กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--วิเสจ
ทีเส็บเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศเจาะตลาดประชุม-อินเซนทีฟจากจีน อินเดีย และยุโรป เสนอขาย 115 จุดหมายไมซ์ภายใต้แนวคิด 7 มุมใหม่สไตล์ไมซ์ไทย และแคมเปญ 4Ms มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยแนวโน้มดี มีกระแสตอบรับจะนำงานเข้ามาจัดในไทยรวม 76 งาน ด้วยจำนวนนักเดินทางไมซ์ 45,365 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศ 2,952 ล้านบาท
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ทีเส็บเริ่มต้นด้วยการมุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ต่างประเทศ เดินสายในประเทศเป้าหมายหลัก หวังกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการดึงนักเดินทางไมซ์จากทั่วทุกภูมิภาคของโลก โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศ 1,386,000 คน สร้างรายได้ให้ประเทศ 105,600 ล้านบาท
"เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีนี้ ทีเส็บจึงเร่งส่งเสริมตลาดการประชุมและกลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Meetings & Incentives : MI) เนื่องจากเป็นตลาดที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศได้เร็วที่สุดในกลุ่มธุรกิจไมซ์ เพราะลูกค้าองค์กรสามารถตัดสินใจจัดงานประชุมสัมมนาหรือให้รางวัลพนักงานด้วยการเดินทางพักผ่อน รวมทั้งกำหนดรูปแบบงานและจัดการเดินทางได้ในเวลาไม่นานนัก โดยทีเส็บจะมุ่งเน้นตลาดหลักจากจีนและอินเดีย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เดินทางมาไทยมากที่สุด รวมทั้งกลุ่มตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพจากยุโรป"
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จากสถิติพบว่า 10 อันดับแรกของตลาดไมซ์ที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด อันดับที่หนึ่งยังคงเป็นจีน (254,327 คน) รองลงมาคืออินเดีย (166,817 คน) สำหรับตลาดจากยุโรปมีจำนวนทั้งสิ้น 77,077 คน
ตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทีเส็บส่งเสริมตลาดต่างประเทศด้วยการจัดงานสานสัมพันธ์ผ่านกิจกรรม โชว์เคส และพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงธุรกิจ เจาะตลาดหลักอินเดียและจีน พร้อมร่วมงานเทรดโชว์ด้านไมซ์ในยุโรป เพื่อโชว์ศักยภาพประเทศไทย ด้วยการนำเสนอจุดขาย 115 จุดหมายไมซ์ ภายใต้แนวคิด 7 มุมใหม่ สไตล์ไมซ์ไทย หรือ 7 Magnificent MICE Themes พร้อมด้วยแคมเปญสนับสนุนการตลาด 4Ms ได้แก่ แคมเปญสำหรับกลุ่มประชุมที่เดินทางไปยังเมืองที่มีศักยภาพในจังหวัดต่างๆ (Meet Now) กลุ่มการประชุมขนาดใหญ่ (Meet Mega) กลุ่มประชุมตามธุรกิจภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 (Meet Smart) และกลุ่มประชุมที่จัดงานหรือทำกิจกรรมเพื่อการจัดงานอย่างยั่งยืน (Meet Sustainable 2020) ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษและงบประมาณสนับสนุนตามเงื่อนไข โดยเลือกนำเสนอจุดหมายไมซ์และแคมเปญสนับสนุนให้เหมาะสมกับแต่ละตลาด สำหรับจีนและอินเดียจะเน้นเรื่องอาหารและวัฒนธรรม ส่วนตลาดยุโรปได้นำเสนอเส้นทางไมซ์ที่มีความหลากหลายทั้งด้านอาหาร ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซีเอสอาร์ กิจกรรมแนวผจญภัย มุ่งหวังเปิดมุมมองใหม่ โน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายสนใจสัมผัสประสบการณ์จัดประชุมและเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในเมืองไทย
ด้านตลาดอินเดีย ทีเส็บได้จัดงาน Thailand MICE Showcase เมื่อวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2562 ณ กรุงนิวเดลี เปิดเวทีเจรจาธุรกิจ โดยมีผู้ซื้อ 119 ราย จาก 14 เมือง มาพบปะกับผู้ประกอบการไมซ์ไทย 31 ราย พร้อมทั้งสายการบินแห่งชาติจากประเทศไทยอีก 3 ราย ได้แก่ การบินไทย ไทยสไมล์ และบางกอกแอร์เวย์ ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงที่จะนำงานเข้ามาจัดในประเทศไทย 50 งาน ประมาณการว่าจะมีนักเดินทางไมซ์กลุ่ม MI เข้าร่วมงาน 9,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศ 270 ล้านบาท
จากนั้นทีเส็บพร้อมทั้งผู้ประกอบการไมซ์ไทย 26 ราย ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลทีเส็บ ได้เข้าร่วมงานเทรดโชว์ IBTM World 2019 ระหว่างวันที่ 17-22 พฤศจิกายน ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ซึ่งเป็นงานเทรดโชว์ด้านการประชุมและอีเวนท์ชั้นนำระดับนานาชาติในทวีปยุโรป และมีโอกาสได้พบปะกับผู้บริหารระดับสูงด้านไมซ์ระดับโลกจากสมาคมการประชุมนานาชาติ (ICCA) สมาคมส่งเสริมธุรกิจการจัดอินเซนทีฟระดับโลกจากฝั่งยุโรปและอเมริกา (SITE) และ บริษัท Reed Exhibitions ร่วมหารือยุทธศาสตร์เพื่อผลักดันและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยให้เป็นหนึ่งในเอเชีย มีการพบปะพูดคุยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย และเปิดมุมมองการทำตลาดใหม่อย่างสร้างสรรค์กับกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย ซึ่งผลจากการเข้าร่วมงานเทรดโชว์ IBTM World 2019 ครั้งนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีจำนวนงานไมซ์ที่คาดว่าจะเข้ามาจัดในประเทศไทย (leads) จากเวทีการพบปะเจรจาธุรกิจภายในไทยแลนด์ พาวิลเลียนจำนวน 23 งาน ประมาณการผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศทั้งสิ้น 25,165 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศ 1,856 ล้านบาท
และล่าสุดเมื่อวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2562 ทีเส็บได้จัดกิจกรรม Executive Networking Event in China 2019 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณประชาชนจีน เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มองค์กรในจีน 21 บริษัทจาก 9 เมือง โดยเน้นคลาสสอนทำอาหารไทยเป็นจุดขาย มีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่พร้อมทั้งรักษาตลาดเดิมไว้ โดยได้รับการยืนยันว่าจะมีงานเชิงธุรกิจเข้ามาจัดในไทย 3 งาน นำกลุ่มนักเดินทางไมซ์เข้าสู่ประเทศ 11,200 คน ประมาณการรายได้ 826 ล้านบาท
กลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเป็นตลาดที่มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไทยมีนักเดินทางไมซ์กลุ่มประชุมจากต่างประเทศ จำนวน 331,084 คน สร้างรายได้ 29,556 ล้านบาท และนักเดินทางไมซ์กลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัลจากต่างประเทศ จำนวน 370,882 คน สร้างรายได้ 20,169 ล้านบาท
"ทีเส็บมั่นใจว่าการเดินสายจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดต่างประเทศ กลุ่มประชุมและกลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัลจากอินเดีย ยุโรปและจีนในครั้งนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่จะนำงานไมซ์เข้ามาจัดในไทยรวม 76 งาน มีนักเดินทางไมซ์รวมทั้งสิ้น 45,365 คน ประมาณการว่าจะทำรายได้ 2,952 ล้านบาท จะช่วยผลักดันให้ตลาดกลุ่มประชุมและกลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัล มีการเติบโตได้ตามเป้าหมายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 คือ มีจำนวนรวม 762,000 คน ทำรายได้ 57,000 ล้านบาท และส่งผลต่อตลาดไมซ์โดยรวมให้บรรลุตามเป้าหมายช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตไปด้วยกัน" นายจิรุตถ์ กล่าว