กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายเทิดเกียรติ สุกใส ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และนางสาวจิรพัจน์ ยุววรรณ กรรมการบริษัทเชียงราย ยูไนเต็ด คลับ จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "การส่งเสริมการนำผลงานการวิจัยและพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ในการพัฒนาแนวทางการผลิตเชื้อเพลิงขยะ (RDF) ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะในเสวียนพัฒนาเป็นเชื้อเพลิงขยะถ่ายทอดแก่ชุมชนในจังหวัดเชียงราย รวมทั้งใช้ทดแทนพลังงานความร้อนในชุมชน โอกาสนี้ ดร.อาภารัตน์ มหาขันธ์ รองผู้ว่าการกลุ่มวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน วว. นางสาวนุชนารถ วดีศิริสักดิ์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัทเชียงราย ยูไนเต็ด คลับ จำกัด พร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของทั้งสามหน่วยงานร่วมเป็นเกียรติ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ณ ห้องประชุม กวท. ชั้น 8 อาคาร RD1 วว. เทคโนธานี คลองห้า จังหวัดปทุมธานี
"...ความร่วมมือของทั้งสามหน่วยงานในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมความร่วมมือเชิงบูรณาการและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการ โดยพัฒนาการผลิตเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel : RDF) ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ให้เกิดการสร้างสร้างมูลค่าเพิ่มและใช้ประโยชน์กับขยะชุมชนและของเหลือทิ้งภาคการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดเชียงราย…" ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวสรุปถึงกรอบความร่วมมือ
ดร.อาภารัตน์ มหาขันธ์ รองผู้ว่าการกลุ่มวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาขยะของประเทศไทย จัดว่าเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะเป็นอย่างมาก โดยแนวทางการจัดการขยะให้เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการจัดการขยะชุมชน และสร้างความตระหนักในการคัดแยกขยะที่ต้นทางอย่างเป็นรูปธรรม โดยจังหวัดเชียงรายมีนวัตกรรมการจัดการขยะชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น นั่นคือ "เสวียน" ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่อยู่คู่กับเกษตรกรไทยมาอย่างยาวนาน โดยประเภทขยะในเสวียนมักเป็นใบไม้ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำปุ๋ยบำรุงต้นไม้ แต่อย่างไรก็ตามปัญหาจากการหมักของใบไม้เสวียนยังคงต้องได้รับการต่อยอดในด้านต่างๆ ทั้งนี้ วว.จะนำ วทน.มาต่อยอดและประยุกต์ใช้กับการพัฒนาขยะภายในเสวียน อาทิเช่น ใบไม้ ของเหลือทิ้งภาคการเกษตร รวมถึงพลาสติกในชุมชนมาพัฒนาเป็นสูตรผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงจากขยะคุณภาพสูง (RDF) และถ่ายทอดผลงานวิจัยให้แก่ชุมชนเป้าหมายภายในจังหวัดเชียงราย ให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมและขับเคลื่อนพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดปลอดขยะต่อไปในอนาคต
นายเทิดเกียรติ สุกใส ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า อบจ.เชียงราย ได้ขับเคลื่อนนโยบายจังหวัดสะอาด โดยการบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง กลางทางและปลายทาง อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อส่งเสริมการบริการจัดการขยะ ลดประมาณขยะต้นทางให้เหลือน้อยที่สุดในทุกพื้นที่ ดังนั้นความร่วมมือเชิงบูรราการสามฝ่ายในครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบของการทำงานร่วมกัน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดการขยะที่ต้นทางให้ประสบความสำเร็จ
นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัทเชียงราย ยูไนเต็ด คลับ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และเกิดความตระหนัก ในการคัดแยกขยะที่ต้นทางอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเปลี่ยนขยะให้เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ขยะชุมชนเชื่อมั่นว่าแนวทางการใช้ วทน.เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากขยะเสวียน โดยผลิตเชื้อเพลิงขยะคุณภาพสูง จะเป็นการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ 4.0 ด้วยนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรมและทำให้จังหวัดเชียงรายเป็นต้นแบบการใช้วิทยาศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาขยะอย่างเป็นรูปธรรม