กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--เครือเจริญโภคภัณฑ์
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้ผนึกกำลังร่วมกันจัดกิจกรรมใหญ่ "Rock Thailand" Batch#2 นำคณะนักธุรกิจสตาร์ทอัพระดับแถวหน้าจากประเทศญี่ปุ่นมานำเสนอนวัตกรรม 4.0 แก่บริษัทชั้นนำของไทย หลังจากประสบความสำเร็จจากการจัดงานครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2562 โดยการจัดงาน Rock Thailand Bath#2 ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากฯพณฯนายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของไทยร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ณ ออดิทอเรียม ชั้น 6 ทรู ดิจิทัล พาร์ค
นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด ในฐานะผู้แทน เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า 'Rock THAILAND' เป็นหนึ่งในกิจกรรมความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและไทย ภายใต้โครงการ Open Innovation Columbus(OIC) จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในการสร้างสรรค์นวัตกรรม 4.0 รองรับนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยเฉพาะโครงการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งใหม่ (New Innovation Hub) ในภูมิภาคอาเซียน สำหรับการจัดงาน Rock Thailand Batch #2 สถานทูตญี่ปุ่นฯได้นำนักธุรกิจสตาร์ทอัพจากญี่ปุ่นรวม 10 บริษัทมานำเสนอธุรกิจของตนเอง (Pitching) ต่อบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่และพันธมิตรทางธุรกิจรวมไปถึงภาครัฐ
สำหรับนักธุรกิจสตาร์ทอัพชั้นนำจากญี่ปุ่น 10 แห่งที่มาร่วมงาน Rock Thailand Batch#2 ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์นวัตกรรม 4.0 ได้แก่ Time Bridge Management หรือ TBM เป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น ซึ่งประสบความสำเร็จจากการนำหินปูนมาแปรรูปเป็นวัตถุดิบที่เรียกว่า LIMEX สามารถใช้ในการผลิตเป็นกระดาษและพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน ถือเป็นแนวทางการพัฒนาแบบ Circular Economy ให้เกิดการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างยั่งยืน สามารถนำ LIMEX กลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ยังมีสตาร์ทอัพด้านหุ่นยนต์ (Robotic) ได้แก่ Connected Robotics ที่นำหุ่นยนต์มาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในวงการร้านอาหาร และ LINKWIZ ที่พัฒนาหุ่นยนต์ให้สามารถคิดวิเคราะห์ได้เอง เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ทั้งยังมีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในธุรกิจโดรน (Drone) ได้แก่ A.L.I.Technologies เทคโนโลยีการขับขี่ทางอากาศโดยไม่ใช้คนขับ และ Terra Drone ที่คิดค้นวิธีการสำรวจและคำนวณพื้นที่ในขุดเจาะน้ำมันและเหมืองแร่ รวมถึงสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) อย่าง IntegriCulture เจ้าของนวัตกรรม Cell-Based meat (Cultured meat) หรือการทำเนื้อสังเคราะห์จากเซลล์ ซึ่งทำได้จาก เนื้อวัว เนื้อปลา ฯลฯ และขยายต่อไปจนถึงอุตสาหกรรมอาหารเสริมเพื่อการชะลอวัยได้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมี PARONYM, INC. ผู้พัฒนา TIG ซึ่งเป็นเทคโนโลยีวิดีโอเชิงโต้ตอบ OPTIMIND บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีจากมหาวิทยาลัยนาโกย่า Metro Engines Metro สตาร์ทอัพผู้พัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้โรงแรมสามารถกำหนดราคาการใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้เชิงลึกบนพื้นฐานของข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ และ SAgri สตาร์ทอัพผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่น " SAGRI" ที่จัดการเกษตรกรรมเป็นธุรกิจหลัก SAgri เป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนการเกษตรสำหรับเกษตรกร โดยการแสดงภาพฟาร์มจากข้อมูลภาคพื้นดินและดาวเทียมโดยใช้วิธีการเกษตรกรรมเพื่อการเกษตรที่ได้รับการปฏิบัติเชิงประจักษ์
ในส่วนของบริษัทชั้นนำของไทยที่มาร่วมงาน Rock Thailand Batch#2 มีอาทิ บมจ.ช.การช่าง กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย บมจ.ปตท. บมจ.ปตท.สผ. บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย) กลุ่มมิตรผล โรงพยาบาลสมิติเวช ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด บมจ. ดับบลิวเอชเอคอร์ปอเรชั่น ธนาคารกสิกรไทย บีคอนเวนเจอร์ บริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี จำกัด บริษัท เบียร์ทริปบริวเวอรี่ จำกัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) รวมทั้งผู้บริหารกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี
ทั้งนี้ในการจัด Rock Thailand Batch#1 ที่ผ่านมา มีตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจ คือ UMITRON สตาร์ทอัพผู้พัฒนาและระบบเทคโนโลยีดิจิทัลชั้นสูงในการเพาะเลี้ยงปลาทะเลที่ยั่งยืน และเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้ผลผลิตคุณภาพสูง ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันพัฒนานวัตกรรมการทำฟาร์มกุ้งยั่งยืนกับบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ)