั้ง 2 ยูนิต โดยมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 1,468 เมกะวัตต์ คาดว่าจะช่วยลดต้นทุน และการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ไม่ให้ปรับสูงขึ้น และยังเป็นศูนย์กลางในการช่วยจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ครอบคลุมภาคกลางอย่างทั่วถึง อีกทั้งจะช่วยลดการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศลงได้
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ มั่นใจว่าโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 มีประสิทธิภาพเมื่อเปรียบเทียบกับโรงไฟฟ้าอื่นๆ เนื่องจากโรงไฟฟ้าของเราเป็นโรงไฟฟ้าใหม่และมีศักยภาพความพร้อมเต็มที่ อีกทั้ง เมื่อเร็วๆนี้ ยังได้รับการยกย่อง จาก Diesel & Gas Turbine Worldwide Magazine ฉบับเดือน ม.ค.- ก.พ. 2008 ว่าเป็น “World’s Best Power Plants” เนื่องโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 แห่งนี้ ได้สร้างสถิติใหม่ของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ด้วยกำลังการผลิตสูงสุดถึง 1520 เมกะวัตต์ โดยการเดินเครื่องด้วย Gas Turbine รุ่น GT26 ของ Alstom ที่มีศักยภาพและผ่านการทดสอบโดยระบบวิศวกรรมที่ดีที่สุดเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้งแต่ละยูนิตของโรงไฟฟ้าแก่งคอย2 ประกอบด้วย เครื่องกังหันก๊าซจำนวน 2 ตัว และแต่ละเครื่องมี ห้องเผาไม้จำนวน 2 ห้อง คือ EV และ SEV ซึ่งเป็นแบบ dry low NOx คือการเผาไหม้ที่มีค่า NOx ต่ำ โดยไม่ใช้น้ำช่วยในการลดค่า NOx ทำให้ช่วยลดการปริมาณการใช้น้ำของโรงไฟฟ้า กับเทคโนโลยี dry low NOx นี้ ทำให้ระดับของค่า NOx อยู่ประมาณที่ 25 ppm ด้วย นอกจากนี้โรงไฟฟ้าแห่งนี้ ใช้ก๊าซน้อย จึงทำให้ลดปัญหาในการใช้เชื้อเพลิง อีกทั้งด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้โรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีการปล่อยความร้อนในระดับต่ำ ใช้ปริมาณน้ำน้อยในการผลิตไฟฟ้า จึงกล่าวได้ว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
โรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ดำเนินงานโดย บริษัทกัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัทกัลฟ์อิเล็คตริก จำกัด มหาชน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 36,000 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ถือเป็น1 ใน โรงไฟฟ้าพื้นฐานของประเทศ ที่จะช่วยให้ปริมาณไฟฟ้าสำรองมีเสถียรภาพมั่นคงขึ้น โดยมีกำลังการผลิตรวมทั้ง 2 ยูนิต 1,468 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาขายไฟฟ้าให้ กฟผ. รวมยูนิตละ 25 ปี