![ประธานคณะกรรมการของหัวเว่ยคาดรายได้ปี 2019 โตขึ้น 18% แม้ต้องเผชิญกับการแบนของสหรัฐฯ]()
กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--แฟรนคอม เอเซีย
"แม้
รัฐบาลสหรัฐฯ จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เราเป็นรอง แต่สุดท้ายเราก็ยังหาทางรอดออกมาได้"มร. อีริค สวี กล่าว
มร. อีริค สวี ประธานคณะกรรมการ หมุนเวียนตามวาระของ
หัวเว่ย ได้เผยแพร่ข้อความอวย
พรปีใหม่แก่พนักงานของบริษัท พร้อมขอบคุณสำหรับการทำงานหนักอย่างทุ่มเทในช่วงปีแห่งความท้าทาย อีกทั้งยังย้ำให้พนักงานเตรียมพร้อมหากต้องเผชิญความยากลำบากในปีที่จะมาถึง "
รัฐบาลสหรัฐฯ จะพยายามยับยั้งการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของเรา แต่
หัวเว่ยจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อความอยู่รอดและความสำเร็จ" เขากล่าวย้ำ
หัวเว่ยยังคาดการณ์ว่ารายได้ของบริษัทในปี 2562 จะอยู่ที่ 850 พันล้านหยวน (3.6 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นราว 18% จากปีก่อนหน้า
มร. สวี ได้กล่าวว่า ธุรกิจหลักของบริษัททุกกลุ่มมีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม
หัวเว่ยเป็นผู้นำในการติดตั้งใช้งานเทคโนโลยี 5G เชิงพาณิชย์ระดับโลก ด้วยการคว้าสัญญาเชิงพาณิชย์เพื่อติดตั้งเครือข่าย 5G ไปแล้วกว่า 50 ฉบับทั่วโลก ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ยังคงช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้แก่หลากหลายอุตสาหกรรม กว่า 700 เมืองและบริษัทชั้นนำในลิสต์ Fortune Global 500 ถึง 228 แห่ง ได้เลือก
หัวเว่ยเป็นพันธมิตรในการทรานสฟอร์มด้านดิจิทัล และจากการส่งมอบสมาร์ทโฟนตลอดทั้งปีกว่า 240 ล้านเครื่อง มร. อีริค สวี กล่าวว่าธุรกิจคอนซูมเมอร์ของ
หัวเว่ยก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกเหนือจากสถิติยอดขายสมาร์ทโฟนที่น่าประทับใจแล้ว ยอดขายอุปกรณ์ Wearables ในปี 2019 ของบริษัทยังเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 243% ด้วยยอดการจัดส่ง 5.9 ล้านชิ้น และครองส่วนแบ่งทางการตลาด 13% ทั่วโลก
ในข้อความอวยพร มร. สวี ยังได้กล่าวว่าตนรู้สึกซาบซึ้งที่พนักงานทุกคนตั้งใจทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน และยังได้กล่าวชื่นชมทีมงานที่ต้องทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อ "อุดรูรั่วบนเครื่องบินที่ผ่านศึกสงครามมาอย่างโชกโชนลำนี้" เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โฆษกของ
หัวเว่ยได้ประกาศว่าบริษัทจะให้โบนัสมูลค่ารวม 2 พันล้านหยวน (8.6 พันล้านบาท) แก่พนักงาน แทนคำขอบคุณที่ได้ช่วยให้บริษัทผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบาก หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ประกาศแบน
หัวเว่ย
ในช่วงท้ายของข้อความอวยพร มร. สวี ได้กล่าวย้ำว่า ปี 2563 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะเขาคาดว่า ชื่อของ
หัวเว่ยจะยังอยู่ในบัญชีดำของสหรัฐฯ ต่อไป "ความพยายามของ
รัฐบาลสหรัฐฯ ในการโจมตี
หัวเว่ยถือเป็นยุทธศาสตร์ระยะยาว" เขากล่าว พร้อมย้ำว่า
หัวเว่ยมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้เสมอ "ปีนี้ถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของเราในการพัฒนาตนเองและเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเคย" เขากล่าวให้กำลังใจพนักงาน
ในอีก 5 ปีข้างหน้า
หัวเว่ยจะมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพและได้เตรียมงบประมาณไว้ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (60,000 ล้านบาท) เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันคุณภาพที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลก