กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
จากสภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทุกๆ ปี กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงาน จึงเป็นแนวโน้มที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ ซึ่งประเทศไทยเองก็เช่นกัน ยิ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีเพิ่มขึ้นเท่าไร นวัตกรรมการก่อสร้างอาคารและสถาปัตยกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเจริญก็จะประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในปัจจุบันจำนวนอาคารก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นตึกสูง ตึกแถว และบ้านเรือน มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบจากอาคารต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมยิ่งทวีความรุนแรง
สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดงาน "สถาปนิกอีสาน 62" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและมุ่งหวั่งสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืน นอกจากนี้ได้จัดนิทรรศการแสดงตัวอย่างผลงานเพื่อเป็นต้นแบบให้กับนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาตร์จังหวัดขอนแก่น เกี่ยวกับแนวทางการออกแบบเพื่อสร้างงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในโอกาสนี้ นายยุทธศักดิ์ นฤชัยปราโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสถาปัตยกรรม บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด หรือ ยิปซัมตราช้าง ได้ร่วมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ "นวัตกรรมอาคารและที่อยู่อาศัยที่มีความยั่งยืน" เพื่อให้นักศึกษาและผู้มาร่วมงานนำไปปรับใช้ในการออกแบบอาคารได้ในอนาคต
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า " ในขณะที่มนุษย์พยายามพัฒนาด้านต่างๆเพื่อสร้างความสะดวกสบาย มนุษย์ก็ได้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติควบคู่ไปด้วย โลกเริ่มเสียความสมดุลส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยทุกภาคส่วนหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้น สาเหตุหลักที่สำคัญซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซเรือนกระจก คือการใช้พลังงาน นำมาซึ่งภาวะโลกร้อนและทำให้โลกเสียสมดุล
ถึงแม้ว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างจะเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ช่วยสร้างงานและก่อให้เกิดรายได้ของประชากรโลกราว 7-10% แต่กลับใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ใช้พลังงานของโลก มากถึง 30-40% และยังสร้างขยะ ประกอบกับเป็นต้นเหตุก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย ถ้าพูดถึงการใช้พลังงานในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ขั้นตอนการผลิตวัสดุก่อสร้าง มีการใช้พลังงานของโลกคิดเป็น 10% ของการใช้พลังงงานทั้งหมดของอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ในขณะที่พลังงานที่ถูกใช้ไปส่วนมากจะมาจากการใช้งานอาคาร ดังนั้น ยิปซัมตราช้าง ในฐานะผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างเอง ตระหนักและเล็งเห็นถึงผลกระทบดังกล่าวตลอดมา เราจึงผลิตวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานในการผลิต รวมถึงลดก๊าซเรือนกระจก โดยในกระบวนการผลิต เรายึดมั่นและผลิตสินค้าตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมมานานมากกว่า 16 ปี ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ช่วยลดการใช้พลังงานและลดก๊าซเรือนกระจก อาทิ แผ่นยิปซัมป้องกันความร้อน ตราช้างพลัส (ฮีทบล็อค) ที่ช่วยลดค่า RTTV ได้ หรือ ระบบผนังยิปซัมบางประเภทที่มีค่า U (ค่า) ต่ำกว่าระบบผนังที่ใช้อยู่ในปัจจุบันถึง 10 เท่า
นอกจากนี้เรายังเห็นถึงความสำคัญในส่งเสริมการให้ความรู้ด้านการออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน โดยการแนะนำหลักการเบื้องต้นในการเลือกวัสดุที่จะมีผลต่อระดับการใช้พลังงาน และระดับที่จะทำให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานฯ ที่เริ่มบังคับใช้ จึงเป็นที่มาของการเข้าร่วมกิจกรรมกับทางสถาปนิกอีสานในครั้งนี้
นอกเหนือจาก ผลิตภัณฑ์ของยิปซัมตราช้างที่ช่วยลดการใช้พลังงานและลดก๊าซเรือนกระจกแล้ว เรายังมีระบบฝ้าเพดานและผนัง ที่มีคุณสมบัติอื่นๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อาคาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสวยงาม เรื่องเสียง เรื่องปลอดสารพิษ เรื่องการกันไฟ และเกี่ยวกับแผ่นดินไหว เป็นต้น "
"ยิปซัมตราช้าง" หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการได้เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดความรู้ครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในงานก่อสร้าง งานออกแบบ งานปรับปรุงและต่อเติมบ้านและอาคารได้ ทั้งยังก่อให้เกิดความตระหนักรู้ถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ประหยัดการใช้พลังงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดทั้งต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
สามารถสอบถามข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนยิปซัมตราช้าง โทร. 02-555-0000 หรือ www.siamgypsum.com หรือ ช่องทางเฟซบุ๊ก "@GypsumTraChangTH"