กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--IR PLUS
บมจ. สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ปิดจองหุ้นกระแสตอบรับดีเยี่ยม "สมภพ กีระสุนทรพงษ์" กรรมการผู้อำนวยการ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่าย มั่นใจธุรกิจ SFLEX อนาคตรุ่ง ธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตสูงตามความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ด้านผู้บริหาร "ปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์" ประธานกรรมการบริหาร ระบุเงินระดมทุน 426.80 ล้านบาท สร้างโอกาสทางธุรกิจหลังนำไปลงทุนซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตฟิล์มประเภทที่ใช้ในการปิดผนึกขึ้นรูป (Sealant) สร้างคลังสินค้า คืนหนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เข้าเทรดใน SET วันแรก 19 ธ.ค.นี้
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นไอพีโอของ SFLEX ในช่วงเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจและการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ SFLEX รวมถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต โดย SFLEX เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท กำหนดราคาไอพีโอไว้ที่หุ้นละ 3.88 บาท มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 8 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน)
"ผมมั่นใจว่า SFLEX จะเป็นอีกหุ้นเด่นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยในช่วงที่ผ่านมา เราได้เดินสายโรดโชว์นำเสนอข้อมูลบริษัทฯ ที่หาดใหญ่ กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ซึ่งมีนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังข้อมูลจำนวนมาก เนื่องจาก SFLEX เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำในประเทศที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับสากล โดยที่ยอดขายประมาณร้อยละ 80-85 มาจากการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภค (Non-Food) ในขณะที่อีกประมาณร้อยละ 20-25 มาจากการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภค (Food)โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภคเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจของบริษัทฯ อย่างมากในอนาคต จึงทำให้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในช่วงเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอระหว่างวันที่11-13ธันวาคม ที่ผ่านมา ประกอบกับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 3.88 บาท สอดคล้องกับสภาวะของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องในวันเข้าซื้อขายใน SET 19 ธันวาคมนี้" นายสมภพ กล่าว
นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX กล่าวว่า หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เป็นเพราะบริษัทฯ มีพื้นฐานที่โดดเด่น เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ลงทุนซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตฟิล์มประเภทที่ใช้ในการปิดผนึกขึ้นรูป (Sealant) ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งใช้ลงทุนสร้างคลังสินค้าทดแทนการเช่าคลังสินค้าในปัจจุบัน และนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยได้ส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ด้วยเป้าหมายของบริษัทฯ ที่จะเป็นผู้นำทางด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ในประเทศไทย และประเทศในกลุ่ม CLMV โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นผู้นำตลาดในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดที่หันมาใช้วัตถุดิบรีไซเคิล การใช้วัตถุดิบที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และมั่นใจว่าหลังเข้าทำการซื้อขาย SFLEX จะเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน
"ขอขอบคุณผู้ที่สนใจจองซื้อหุ้นของ SFLEX กันอย่างคึกคัก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ SFLEX ในฐานะผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) สำหรับสินค้าอุปโภคและสินค้าบริโภค ซึ่งสินค้าอุปโภคและบริโภคดังกล่าว เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม, น้ำยาล้างจาน, ผงซักฟอก เป็นต้น จะถูกจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการค้าปลีกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ดิสเคาน์สโตร์ ซูเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น ซึ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกในช่วงปี 2558-2561 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 6.81 ต่อปี และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจ Flexible Packaging ในกลุ่มประเทศ CLMVT ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนจะช่วยให้บริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต และ SFLEX พร้อมแล้วที่จะนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรกในวันที่ 19 ธ.ค. นี้" นายปรินทร์ธรณ์ กล่าว