กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--เอ็มเอสแอลกรุ๊ป
นับตั้งแต่การริเริ่มโครงการในปี พ.ศ. 2559 มาจนถึงวันนี้ ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์มีความภูมิใจที่จะประกาศความสำเร็จของโครงการ "เยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" (Youth Water Guardian) ซึ่งสะท้อนออกมาจากผลลัพธ์ที่เกิดจากความมุ่งมั่นตลอดระยะเวลา 4 ปี ในการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนตระหนักและเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์แหล่งน้ำในชุมชนของตัวเอง ส่งผลให้แหล่งน้ำในชุมชนมีคุณภาพที่ดีขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระยะยาวเพื่อพัฒนาชุมชนโดยรอบคลองขนมจีนในจังหวัดพระนครศรีอยุทธยา
นายลูก้า คิโอด้า ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรแหล่งน้ำที่มีความยั่งยืนเพื่อวันนี้และอนาคตมาโดยตลอด เนื่องจากน้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำกัด อีกทั้งปริมาณน้ำในโลกของเราที่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้นั้นมีไม่ถึง 1% ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ในฐานะที่เป็นแบรนด์น้ำดื่มอันดับ 1 ของโลก มีพันธกิจใส่ใจมุ่งมั่นดูแลแหล่งน้ำและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืนเพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีน้ำสะอาดไว้ใช้ในอนาคต โดยได้ดำเนินการจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากบริเวณที่ตั้งโรงงานผลิต จากความมุ่งมั่นดังกล่าวเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ จึงได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง WWF ประเทศไทย ริเริ่ม "โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" เพื่อปลูกจิตสำนึกนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเรื่องของการอนุรักษ์ และจัดการทรัพยากรน้ำบริเวณโรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืน 4 ปีผ่านไป เราได้เรียนรู้ว่าเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการต่างมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชม และยังคงมุ่งมั่น พร้อมที่จะเป็นกระบอกเสียงในการส่งต่อความรู้ที่ได้จากโครงการให้กับเพื่อน ครอบครัว และคนรอบข้างอย่างเต็มใจ เพื่อสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นต่อการใช้ชีวิตร่วมกันในชุมชม"
โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ เริ่มต้นจากความมุ่งหวังในการสร้างแรงบันดาลใจเรื่องของการอนุรักษ์น้ำในโรงเรียนชุมชนเพราะเราเล็งเห็นว่าโรงเรียนชุมชนเป็นศูนย์กลางสำคัญในการส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำให้กับคนในชุมชนในวันนี้และอนาคต พร้อมถ่ายทอดความรู้แก่ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเยี่ยมชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในเรื่องของการอนุรักษ์แหล่งน้ำตั้งแต่แหล่งกำเนิดของน้ำไปจนถึงการดูแลคุณภาพน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Nestle Purpose of "Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) เพื่อโลกของเรา
ในปี พ.ศ. 2561 ศูนย์การเรียนรู้ "โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" ได้เปิดให้บริการแก่สาธารณะในระดับชุมชน โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพน้ำในคลองขนมจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่โรงงานผลิตน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ดำเนินกิจการอยู่ ในวันนี้ศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าวมีนิทรรศการหมุนเวียนทั้งสิ้น 2 ชุด และสถิติผู้เข้าชมในระหว่างเดือนสิงหาคม 2561 ถึงเดือน กรกฏาคม 2562 มีการลงทะเบียนเต็มทุกรอบ คิดเป็นจำนวน 435 คน จากโรงเรียน 11 แห่ง และหน่วยงานเอกชน 2 แห่ง
"นอกจากการเสริมสร้างเยาวชนพิทักษ์สายน้ำที่ได้รับการอบรมจนสามารถเป็นตัวแทนให้กับชุมชนแล้ว ผลการศึกษาล่าสุดยังพบว่า ความร่วมมือของทุกฝ่ายในการดำเนินโครงการอย่างจริงจังส่งผลให้คุณภาพน้ำในคลองขนมจีนมีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด" นายลูก้า กล่าว
นางสาวพิมพ์ภาวดี พหลโยธิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประจำประเทศไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ทางทีมงานน้ำจืดของ WWFได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ในการรวบรวม สรุปผลและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 ถึง เดือนกรกฎาคม 2562 เพื่อศึกษาว่าคุณภาพน้ำมีการพัฒนาขึ้นอย่างไรบ้าง ซึ่งจากผลการศึกษาดังกล่าวชี้ว่า ค่า pH ที่แสดงระดับความเป็นกรด-ด่าง ของน้ำในบริเวณโครงการอยู่ในมาตรฐานที่น่าพอใจ และความเป็นกรดยังลดลงกว่าช่วงเริ่มต้นโครงการเมื่อ 3 ปีที่แล้วอีกด้วย นอกจากนี้ ค่า BOD (Biochemical Oxygen Demand) ซึ่งวัดปริมาณของออกซิเจนที่ถูกใช้โดยจุลินทรีย์ในกระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์ที่อยู่ในน้ำ ลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นถึงปริมาณสารอินทรีย์ที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำที่น้อยลง ในขณะที่ค่า DO (Dissolved Oxygen) หรือปริมาณออกซิเจนซึ่งละลายอยู่ในน้ำ ยังเพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่าจากปี 2560"
นอกจากปัจจัยบ่งชี้เชิงเคมีที่เผยให้เห็นถึงการพัฒนาที่น่าชื่นชมแล้ว ปัจจัยบ่งชี้ทางชีวภาพยังสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาเชิงบวกอีกด้วย
"ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตและสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในบริเวณโครงการมีจำนวนเพิ่มขึ้น จากตัวอย่างของพื้นที่ที่มีการพัฒนาจากโครงการ จำนวนหอยที่ยังมีชีวิตเพิ่มจำนวนมากขึ้นถึง 8 เท่า ในขณะที่จำนวนหอยขมเพิ่มขึ้นเท่าตัว และกุ้งฝอยในคลองเพิ่มขึ้น 100 ตัว เมื่อเทียบกับจำนวนที่ได้จากการเก็บตัวอย่างวิจัยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว"
"ในนามของผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ เรามีความยินดีที่ได้เห็นผลสำเร็จของโครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ และภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเพื่อนำมาซึ่งประโยชน์และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อผู้คนและแหล่งน้ำในชุมชน สุดท้ายนี้ เรายังคงเดินหน้าต่อไปในการเป็นส่วนหนึ่งของการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับสังคม พร้อมพัฒนาศักยภาพให้กับเยาวชนไทยต่อไปในอนาคต" นายลูก้า กล่าว