กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--บมจ.สกาย ไอซีที
สกาย ไอซีที ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Smart Security ผนึก SenseTime ยักษ์ใหญ่ด้าน AI ติดอันดับ Top 3 ของโลก และแสนสิริ ผู้นำด้าน Digital Real Estate Developer ตัวจริงรายแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ยืนหนึ่งในการสร้างนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและการพัฒนาอสังหาฯ ไทย ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ครอบคลุม 3 ด้าน การรักษาความปลอดภัย การก่อสร้าง และการให้บริการแห่งแรกของวงการอสังหาฯ ไทย ภายใต้แนวคิด "Think-Tool-Do" เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบผ่านเทคโนโลยี และร่วมยกระดับความก้าวล้ำในการขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ ไทยแบบองค์รวม
นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ผู้นำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัย ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท SenseTime จากประเทศจีนซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของโลก และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำของวงการอสังหาฯไทย ร่วมพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการรักษาความปลอดภัย (Smart Security) ด้านการก่อสร้าง (Smart Construction) และด้านการให้บริการ (Smart Service) เพื่อยกระดับศักยภาพในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยและการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์แบบผ่านเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด "Think-Tool-Do"
"ด้วยความแข็งแกร่งในด้าน Smart Security ของสกาย ไอซีที ผสานกับความเชี่ยวชาญด้าน AI ของ SenseTime และความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ เราจะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการพลิกมิติใหม่ให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะสร้างความสมบูรณ์แบบในการพัฒนาโครงการ และบริการให้มีคุณภาพผ่านเทคโนโลยี" นายสิทธิเดช กล่าว
สำหรับการร่วมพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยนั้น สกาย ไอซีที ได้เตรียมนำเทคโนโลยี AI ที่สามารถนำมาใช้กับธุรกิจอสังหาฯ อาทิ
- Facial Recognition ระบบจดจำใบหน้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถระบุและตรวจสอบบุคคลจากภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านการประมวลผลด้วย AI โดยสามารถจำแนกบุคคลที่อาจเป็นอันตรายที่เข้ามาภายในโครงการเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านและทรัพย์สิน รวมไปถึงสามารถจำแนกลูกค้า VIP เพื่อยกระดับการบริการ รวมถึงสามารถจำแนกบุคคลสำหรับ Sales Gallery ของโครงการเพื่อแจ้งเตือนลูกค้าที่มีความสนใจ
- Visitor Management ระบบมาบริหารจัดการดูแลผู้มาติดต่ออาคาร โดยผ่านการเชื่อมต่อเทคโนโลยีความปลอดภัยคุณภาพสูง เช่น ระบบจดจำใบหน้า (facial recognition), การตรวจสอบและการแจ้งเตือนต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบริหารจัดการของนิติบุคคล,
- License Plate Recognition ระบบบริหารจัดการการเข้าออกของรถยนต์ภายในโครงการ ด้วยการนำเทคโนโลยีการจดจำทะเบียนรถยนต์ (LPR) มาใช้ โดยระบบนี้จะทำการตรวจสอบและจดจำทะเบียนรถยนต์ของผู้อยู่อาศัยและผู้มาติดต่อ เพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยให้แก่โครงการ
- CCTV ระบบกล้องรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โครงการเสริมด้วยระบบ AI จะทำให้การรักษาความปลอดภัยภายในโครงการมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
- Dr. Xu Li ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท SenseTime กล่าวว่า เทคโนโลยี AI มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ 2 พาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่ SKY ICT ผู้นำด้าน "Smart Security" และ SANSIRI ผู้นำด้าน "Digital Real Estate Developer" ในการร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ และพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทจะไม่เพียงแต่จะนำเสนอโซลูชั่น AI Cloud ที่ล้ำสมัยสำหรับลูกค้าของบริษัทในภูมิภาคนี้ แต่จะใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพสำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในประเทศจีนหลายแห่ง เช่น Vanke Group และ Shimao Group เป็นต้น มาร่วมกันพัฒนาและต่อยอดให้เกิดโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
ดร.ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำด้าน "Digital Real Estate Developer" ที่พร้อมก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2020 แสนสิริเดินหน้าค้นหาและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบของลูกบ้าน โดยจับมือกับสกาย ไอซีที และ SenseTime เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ขึ้นเกิดจากวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน และความต้องการนำเทคโนโลยีมาสร้างความแตกต่าง อันนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ เพิ่มความปลอดภัยและเสริมสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัย ตลอดจนยกระดับความก้าวล้ำในการขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ ไทยแบบองค์รวม โดยที่ผ่านมา แสนสิริ ร่วมกับพลัส พร็อพเพอร์ตี้พัฒนา LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัยและควบคุมอาคารอย่างเต็มรูปแบบแห่งแรกของวงการอสังหาฯ ไทย การันตีความเหนือชั้นด้วยรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านการออกแบบบริการ (Service Design) จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ตอกย้ำความเป็นผู้นำของแสนสิริด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมการอยู่อาศัยและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย