กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--เวิรฟ พับลิค รีเลชั่นส์ คอนซัลแตนท์ซี่
ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่น จัดนิทรรศการ The Art and Science of LifeWear: New Form Follows Function ณ Somerset House ถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัว นับเป็นครั้งแรกที่นิทรรศการนี้จัดขึ้นในสหราชอาณาจักร อันเป็นโอกาสในการเปิดประสบการณ์ถ่ายทอดความหมายของคำว่า LifeWear ซึ่งเป็นแนวคิดของยูนิโคล่ที่มุ่งมั่นบ่งบอกความหมาย แห่งเสื้อผ้าที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน ผ่านความเรียบง่าย คุณภาพสูง ความสวยงามในรูปแบบที่ใช้ได้จริงเพื่อให้ผู้ที่สวมใส่ทุกคนใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้น
"เรารู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติที่ในปีนี้เราจะได้จัดนิทรรศการ LifeWear ประจำปีของเราขึ้นในกรุงลอนดอน ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดต่างประเทศแห่งแรกของเรา โดยเราได้เปิดตัวยูนิโคล่นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกที่นี่เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว" ทาดาชิ ยานาอิ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการของยูนิโคล่ และกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง กล่าว "การจัดวางต่างๆ ในทุกโซนซึ่งแบ่งไปตามอรรถบท จะแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรม คุณภาพ
คุณค่า และความยั่งยืนที่เรามุ่งสร้างสรรค์ขึ้นอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความยั่งยืนซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายในทุกวันนี้ ผมขอเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปได้มาสัมผัสกับแง่มุมใหม่ๆ ของยูนิโคล่ผ่านการเข้าชมนิทรรศการในครั้งนี้"
ศิลป์และศาสตร์, รูปแบบและประโยชน์ใช้สอย
เช่นเดียวกับงาน LifeWear Day ครั้งก่อนๆ ในนิวยอร์กและปารีส งานที่ลอนดอนในปีนี้จะพาผู้เข้าชมดำดิ่งลงสู่เรื่องราวเกี่ยวกับดีไซน์ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุด ตลอดจนเทคโนโลยีกรรมสิทธิ์ของยูนิโคล่ ผ่านการจัดแสดงที่เป็นทั้งการเปิดประสบการณ์และเป็นเชิงทดลอง
ผู้ที่ชื่นชอบศิลปะจะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่เหมาะกับการเก็บถ่ายทอดลงอินสตาแกรมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงถุงเท้า 50 สี หรือห้องกระจกเงาที่ให้แสงด้วยโคมไฟถุงเท้ายูนิโคล่ครบถ้วนทุกสีสัน เป็นต้น ไฮไลท์อื่นๆ ยังรวมถึงงานศิลปะจัดวางซึ่งเป็นกล้องคาไลโดสโคปขนาดใหญ่ที่ให้ภาพสลับลายจากไอเท่มต่างๆ ของ LifeWear ที่แขวนอยู่บนเพดาน และทางเดินแห่งความรู้สึกผ่านอุโมงค์ที่สร้างขึ้นจากผ้าแอริซึ่มของยูนิโคล่ซึ่งย้อมให้เป็นสีที่ค่อยๆ ไล่เฉดจากน้ำเงินไปเป็นขาว
นอกจากนี้ยูนิโคล่ยังจัดแสดงเรื่องราววิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีอันก้าวล้ำที่สุดของแบรนด์ผ่านโซนจัดแสดงเชิงทดลอง โดยมีการจัดแสดงที่สำคัญที่สุดคือห้อง HEATTECH Room ซึ่งเป็นการสาธิตให้เห็นว่านวัตรรมผ้าชนิดนี้ทำงานอย่างไร โดยผู้เข้าชมจะถูกดึงดูดเข้าสู่ห้วงความรู้สึกอันดื่มด่ำในพื้นที่ที่กุมความสนใจของผู้เข้าชมไว้ด้วยจอขนาดยักษ์เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของเทคโนโลยีนี้ให้เห็นถึงระดับจุลภาคของมัน นอกจากการจัดแสดงในห้องนี้แล้วยังมีการสาธิตที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายเพื่อเผยความลับของวิทยาศาสตร์ที่ใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ของยูนิโคล่ ทั้งแอริซึ่ม (AIRism) บล็อคเทค (BLOCKTECH) และอัลตร้าไลท์ดาวน์ (Ultra Light Down)
ฉายความโดดเด่นในด้านความยั่งยืน
ยูนิโคล่เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและมุ่งเติบโตเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว นิทรรศการในครั้งนี้ยังมีโซนเฉพาะที่นำเสนอความสำเร็จส่วนหนึ่งของบริษัทฯ ในด้านความยั่งยืน อาทิ โครงการรีไซเคิลเสื้อผ้าทั่วโลก ศูนย์นวัตกรรมยีนส์ของบริษัทฯซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาที่มุ่งปฏิวัติการผลิตและออกแบบยีนส์ ตลอดจนความร่วมมือระดับโลกของบริษัทฯกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees – UNHCR)
การวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากความร่วมมือพิเศษในป๊อป-อัพสโตร์
เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองงาน London Fashion Week ผู้เยี่ยมชมจะสามารถเลือกซื้อเสื้อยืด UT (ยูนิโคล่ ที-เชิ้ต) แบบ Limited Edition ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากความร่วมมือพิเศษครั้งใหม่กับ NTS ซึ่งเป็นสถานีวิทยุออนไลน์ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน โดย NTS ยังจะได้จัดกิจกรรมพิเศษขึ้นอีก 2 ค่ำคืนเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี ของว่างและเครื่องดื่ม และเวิร์คช็อปต่างๆ ณ Somerset House
ข้อมูลนิทรรศการ
- ชื่อนิทรรศการ: The Art and Science of Lifewear: New Form Follows Function
- สถานที่จัดแสดง: Somerset House, The Embankment Galleries, Strand, London, WC2R 1LA
- ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ฟรี
เกี่ยวกับ UNIQLO LifeWear
เสื้อผ้าไลฟ์แวร์ (LifeWear) มีที่มาจากค่านิยมของชาวญี่ปุ่นในเรื่องความเรียบง่าย คุณภาพ และความยืนยาว LifeWear ได้รับการออกแบบให้เป็นเสื้อผ้าแห่งยุคสมัยและเพื่อยุคสมัย และถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างสง่างามทันสมัยจนกลายเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการสร้างสรรค์สไตล์เฉพาะตัวของแต่ละบุคคล เสื้อเชิ้ตที่ดีเลิศอยู่แล้วยังได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นอยู่เสมอ การออกแบบที่เรียบง่ายที่สุด แฝงไว้ด้วยรายละเอียดที่บ่งบอกถึง ความใส่ใจและทันสมัยที่สุด ทำให้รูปทรงและเนื้อผ้าที่ดีที่สุดกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถซื้อหาและเข้าถึงได้ง่าย LifeWear คือเสื้อผ้าที่มุ่งสร้างสรรค์ สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบความอบอุ่น ความเบา การออกแบบที่ดี และความสบายสู่ชีวิตของผู้คนให้ได้มากยิ่งขึ้น
เกี่ยวกับ ยูนิโคล่ และ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง
ยูนิโคล่เป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ฟาสต์ รีเทลลิ่งทั้ง 8 แบรนด์ ซึ่งแบรนด์ที่เหลือได้แก่ GU, Theory, Helmut Lang, PLST (Plus T), Comptoir des Cotonniers, Princesse tam.tam และ J Brand บริษัทฯ มียอดจำหน่ายทั่วโลกประมาณ 2.13 ล้านล้านเยนในปีบัญชี 2018 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2018 (ประมาณ 19,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ ต่อ 111.1 เยน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2018) ฟาสต์ รีเทลลิ่ง เป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกสินค้าเครื่องแต่งกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยูนิโคล่เป็นแบรนด์ค้าปลีกสินค้าเฉพาะทางชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ยูนิโคล่ยังคงเดินหน้าเปิดร้านสาขาขนาดใหญ่ในเมืองใหญ่และในทำเลที่สำคัญต่างๆ ในโลก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในฐานะแบรนด์ระดับโลก ในปัจจุบันยูนิโคล่มีจำนวนร้านสาขากว่า 2,000 แห่งใน 22 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เบลเยียม แคนาดา จีน เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน ไต้หวัน ไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ในปี ค.ศ. 2010 ยูนิโคล่ยังได้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคมขึ้นร่วมกับธนาคาร Grameen Bank ในบังกลาเทศ ซึ่งในปัจจุบันมีร้าน Grameen-UNIQLO เปิดดำเนินงานอยู่หลายสาขาในกรุงธากา
ฟาสรีเทลลิ่ง มีพันธกิจที่จะเปลี่ยนโฉมเสื้อผ้า พลิกโฉมหน้าของภูมิปัญญาเดิมๆ และเปลี่ยนแปลงโลก โดยบริษัทฯทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์เสื้อผ้า ชั้นเยี่ยมด้วยค่านิยมใหม่ที่พิเศษไม่เหมือนใคร เพื่อร่วมสร้างสรรค์ชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คนทุกหนแห่ง ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิโคล่และฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้ที่เว็บไซต์ www.uniqlo.com และ www.fastretailing.com
เกี่ยวกับโทเร
โทเรเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมและวัสดุที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง นับตั้งแต่ที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1926 เป็นต้นมา บริษัทฯได้ร่วมจรรโลงสังคมผ่านการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ และรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เป็นความท้าทายระดับโลก โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง อาทิ เส้นใยและสิ่งทอ เรซินและฟิล์ม และวัสดุผสมประเภทคาร์บอนไฟเบอร์ บริษัทฯดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศและภูมิภาคต่างๆ 26 แห่งทั่วโลก โดยมีจำนวนพนักงานรวมประมาณ 48,000 คนทั่วโลก ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ www.toray.com