กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
นายวิทวัส อัจฉริยวนิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 62 จำนวน 3กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) ในอัตรา 0.1025 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) ในอัตรา 0.1850 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) ในอัตรา 0.0835 บาทต่อหน่วย พร้อมลดทุนครั้งที่ 10 ในอัตรา 0.0440 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ กำหนดจ่ายปันผลและลดทุนพร้อมกันในวันที่ 19 ธ.ค. 62 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 120.30 ล้านบาท
นายวิทวัสกล่าวต่อไปว่า กองทุน KPNPF มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารสำนักงาน และระบบสาธารณูปโภคของอาคารเคพีเอ็น ทาวเวอร์ ที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะผ่านหน้าโครงการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ทำให้มีแนวโน้มความต้องการเช่าพื้นที่และโอกาสปรับอัตราเค่าเช่าในอนาคต นอกจากนี้ คาดว่าอัตราภาษีที่ดินฯ ใหม่ปี 2563 จะส่งผลดีต่อกองทุน เนื่องจาก กองทุนน่าจะมีภาระทางภาษีที่ลดลง ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 26 ครั้ง เป็นเงิน 3.2515 บาทต่อหน่วย หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 5.05% ต่อปี
กองทุน MJLF มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโครงการ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน โครงการศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ซูซูกิอเวนิว รัชโยธิน และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีลักษณะเป็นอาคารไลฟ์สไตล์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีการจำหน่ายสินค้าและเป็นศูนย์รวมความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ อาทิ โรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง ฟิตเนส ร้านอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น โดยในปีที่ผ่านมาเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ได้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์โครงการทั้งภายในและภายนอก
จึงทำให้โครงการมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ที่ได้เปิดงานถึงใช้สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา จะทำให้การเดินทางมายังโครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และโครงการศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ซูซูกิอเวนิว รัชโยธิน สะดวกมากยิ่งขึ้น จึงคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้โครงการที่รัชโยธินมีแนวโน้มการปรับตัวของอัตราการเช่าพื้นที่และอัตราค่าเช่าพื้นที่โดยเฉลี่ยเชิงบวก ผลการดำเนินงานในช่วง ม.ค. – ก.ย. ที่ผ่านมา กองทุนสามารถทำกำไรสุทธิจากการดำเนินงานได้ 218.18 ล้านบาท โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 49 ครั้ง เป็นเงิน 11.4930 บาทต่อหน่วย หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 9.36% ต่อปี
กองทุน CTARAF มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคาร รวมถึงระบบสาธารณูปโภคของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย โรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 25 ไร่ บนหาดเฉวง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 38 ครั้ง เป็นเงิน 6.8061 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 5.86% ต่อปี
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 กองทุน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้นสำหรับผู้ที่สนใจลงทุน สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888