กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--เอบีเอ็ม คอนเนค
หัวเรือใหญ่แห่งโอสถสภา เพชร โอสถานุเคราะห์ นำทีม OSP Hero รวมพลังจิตอาสา สร้างพลังกาย พลังใจ และพลังชีวิตให้คนพิการลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ในโครงการ "Life must go on…พลังเพื่อก้าวต่อไป"
"ดีเอ็นเอที่อยู่คู่กับโอสถสภามาอย่างยาวนาน คือ แนวคิดการทำธุรกิจที่มุ่งคืนกำไรกลับคืนสู่สังคม โดยเน้นสร้างเครือข่ายความช่วยเหลือ เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือที่ยั่งยืนที่สุด โครงการ Life must go on…พลังเพื่อก้าวต่อไป จึงสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง รวมพลังจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานท้องถิ่น พนักงานจิตอาสาของโอสถสภา และคนพิการเอง เพื่อช่วยเหลือคนพิการให้กลับมามีพลังก้าวต่อ พร้อมฝ่าฟันทุกอุปสรรคด้วยใจที่เข้มแข็ง" นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าว
ปัจจุบันประเทศไทยมีคนพิการกว่า 3 ล้านคน โดยครึ่งหนึ่งเป็นคนพิการทางการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกมากขึ้น ใช้ความสามารถประกอบอาชีพ มีรายได้พึ่งพาตนเอง และเป็นที่ยอมรับของสังคม
ด้วยวิสัยทัศน์ Power to Enhance Life หรือ พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต โอสถสภาเชื่อว่า หากใจยังคงมีพลัง คนพิการจะสามารถเอาชนะอุปสรรคทางกายได้ และกลับมาสร้างผลงานและคุณประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมได้อีกครั้ง โอสถสภาจึงริเริ่มโครงการ Life must go on…พลังเพื่อก้าวต่อไป เพื่อปลุกพลังคนพิการให้สามารถยืนหยัดและก้าวต่อไปด้วยตนเอง ด้วยการเสริมสร้างพลังกาย ฟื้นฟูร่างกายและพัฒนาศักยภาพคนพิการ เสริมสร้างพลังใจ โดยการปรับสภาพบ้านให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง ไม่เป็นภาระของคนในครอบครัว ทำให้มีความมั่นใจอีกครั้ง และเสริมสร้างพลังชีวิต ด้วยการส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม เช่น ปลูกถั่วงอก เพาะเห็ด สานกระเป๋า เป็นต้น พร้อมให้ความรู้และจัดสรรอุปกรณ์และเครื่องมือในการประกอบอาชีพ ทั้งยังช่วยออกแบบตราสินค้า บรรจุภัณฑ์สินค้า จัดหาตลาด สร้างช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้คนพิการมีรายได้ดูแลตนเองและช่วยเหลือครอบครัวได้ต่อไป
"พลัง" ของคนหนึ่งคนช่วยผู้อื่นได้ แต่ถ้ารวม"พลัง" กันหลายๆ คนจะช่วยได้มากกว่า โครงการ Life must go on…พลังเพื่อก้าวต่อไป จึงเป็นการรวมพลังของสามส่วนหลัก ได้แก่ พลังจากหน่วยงานท้องถิ่น อาทิ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ อบต. ชุมชน พลังจากโอสถสภา ซึ่งช่วยสนับสนุนด้านงบประมาณและแรงกายแรงใจของ OSP Hero และอีกหนึ่งพลังที่สำคัญคือพลังของคนพิการและครอบครัวที่ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจที่จะก้าวต่อไป โครงการมีเป้าหมายช่วยเหลือคนพิการรวม 130 คน ในพื้นที่ 4 จังหวัดที่โอสถสภามีโรงงานตั้งอยู่ ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ อยุธยา และสระบุรี ภายในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่โอสถสภาครบรอบการก่อตั้งและก้าวสู่ปีที่ 130 โดยมี OSP Hero กว่า 900 คนจาก 10 บริษัทในเครือร่วมลงพื้นที่
การเสริมสร้างพลังให้คนพิการนั้น เมื่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ช่วยดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกายให้แก่คนพิการแล้ว โอสถสภาจะลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อพูดคุยสอบถามคนพิการและนำข้อมูลที่ได้มาออกแบบบ้านให้ตรงตามความต้องการและสอดรับกับการใช้ชีวิตประจำวันของคนพิการได้มากที่สุด จากนั้น OSP Hero จะช่วยกันซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านตามความถนัดของแต่ละคน OSP Hero จากฝ่ายซ่อมบำรุงเป็นหัวแรงหลักในการดูแลด้านงานโครงสร้าง การต่อระบบประปา-ไฟฟ้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับคนพิการ ในขณะที่ OSP Hero จากหน่วยงานอื่นๆ ก็มาช่วยเติมเต็มในส่วนต่างๆ อาทิ การตกแต่ง การจัดบรรยากาศที่ดีในการอยู่อาศัยให้กับคนพิการ การเตรียมพื้นที่สำหรับปลูกผัก หรือการทำอุปกรณ์กายภาพง่ายๆ ที่ทำเองได้ เช่น ช้างกำมือ เป็นต้น
ในปี 2562 นี้ โอสถสภาสามารถปรับปรุงบ้านได้ 30 หลังตามเป้าหมาย และเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารและจิตอาสา OSP Hero ได้ลงพื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมภารกิจสร้างบ้านให้กับคนพิการรายที่ 30 ของโครงการ นายสุรศักดิ์ กิจจารักษ์ อายุ 44 ปี ซึ่งมีแขนขาซ้ายอ่อนแรงและพูดไม่ได้จากโรคหลอดเลือดสมองแตก กลายเป็นคนพิการติดบ้านจากเดิมที่เคยทำงานเป็นพนักงานขับรถ ทำให้แม่และน้องชายต้องรับภาระดูแล อีกทั้งบ้านที่อยู่อาศัยมีสภาพทรุดโทรมและยังถูกไล่ที่ โครงการได้เข้าไปช่วยเหลือสร้างบ้านบนพื้นที่ใหม่ เนื่องจากบ้านหลังเดิมทรุดโทรมจนเกินจะซ่อมแซมได้ โดยได้นำอิฐเตาเผาเก่าจากโรงงานมาทำผนังบ้านบางส่วน และติดตั้งระบบไฟฟ้า-ประปา พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ภายในบ้าน อีกทั้งได้มอบรถเข็นซึ่งช่วยให้นายสุรศักดิ์สามารถออกจากบ้านได้อย่างปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น พร้อมสอนงานสานเส้นพลาสติกและการปลูกถั่วงอกเพื่อเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
"ดีใจที่โอสถสภาเข้ามาช่วย ทั้งสร้างบ้านให้และช่วยสอนอาชีพ ทำให้มีงานทำ มีรายได้จากการปลูกถั่วงอกและสานกระเป๋า แต่ก่อนก็รู้สึกท้อว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมลูกถึงป่วย แต่ต่อไปนี้เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้น" คุณแม่หัวใจแกร่ง ผู้ดูแลนายสุรศักดิ์ กล่าวทั้งน้ำตาด้วยความยินดีกับชีวิตใหม่ของครอบครัว
ด้านนางสาววงเดือน นามนใส อายุ 34 ปี อดีตพนักงานขายโทรศัพท์มือถือ หลังประสบอุบัติเหตุจนขาพิการ ส่งผลให้ต้องหย่าร้าง มีความเครียดสะสมจนเกิดภาวะโรคหลอดเลือดสมองแตกซ้ำ มีชีวิตที่ยากลำบาก โดยมีภาระเลี้ยงดูแม่ที่พิการติดเตียง และลูกสาววัยเรียนชั้นประถมอีก 2 คน โครงการจึงได้เข้าช่วยเหลือโดยการปรับสภาพบ้าน ทั้งราวบันได ราวจับในห้องน้ำ เปลี่ยนก๊อกน้ำ ประตูห้องน้ำ เพิ่มมุ้งลวดในห้อง ซ่อมแซมรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าให้กลับมาใช้ได้ พร้อมมอบอุปกรณ์ทำครัวและสอนการทำขนมโดนัท เพื่อเป็นอาชีพสร้างรายได้ โดยลูกสาวทั้ง 2 คนยังนำขนมโดนัทไปขายที่โรงเรียนเพื่อช่วยหาเงินเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งหน่วยงานในท้องถิ่นได้เข้ามาช่วยอุดหนุนขนมไปเป็นของว่างในการประชุมด้วย ทำให้วันนี้ วงเดือนและครอบครัวกลับมายิ้มได้อีกครั้ง
โครงการ Life must go on…พลังเพื่อก้าวต่อไป สามารถช่วยเหลือและเปลี่ยนชีวิตของคนพิการมากมาย ซึ่งเป็นผลมาจากการรวมพลังของภาคส่วนต่างๆ เมื่อพลังเล็กๆ หลอมรวมกันก็จะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ โครงการนี้จะไม่สามารถเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ หากขาดพลังใดพลังหนึ่ง ทุกๆ พลังล้วนช่วยให้คนพิการสามารถก้าวข้ามอุปสรรคในชีวิต และก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมีความสุข ภาคภูมิใจ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ติดตามวีดีโอคลิปรวมภาพความประทับใจของการรวมพลังในโครงการ Life must go on…พลังเพื่อก้าวต่อไปได้ที่ Facebook fanpage: Osotspa Corporate
ข้อมูลเกี่ยวกับโอสถสภา
โอสถสภา ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2434 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2561 ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา โอสถสภามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อเสริมสร้างชีวิตให้แก่ผู้บริโภคและสังคม ภายใต้แนวคิด "พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต"
ในฐานะส่วนหนึ่งของสังคมไทย โอสถสภาตอบแทนสังคมเพื่อสร้างสรรค์ชีวิตคนไทยให้ยั่งยืนยิ่งกว่า ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมไทยในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านการกีฬา การศึกษา การแพทย์และสาธารณสุข และการให้ความช่วยเหลือสังคมในโอกาสต่างๆ รวมถึงในกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยและสังคมไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน