กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
ก.แรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการส่งเสริมฯ ภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริม ย้ำ! ต้องรวดเร็ว โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าเพื่อให้ การส่งเสริมภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาฝีมือแรงงานลูกจ้างของตนเอง และเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานเป็นไปตามเจตนารมย์ของกฎหมาย กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงปรับบทบาทมุ่งเน้นการกำกับดูแล และส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้ร้อยละร้อยของค่าใช้จ่ายที่ได้ใช้ไปในการจัดให้มีการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน และมีระบบบริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e – Service) อำนวยความสะดวก ให้สถานประกอบกิจการเกิดความพึงพอใจในการยื่นขอรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นายธวัช กล่าวต่อไปว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีเป้าหมายดำเนินการส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการพัฒนาทักษะให้แก่ลูกจ้างของตนเองกว่า 3.7 ล้าน ซึ่งในปี 2562 มีสถานประกอบกิจการที่อยู่ในข่ายบังคับต้องส่งเงินสมทบกองทุนและต้องยื่นประเมินเงินสมทบเข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานภายใน 31 มี.ค.63 จำนวน 14,051 แห่ง ซึ่งต้องเร่งรัดติดตามอีกจำนวน 1,483 แห่ง เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ กพร. ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค จำนวน 200 คน ให้ได้รับความรู้ มีความเข้าใจ และสามารถให้คำปรึกษาแก่สถานประกอบกิจการได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน โปร่งใส รวดเร็ว และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ รับฟังปัญหาเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขการให้บริการ โดยมีวิทยากรจากกรมสรรพากรมาร่วมให้ความรู้ในเรื่องของแนวทางตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมเพื่อนำไปยกเว้นภาษีเงินได้อีกด้วย
ในส่วนของผู้ประกอบกิจการที่จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้ว ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆอีกด้วย ได้แก่ การขอรับเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน สามารถกู้ยืมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้างของตน การได้รับความสะดวกรวดเร็ว จากระบบบริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e – Service) ในการยื่นขอรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมกับทาง กพร. หากผู้ประกอบกิจการใดสนใจการขอยื่นรับรองหลักสูตรฯ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 หรือ กองส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน 0 2246 1937 อธิบดี กพร.กล่าว