อีสท์ วอเตอร์ เปิดตึกใหม่ พร้อมแถลงแผนการขยายธุรกิจ

ข่าวทั่วไป Tuesday March 4, 2008 16:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--อีสท์ วอเตอร์
อีสท์ วอเตอร์ เปิดตึกใหม่ให้สื่อมวลชนเยี่ยมชม ผู้บริหารแถลงวิสัยทัศน์เน้นการทำงานเชิงรุกยิ่งขึ้น มั่นใจสถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกยังสามารถรองรับความต้องการใช้น้ำได้เพียงพอ วางแผนเตรียมพร้อมพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต เผยเตรียมปรับราคาค่าน้ำอย่างเป็นธรรมสำหรับผู้ใช้น้ำทุกกลุ่ม ทั้งยังมุ่งขยายตลาดในต่างประเทศด้วย บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ จัดงาน East Water Open House ให้สื่อมวลชนเยี่ยมชมอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 5 หลังย้ายจากสำนักงานเดิม ซึ่งเช่าอยู่ภายในโรงแรมรามาการ์เดนส์ พร้อมทั้งแนะนำตราสัญลักษณ์ใหม่ขององค์กร ที่แสดงถึงพลังและพลวัตของน้ำ ซึ่งเป็นวัฏจักรแห่งพลังอันไม่สิ้นสุด สื่อถึงความเชี่ยวชาญขององค์กรในการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ นายประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวิสัยทัศน์การบริหารงานโดยเน้นการบริหารจัดการองค์กรให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น พร้อมทั้งปรับแผนการตลาดโดยมุ่งเน้นการให้บริการลูกค้า จัดสรรน้ำดิบอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงกำหนดแผนการลงทุนให้เหมาะสม เพื่อให้การกำหนดราคาเป็นไปอย่างยุติธรรม ซึ่งในปี 2551 นี้ ความต้องการน้ำดิบในภาคตะวันออกมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการขยายกำลังการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค รองรับการขยายตัวของชุมชน และการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม นายประพันธ์ อัศวอารี ได้กล่าวถึงปริมาณน้ำดิบสำรองในขณะนี้ว่า “ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำหลัก 3 แห่ง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบของบริษัทฯ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำดอกกราย และอ่างเก็บน้ำหนองค้อ มีปริมาณน้ำกักเก็บโดยรวม คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯ นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำสำรองจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ อ่างเก็บน้ำประแสร์ ตลอดจนสระเก็บน้ำสำรองของบริษัทฯเอง จึงทำให้บริษัทฯ มีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับปี 2551 อย่างแน่นอน” ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เตรียมแผนพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของการให้บริการแก่ผู้ใช้น้ำ โดยดำเนินการก่อสร้างท่อเชื่อมอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตามที่ได้รับมอบหมายจากกรมชลประทาน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2551 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทฯ มีปริมาณน้ำดิบสำรองเพิ่มขึ้น รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อีกประมาณ 5 ปี และนอกจากการก่อสร้างท่อเชื่อมอ่างเก็บน้ำดังกล่าวแล้ว บริษัทฯยังมีโครงการพัฒนาสระสำรองน้ำดิบเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำสำรองในฤดูแล้ง ผู้บริหาร อีสท์ วอเตอร์ เผยอีกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ทำให้ต้นทุนพลังงานที่ใช้สูบน้ำเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการลงทุนก่อสร้างท่อส่งน้ำและการพัฒนาแหล่งน้ำ ส่งผลให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ในช่วงไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม — ธันวาคม 2550) อีสท์ วอเตอร์ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 569.96 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.29 “ในเดือนเมษายนนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมการที่จะปรับโครงสร้างราคาค่าน้ำใหม่ ซึ่งสะท้อนจากต้นทุนจริง โดยกระบวนการคำนวณราคาต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุดสำหรับผู้ใช้น้ำทุกกลุ่ม และบริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนด้านพลังงานทดแทน ด้วยการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาด 3-5 เมกะวัตต์ ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้แรงดันในท่อส่งน้ำ ของบริษัทฯ เป็นระบบ Mini Hydro Power ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้าและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คาดว่าโครงการแรกจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้ และโครงการทั้งหมดจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 — 3 ปี” นอกจากนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยในเครือยังมีแผนขยายธุรกิจด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนธุรกิจบริการ โดยนำความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำไปให้บริการในตลาดต่างประเทศ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศจีน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นลินรัตน์ จงเจริญพรสุข และ ณัฐกานต์ ศรีสุทัศน์ โทร. 026339950, 0816942967, 0858129393
narinrat@siamentis.com natthakan@siamentis.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ