กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--มหาวิทยาลัยศรีปทุม
รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) เปิดตัวโครงการยุวชนอาสา ม.ศรีปทุม มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งเดียว ได้รับคัดเลือก 2 โครงการฯเข้าร่วม พร้อมกับ 6 มหาวิทยาลัยของรัฐ ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อร่วมพัฒนาชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิรัช เลิศไพฑูรย์พันธ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม นำทีมคณาจารย์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม เข้าร่วมโครงการยุวชนอาสาในพื้นที่จัดงหวัดกาฬสินธุ์ ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) ณ อาคารกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ซึ่งมหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็น 1 ใน 7 สถาบันการศึกษาของประเทศ ที่ได้เข้าร่วมโครงการฯดังกล่าว
สำหรับมหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้นำนักศึกษาและคณาจารย์ลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในการเรียนรู้เชิงพื้นที่ เป็นระยะเวลา 1 ภาคการศึกษา ในการเรียนรู้และแก้ปัญหาร่วมกับชุมชน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายที่เห็นผลเป็นรูปธรรม และจะเป็นการเรียนรู้รูปแบบใหม่สำหรับนักศึกษา จะได้ฝึกการคิดวิเคราะห์และปฎิบัติงานจริงในพื้นที่ พร้อมกับมีอาจารย์เป็นโค้ช (Community Based Learning) สร้างนักศึกษาให้มีความรู้ควบคู่คุณธรรม นำนวัตกรรมสู่สังคมต่อไป
นอกจากนี้ภายในงาน ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) ได้ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อประชุมเตรียมการโครงการยุวชนอาสา และร่วมให้โอวาทพร้อมแนวทางในการทำงานกับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 800 คน จาก 9 มหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร มหวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ และมหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน พร้อมทั้งหารือร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัย หัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่
สำหรับโครงการ "ยุวชนอาสา" นับเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญ ในการปฏิรูปการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เปลี่ยนจากการเรียนในห้องเรียนมาเป็นการลงมือทำจริง นำองค์ความรู้ที่เรียนมาบูรณาการในการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ของคนในชุมชน โดยได้เลือกกาฬสินธุ์ถือเป็นจังหวัดนำร่องในการดำเนินโครงการนี้ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ติด 1 ใน 10 จังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศ