กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสร้างอัตราผลตอบแทนสูงกว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยอยู่ที่ประมาณ 32% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ธ.ค.62) จากปัจจัยหลักที่ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แก่การบริโภคภายในประเทศที่ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง และอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกรวมถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งใน 2562 จากร้อยละ 2.25 – 2.50 ในช่วงปลายปี 2561 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.50 – 1.75 ในปัจจุบันเพื่อช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ กลายเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับในระยะถัดไปคาดว่าการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เริ่มมีท่าทีผ่อนคลายลงหลังจากที่ทั้งสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงในPhrase แรก โดยรายละเอียดเบื้องต้น สหรัฐฯจะลดการเก็บภาษีกลุ่มสินค้ามูลค่า 1 แสนล้านเหรียญ จากปัจจุบันที่ 15% ลงเป็น 7.5% และ ยกเลิกการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้ากับสินค้ามูลค่า 1.6 แสนล้านเหรียญที่จะเก็บในวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในขณะที่จีนจะซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมูลค่ารวม 2 แสนล้านเหรียญ ในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจทำให้ราคาเมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐานอยู่ในระดับที่สูงนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีช่วงเดือน พ.ย. 2020 โดยนโยบายจากผู้ท้าชิงอาจมีนโยบายที่เป็นลบกับบางกลุ่มอุตสาหกรรม และสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นได้
สำหรับภาพรวมกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ภายใต้บริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์นั้น สามารถสร้างผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุน SPDR S&P 500 ETF Trust ที่บริหารจัดการโดย State Street Global Advisors ซึ่งมีการบริหารจัดการแบบ passive โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี S&P500 และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 มีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 28.17% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2562) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ (SCBBLN) มีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 32.74% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2562 ) โดยมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี iBillionaire
นอกจากนี้ 2 กองทุนดังกล่าวยังได้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 26 ธันวาคม 2562 รวมมูลค่ากว่า 42 ล้านบาท โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2561 –30 พฤศจิกายน 2562 ในอัตรา 0.5504 บาทต่อหน่วย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 ไปแล้วจำนวน 0.2988 บาทต่อหน่วย เหลือจ่ายงวดนี้ 0.3206 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 13 รวมจ่ายปันผล 3.3510 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 18 ธ.ค. 2555) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ (SCBBLN) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มิถุนยายน 2562-30 พฤศจิกายน 2562 ในอัตรา 0.2537 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 7 รวมจ่ายปันผล 1.4324 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 24 ก.ค. 2558)
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย