กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--อพวช.
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม (อว.) ชวนมาเรียนรู้และเล่นไปกับแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ล่าสุด "พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า" (RAMA 9 MUSEUM) ในกำกับดูแลขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) พิพิธภัณฑ์ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่ที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของอาเซียน พิพิธภัณฑ์ ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมกันอย่างสมดุลและยั่งยืน และเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักวิธีการทรงงาน และการแก้ปัญหาตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ของพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9
ภายในพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า มีเนื้อที่กว่า 47,400 ตารางเมตร ตั้งอยู่ภายในองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เทคโนธานี ถนนรังสิต – นครนายก ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ผู้เชี่ยวชาญที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเป็นที่ปรึกษาในการนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ของพิพิธภัณฑ์ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน อาทิ นอนแหงนดูเรื่องราว การกำเนิดจักรวาลในโดมฉายภาพยนตร์ 360 องศา เดินย่ำผืนดินหยุ่นยวบในป่าไทก้า จูงอูฐและจิบชานั่งพูดคุยกับกลุ่มชนพื้นถิ่นในกระโจมกลางทะเลทราย สร้างกระท่อมอิกลูและทักทายสิ่งมีชีวิตขั้วโลก ทดลองโมเดลการจัดการน้ำ สไลด์ตัวลงจากต้นโอ๊กยักษ์เส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 5 เมตร หุ่นจำลองไดโนเสาร์ไทยขนาดเท่าตัวจริงที่ขยับตัวเคลื่อนไหวได้ หุ่นมนุษย์โบราณที่สมบูรณ์และเหมือนจริงที่สุด ร่วมสัมผัส 9 จุดห้ามพลาด และบันทึกภาพ 9 จุดสำคัญด้วยตัวคุณเอง
9 จุดห้ามพลาด
1) เรียนรู้พระบรมราโชวาท "คำสอนของพ่อ" พอเพียง สมดุล ยั่งยืน เมื่อเข้ามาในพิพิธภัณฑ์จะพบแผ่นจารึกพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 "คำสอนของพ่อ" พระราชทานให้ประชาชน "พอเพียง สมดุล ยั่งยืน"
2) ตามรอยมนุษย์โบราณชนิดพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีความสมบูรณ์และสมจริงที่สุด ตื่นตาไปกับการเดินทางอันยาวนานของมนุษยชาติ HUMAN ODYSSEY ในห้วงเวลาแห่งวิวัฒนาการอันยาวนานของสิ่งมีชีวิต มนุษย์กำเนิดขึ้นเมื่อใด มีชีวิตและความเป็นอยู่อย่างไร และเผ่าพันธุ์ของเราวิวัฒนาการอย่างไร เป็นคำถามสำคัญที่สามารถค้นหาคำตอบได้จากส่วนจัดแสดงนี้ หุ่นจำลองมนุษย์โบราณที่จัดแสดงในโซนนี้ นักวิชาการระดับโลกต่างลงความเห็นว่ามีความสมจริงและถูกต้องตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
3) ผ่านอุโมงค์ลม ความเร็ว 60 กม./ชม. ในดินแดนแอนตาร์กติกา ANTARCTIGA ทดลองเดินฝ่าลมหนาวของ ANTARTICA ดินแดนที่ได้ชื่อว่าหนาวเย็นที่สุดในโลก ลมแรงที่สุดในโลก และเดินตามแสงเหนือไปยังขั้วโลกใต้
4) เหยียบพื้นหยุ่นของดินในป่าสนของชีวนิเวศไทก้า TAIGA ความโดดเด่นของชีวนิเวศเขตนี้ คือแนวป่าสนสูงขนาดใหญ่ เป็นเขตที่มีความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศแบบสุดโต่ง คือมีฤดูหนาวยาวนานและมีฤดูร้อนช่วงสั้นๆ ภายในป่าค่อนข้างมืดและชื้น เมื่อใบไม้ร่วงหล่นทับถมกับมอสบนพื้นดิน ทำให้พื้นดินมีความยวบหยุ่นเป็นสัมผัสใหม่ เมื่อมาแล้วต้องทดลองเดินบนพื้นดินในป่าสนจำลอง
5) สัมผัสประสบการณ์ภาพยนตร์ 4 มิติ ชีวิตบนผืนทราย DESERT มีสภาพภูมิอากาศแบบสุดขั้วในอีกลักษณะหนึ่งคือเต็มไปด้วยความร้อนและความแห้งแล้ง สิ่งมีชีวิตจึงต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เช่น สัตว์ตัวน้อยอาศัยในหลุมหรือรูเพื่อหลบแดดที่แผดร้อน ต้นกระบองเพชรเปลี่ยนใบให้เป็นหนามเพื่อ ลดการคายน้ำ เป็นต้น
6) เดินเล่นบนต้นโอ๊กยักษ์ และสัมผัสบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี เขตอบอุ่น TEMPERATE ความโดดเด่นของชีวนิเวศเขตนี้ คือ การมี 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว การปรับตัวของสิ่งมีชีวิตจึงเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เนื่องจากอยู่ในเขตที่ปริมาณความชื้นเพียงพอ ต้นไม้ในเขตนี้จึงมีลำต้น สูงใหญ่ ต้นซีคัวยายักษ์และต้นโอ๊กยักษ์ ต้นไม้ทั้งสองต้นนี้จำลองไว้ให้ปีนป่ายและเดินชมในโซนนี้
7) ชมภาพการเคลื่อนไหวลีเมอร์น้อย และร่วมผจญภัยกับผองเพื่อนสัตว์ป่านานาชนิด ในป่าเขตร้อน TROPICAL เป็นชีวนิเวศที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น แสงแดดและน้ำฝนมีบทบาทสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง นำเสนอผ่าน 5 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ แอฟริกา มาดากัสกา นีโอทรอปิก ปาปัวนิวกินี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเคลื่อนไหวของลีเมอร์น้อยบ่งบอกถึงการปรับตัวให้สามารถอยู่อาศัยบนต้นไม้ได้หลายตำแหน่ง
8) ชมพรรณไม้จากผืนป่าเมืองไทย และสัมผัสบรรยากาศระบบนิเวศแบบต่างๆ ในเขตภูมินิเวศ ประเทศไทย THAILAND ECOREGION ส่วนจัดแสดงนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับแนวคิดและความหมายของคำว่าเขตภูมินิเวศ (Ecoregions) ซึ่งเป็นการแบ่งพื้นที่ตามความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ตามชีวภูมิศาสตร์ (Biogeography) อีกส่วนหนึ่งเป็นการจำลองป่าที่มีความแตกต่างกัน 4 แห่ง ได้แก่ ป่าพรุ ป่าดิบชื้น ป่าเต็งรัง และป่าดิบเขา สำหรับพื้นที่ด้านนอกอาคาร จำลองพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งเป็นระบบนิเวศดั้งเดิมของทุ่งหลวงรังสิต
9) ชมภาพยนตร์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในบรรยากาศห้องทรงงาน ส่วนนี้นำเสนอหลักคิด การทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ทรงใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหา โดยเสด็จพระราชดำเนินไปทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทำให้ทรงรับทราบถึงปัญหา และเข้าใจสภาพปัญหาของพสกนิกรที่แตกต่างไปตามสภาพภูมิศาสตร์ จนนำมาสู่การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทรงมองความสัมพันธ์ของทั้งระบบแบบองค์รวม จึงนำมาสู่โครงการพระราชดำริหลายโครงการ พระเกียรติคุณและพระปรีชาสามารถของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ทั้งในประเทศและสากล
9 จุดต้องถ่ายภาพ #มนุษย์ธรรมชาติศาสตร์พระราชา
1) สถาปัตยกรรมความสมดุลแห่งชีวิต ถ่ายภาพคู่กับประติมากรรมนูนต่ำบริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์นำเสนอแนวคิด สิ่งแวดล้อมมีผลต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต และกิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
2) Wall of Life ในโซน LIFE ถ่ายภาพคู่กับผนังภาพและแบบจำลองของสิ่งมีชีวิตกว่าร้อยที่ถ่ายทอดเรื่องราว "ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต" และมีจอทัชสกรีนให้เล่นและเรียนรู้
3) สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส และ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเนในโซน EVOLUTION AND MASS EXTINCTION ถ่ายภาพกับหุ่นจำลองไดโนเสาร์ขนาดเท่าตัวจริง "สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส" และ "ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน" ไดโนเสาร์ของไทยที่ยืนตระหง่านและส่งเสียงคำรามต้อนรับผู้มาเยือน
4) วัฏจักรปลาแซลมอน ในโซน TAIGA ถ่ายภาพคู่กับ ประติมากรรม วงจรชีวิตของปลาแซลมอน ที่ว่ายวนทวนกระแสน้ำ เพื่อวางไข่
5) สัมผัสชีวิตท่ามกลางทะเลทราย ในโซน DESERT ถ่ายภาพคู่กับเจ้าอูฐแห่งท้องทะเลทราย พร้อมกับแวะจิบชาพูดคุยกับชนเผ่าท้องถิ่นในกระโจมพัก ดื่มด่ำกับบรรยากาศเสมือนจริงในทะเลทราย
6) ต้นโอ๊กยักษ์ ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 5 เมตร ในเขตอบอุ่น TEMPERATE ที่มีถึง 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
7) พาเหรดหุ่นจำลองสัตว์ป่าเขตร้อน ในโซน TROPICAL บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ต่างยืนเรียงรายรอต้อนรับอย่างเป็นมิตร พร้อมบอกเล่าเรื่องราวในป่าเขตร้อนแห่งนี้
8) จุดชมวิวมุมสูงจากน้ำตกจำลอง ในเขตภูมินิเวศประเทศไทย THAILAND ECOREGION ยืนบนกระจกแก้วชมป่าของไทยในมุมสูง
9) รถทรงงานในความทรงจำ รถจำลองคันนี้แสดงให้เห็นถึงการเสด็จพระราชดำเนินไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้พระองค์ทรงทราบและเข้าใจถึงสภาพปัญหาของพสกนิกรที่แตกต่างกัน จนนำมาสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ได้มอบของขวัญปีใหม่ให้กับชาวไทยทุกคน เปิดพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า พร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา และพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เข้าชมฟรีข้ามปี ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2562 – 5 มกราคม 2563 เปิดให้บริการทุกวันอังคาร – ศุกร์ เวลา 09.30 - 16.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.30 -17.00 น. (ปิดบริการทุกวันจันทร์) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2577 9999 ต่อ 2122 , 2123 หรือ www.nsm.or.th และ Facebook : NSMthailand