กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
ขึ้นชื่อว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการให้ของจริงสำหรับเทศกาล "ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่" เพราะไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็จะเห็นการส่งมอบสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็น การ์ดอวยพร ของกินของใช้ หรือแม้แต่กระทั่งของขวัญให้กันและกันทั่วบ้านทั่วเมือง ยิ่งเป็นสังคมไทยด้วยแล้ว ยิ่งพบเห็นเรื่องดังกล่าวได้เป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ว่าจะกลุ่มเด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่ต่างก็ให้ความสำคัญกับ "การให้" เป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้ทุกวันนี้ "การให้" กลายเป็นสัญลักษณ์ของคนไทย รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลแห่งความสุขไปโดยปริยาย
และเมื่อพูดถึงเทศกาลปีใหม่หลายคนอาจกำลังมองหาของขวัญ ของฝาก ส่งต่อให้กับคนที่รักและรู้สึกดีๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้การส่งของเหล่านั้นก็สะดวก ง่าย รวดเร็ว ส่งได้ทันใจไม่ว่าจะใกล้-ไกลแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามหลายๆคนก็อาจจะยังคิดไม่ออกว่าปีใหม่นี้จะเลือกของขวัญอะไรให้คนใกล้ชิด หรือคนที่ปรารถนาดี วันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งและส่งต่อสิ่งดีๆอย่าง "ไปรษณีย์ไทย" มีทริคดีๆสำหรับการเลือกและส่งของขวัญให้อิ่มใจผู้ให้ ถูกใจผู้รับมาฝากกัน รับรองได้ว่าแฮปปี้กันถ้วนหน้าแน่นอน
เริ่มกันที่ ของขวัญสำหรับคนในครอบครัว แม้ว่าเราจะเจอหน้าคนในครอบครัวบ่อยแค่ไหน แต่เทศกาลปีใหม่แบบนี้ก็ควรจะมีของขวัญพิเศษสักชิ้นสำหรับสมาชิกในครอบครัวของเรา ซึ่งการเลือกซื้อของขวัญนั้นแนะนำว่าอาจจะต้องเป็นของใช้ภายในบ้านไม่ว่าจะ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือของตกแต่งบ้านที่มีความหมาย เพราะสิ่งของเหล่านี้สามารถใช้งานได้จริง และที่สำคัญเวลาหยิบมาใช้คนในบ้านจะได้นึกถึงหน้าเราไปด้วย เรียกว่าคุ้มค่าทางประโยชน์ใช้งานและมีคุณค่าทางจิตใจ ที่ดียิ่งไปกว่านั้นหากใครไม่มีเวลาเดินทางกลับบ้าน หรือต้องการส่งไปเซอร์ไพรส์ก่อนถึงวันสิ้นปีก็สามารถจัดส่งได้สบายๆไม่ต้องกลัวของเสียหายทั้งด้วยบริการส่งพัสดุแบบEMS ที่มีบริการส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น หรือแม้แต่การฝากส่งของชิ้นใหญ่ไปรษณีย์ไทยก็สามารถส่งให้ถึงมือคนในครอบครัวเราๆเช่นกัน ส่วนใครที่ฝากของมีค่าเราก็สามารถซื้อประกันพัสดุเพิ่มเติมได้
ของขวัญสำหรับเพื่อนสนิท หรือเพื่อนในออฟฟิศ อาจจะมีโอกาสไม่บ่อยนักที่เราจะได้มอบของขวัญให้กับเพื่อนสนิทหรือเพื่อนๆในที่ทำงาน ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างมิตรภาพที่ดีก็ควรใช้โอกาสในช่วงปีใหม่แบบนี้หาของขวัญให้กับกลุ่มดังกล่าวบ้าง สำหรับเพื่อนร่วมงานอาจจะลองเลือกเป็นเครื่องเขียนน่ารักๆเช่น ปากกา สมุดโน้ต กระดาษโพสต์อิท หรือหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ ส่วนเพื่อนสนิทแนะนำว่าควรเป็นวิ่งของที่มีความหมาย เช่น กรอบรูปที่มีรูปของเราและเพื่อน นาฬิกาที่สื่อถึงเรื่องมิตรภาพและเวลา ของตกแต่งบ้านที่แสดงถึงความใส่ใจไม่ลืมที่จะนึกถึงกัน เป็นต้น
ของขวัญสำหรับบุคคลที่รู้สึกเคารพ เช่น ครู อาจารย์ หัวหน้าในที่ทำงานซึ่งอาจจะต้องเลือกของขวัญที่เป็นการส่งเสริมกำลังใจจำพวกวัตถุมงคลที่ช่วยสร้างพลังบวก หรือที่ให้โชคในการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับช่วงปลายปีแบบนี้ นอกจากนี้อาจจะลองมองหาของขวัญที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหนักตลอดทั้งปีไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำความหอม เทียนหอม หมอนเพื่อสุขภาพลดอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน และวิตามินที่ดีต่อสุขภาพ ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่ช่วยสร้างความประทับได้เช่นกัน
ของขวัญที่แสดงถึงการส่งต่อโอกาสดีๆ ให้แก่ผู้อื่น แม้ว่าเทศกาลปีใหม่จะเป็นช่วงเวลาแห่งการให้ แต่จริงๆแล้วก็ยังมีผู้คนที่ห่างไกล หรือคนที่ด้อยโอกาสก็ต้องการสิ่งเติมเต็มไม่แพ้กับคนอื่นๆ โดยเราสามารถส่งสิ่งของที่จำเป็นให้แกพวกเขาเหล่านั้นได้ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์การเรียน ของเล่น เสื้อผ้า หรือแม้แต่ทุนการศึกษา สิ่งเหล่านี้ล้วนมีคุณค่าต่อผู้รับทั้งสิ้น แม้ว่าเพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเรา แต่เราก็ยังสามารถแบ่งปันความสุขให้พวกเขาได้ และในช่วงส่งท้ายปีแบบนี้ ไปรษณีย์ไทยผู้ที่ทำหน้าที่ส่งต่อความสุขก็มีโครงการ "ส่งสุข ส่งฟรี"รับปีใหม่ 2563 ซึ่งเป็นโครงการที่จะชวนทุกคนมาร่วมส่งสิ่งของที่จำเป็นให้กับนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (รร.ตชด.) จำนวน 218 แห่งทั่วประเทศไทยโดยผ่านการส่งมอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา หรือสิ่งของจำเป็นผ่านบริการส่งด่วน(EMS) ฟรี 5 กิโลกรัม/1กล่อง แบบไม่จำกัดจำนวนกล่อง โดยสามารถจัดส่งได้ตั้งแต่วันนี้-วันที่ 15 มกราคม 2563 หากใครสนใจโครงการดีๆสามารถนำสิ่งของไปฝากได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกแห่งทั่วประเทศ ที่สำคัญอย่าลืมจ่าหน้าถึงกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน และระบุชื่อโรงเรียนที่ต้องการส่ง ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่อยู่กับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์หรือสามารถตรวจสอบได้ที่ www.thailandpostmart.com
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท) กล่าวว่า แคมเปญ "ส่งสุข ส่งฟรี" รับปีใหม่ 2563 เป็นแคมเปญที่ไปรษณีย์ไทยอยากเชิญชวนคนไทยมาเริ่มต้นก้าวเข้าสู่ปี 2563 ด้วยการให้โอกาสกับเด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากไปรษณีย์ไทยได้เล็งเห็นความสำคัญด้านการศึกษาของเด็ก ดังนั้นจึงใช้ศักยภาพในด้านการขนส่งในการส่งต่อโอกาสด้านการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อเป็นการสร้างความเท่าเทียม ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอภาค โดยกิจกรรมดังกล่าวยังถือว่าเป็นการชวนคนไทยมาส่งต่อโอกาสให้กับคนในสังคมและร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน เพราะการมอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬาหรือสิ่งของจำเป็น ให้แก่เด็กเรียนถือว่าเป็นการต่อยอดโอกาสดีๆแก่เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล
ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยตั้งเป้าว่าแคมเปญดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือและเติมเต็มปะสิทธิภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนตชด.ได้อีกหนึ่งทาง อีกทั้งโครงการดังกล่าวเป็นการเน้นย้ำภารกิจของไปรษณีย์ไทยที่นอกจากจะส่งมอบบริการที่มีคุณภาพแล้ว ยังมุ่งมั่นส่งความสุขให้คนไทยผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ไทยที่มีอยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ