กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
Expedia Group แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวระดับโลกที่มีแบรนด์ท่องเที่ยวชั้นนำมากมายครอบคลุมกว่า 70 ประเทศ มองย้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
นิค แอนดรูส์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารการตลาดของ Expedia Group กล่าวว่า "นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา การหารือและการคาดการณ์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยอุตสาหกรรมไทยได้ฟื้นตัวจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย แม้ยังไม่ทราบถึงวิสัยทัศน์ในระยะยาว ความสนใจในการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่มากขึ้นนำมาสู่ความไม่แน่นอนในการดำเนินธุรกิจ และผลกระทบจากเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น บิตคอยน์ เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริง ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีสั่งงานด้วยเสียง ยังเป็นเรื่องที่นำมาถกเถียงกันอย่างเข้มข้น
"ที่ผ่านมาได้เกิดความไร้ทิศทาง กล่าวคือ แม้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ยังมีการให้ความสำคัญในการหารือเรื่องผลกระทบของความไม่สงบทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก ในขณะเดียวกันการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ได้ให้ประสบการณ์จริงและเติบโตขึ้น ทั้งยังมีการทำการตลาดอย่างหนัก โดยเชื่อมโยงธุรกิจการค้นหาด้านการเดินทางและการจองเข้ากับระบบผู้ช่วยเสมือนอเล็กซ่า และผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ กูเกิล แอสซิสแทนต์" คุณแอนดรูส์กล่าวเสริม
สำหรับทศวรรษใหม่ที่กำลังจะมาถึง Expedia Group ได้คาดการณ์แนวโน้มปัจจัยภายในขององค์กรที่จะช่วยลดอุปสรรคสำหรับทั้งนักเดินทางและผู้ให้บริการการเดินทางดังนี้
การคาดการณ์ถึงปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอน
- การเปลี่ยนแปลงด้านรุ่นอายุและภูมิเศรษฐศาสตร์
แม้ว่าความคิดเชิงวัฒนธรรมเกี่ยวกับคนรุ่น "โอเค บูมเมอร์" (เจนซี) แลดูสุดโต่ง แต่ความคิดดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงช่องว่างที่มากขึ้นด้านความสนใจและคุณค่าที่นิยามคนแต่ละรุ่น ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและแนวทางที่ผู้ให้บริการการท่องเที่ยวจำเป็นต้องตอบสนองความต้องการของนักเดินทางในแต่ละช่วงวัย
งานวิจัยของทีม Expedia Group Media Solutions ระบุว่านักเดินทางรุ่นใหม่ที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยต้องการประสบการณ์และการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร โดยคนกลุ่มนี้ถือคติว่าเกิดมาครั้งเดียวต้องใช้ชีวิตให้เต็มที่ คนรุ่นต่อไปคือเจเนอเรชั่นอัลฟ่า ซึ่งเกิดตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป ทั้งนี้ข่าวดีสำหรับทศวรรษที่จะมาถึงคือพ่อแม่ของเจนอัลฟ่าคือชาวมิลเลนเนียล ซึ่งไม่รอช้าที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามมีความท้าทายประการหนึ่งคือแม้ว่าเจนอัลฟ่าอายุยังน้อย แต่พวกเขากลับมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเรื่องการเดินทางแบบครอบครัวเป็นอย่างมาก
ในอีก 10 ปีข้างหน้า ชาวเจนเอ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเจนที่ได้รับการศึกษาในระบบมากที่สุดและร่ำรวยที่สุดจะมีอายุครบ 20 ปี ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยหรือทำงานก็ตาม คนกลุ่มนี้จะตัดสินใจเรื่องการท่องเที่ยวด้วยตนเองและออกเดินทางไปทั่วโลก มีการคาดการณ์ว่าพวกเขาต้องการประสบการณ์การเดินทางที่ไร้อุปสรรคและใช้ช่องทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยสามารถสำรวจจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ได้จากเทคโนโลยีเสมือนจริงที่ที่บ้าน พร้อม ๆ กับทำการจองทริป พาคนที่พวกเขารักไปท่องโลกเสมือนด้วยกัน รวมถึงใช้งานบอทขั้นสูงที่สามารถเรียกดูแผนการเดินทางที่จองได้ในคลิกเดียว โดยแผนการเดินทางจะออกแบบสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ ตั้งแต่ที่พักไปจนถึงร้านอาหาร จึงแน่นอนว่าคนเจเนอเรชั่นนี้จะเดินทางมากมาย ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน
การคาดการณ์ที่ค่อนข้างน่าสนใจ
- การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน
แม้การทำงานประจำที่ออฟฟิศตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นจะยังคงเป็นวิถีของคนจำนวนมาก แต่การทำงานรูปแบบดังกล่าวนี้จะน้อยลงเรื่อย ๆ การเดินทางเพื่อธุรกิจจะยังคงมีอยู่ และจะยิ่งทวีความสำคัญเพิ่มขึ้นเมื่อบริษัทเติบโตและต้องการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน นโยบายการเดินทางที่สะท้อนวัฒนธรรมขององค์กร พร้อมทั้งการให้ความเชื่อมั่นกับบุคลากรจะเป็นข้อเสนอหลักที่ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถมายังองค์กร
ลองมาพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของการเดินทางแบบเชื่อมโยงการทำงานและการพักผ่อนเข้าด้วยกันในอนาคต ปัญญาประดิษฐ์จะสามารถคาดการณ์ทริปเฉพาะบุคคลและแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้า เช่น อาจบอกว่า "ใกล้วันหยุดนักขัตฤกษ์แล้ว คุณต้องการจองทริปหรือไม่" "คุณต้องการอยู่เที่ยวต่อกับครอบครัวหลังจบทริปธุรกิจที่เกาหลีเดือนหน้าหรือไม่" เมื่อคุณคลิก 'ใช่' ระบบจะออกแบบแผนการเดินทางให้ตามความต้องการและความสนใจของคุณโดยเฉพาะ
- ความหลากหลายด้านที่พัก
การเดินทางเพื่อธุรกิจ การเดินทางแบบ 'เที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วย' (การเดินทางเพื่อธุรกิจและพักผ่อน) การเดินทางเป็นครอบครัว ตลอดจนการเดินทางเพื่อรักษาพยาบาล ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความหลากหลายด้านที่พักมากยิ่งขึ้น และถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากนักเดินทางควรมีตัวเลือกที่ตรงกับความต้องการเดินทางของตนเองมากที่สุด ทั้งนี้โรงแรมที่เป็นเครือขนาดใหญ่และโรงแรมอิสระจะยังคงมีบทบาทสำคัญในธุรกิจด้านที่พัก
ผู้ให้บริการด้านที่พักสามารถทำนายจากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้ผ่านการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ทั้งนี้การเลือกจองที่พักจะไม่แตกต่างกัน ลองจินตนาการว่าขณะเลือกที่พัก ระบบจะแนะนำโรงแรมเฉพาะแห่งให้กับลูกค้าอัตโนมัติ โดยอ้างอิงจากพฤติกรรมการจองที่พักจากการเดินทางคนเดียวในทริปที่ผ่าน ๆ มา
การคาดการณ์ที่ประจักษ์ชัด
- การออกเดินทาง
ในอดีต การพักผ่อนอยู่บ้านเป็นคู่แข่งเงียบ ๆ สำหรับผู้ประกอบการที่พัก แต่ข้อมูลล่าสุดจาก Vrbo ซึ่งเป็นธุรกิจบริการจองที่พักวันหยุดของ Expedia Group ระบุว่านักท่องเที่ยวในไทยหันมาจองที่พักในจังหวัดของตนเองหรือจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหมายความว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้มีการเดินทาง แม้ว่าจะไม่ได้เดินทางไกล
- นิยามใหม่ของประสบการณ์ที่สนามบิน
ปัจจุบันคือยุคของนักเดินทางที่ไม่ยึดติดกับสนามบิน กล่าวคือนักเดินทางให้ความสำคัญกับราคาบัตรโดยสารที่คุ้มค่ากว่าและสิ่งอำนวยความสะดวกของสนามบินที่ดีกว่า เช่น จุดตรวจผู้โดยสารและรักษาความปลอดภัยที่สนามบินที่สั้นกว่า และร้านอาหารที่ดีกว่า ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางกลุ่มนี้ สนามบินต่าง ๆ จะต้องหันมาประเมินบริการที่มอบให้กับนักเดินทางในอนาคตอันใกล้ เช่น ความหลากหลายของเส้นทางบิน ความสะดวกสบายของที่จอดรถ อาหารท้องถิ่น แหล่งช้อปปิ้ง เป็นต้น จึงเป็นการพลิกนิยามประสบการณ์ที่สนามบินอย่างแท้จริง
- การซื้อประสบการณ์เฉพาะบุคคลขั้นสูง
เมื่อสนามบินกลายมาเป็นจุดหมายปลายทาง สนามบินจะได้ประโยชน์จากการมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลมากขึ้นผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่นเดียวกับโรงแรม มีความเป็นไปได้ว่าในทศวรรษถัดไป นักเดินทางอาจซื้อบริการเสริมผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือตามความต้องการและงบประมาณของตนเอง เช่น บริการช่องตรวจความปลอดภัยแบบวีไอพี รถรับส่งจากอาคารผู้โดยสารไปยังประตูขึ้นเครื่อง แพ็คเกจอาหารก่อนขึ้นเครื่อง ความบันเทิงบนเครื่องที่คัดสรรโดยเฉพาะ Wi-Fi บนเครื่อง และจองรถรับส่งจากสนามบินล่วงหน้า
การมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลนี้ไม่ได้มีแต่สนามบินเท่านั้น ถึงแม้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกจะเป็นสิทธิพิเศษที่อยู่คู่การเข้าพักโรงแรมมาเป็นเวลานาน แต่ขณะนี้ถึงเวลาของการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในอนาคตอันใกล้ ประวัติของนักเดินทางจะเก็บบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การเข้าพักที่โรงแรมให้สบายเหมือนอยู่บ้าน เช่น ใช้ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ Netflix จัดเตรียมรายการโปรดไว้รอต้อนรับเมื่อนักเดินทางมาถึงห้องพัก อุณหภูมิในห้องพักที่นักเดินทางชอบ รวมถึงตัวเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่โปรดปราน
- การลองเสี่ยง
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสร้างโอกาสมหาศาลสำหรับผู้ประกอบการในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจให้กับนักเดินทาง
คุณแอนดรูส์ได้ย้ำกับผู้ประกอบการโรงแรมไทยว่าความร่วมมือคือหัวใจหลักที่จะทำให้การสร้างความประทับใจให้นักเดินทางเกิดขึ้นได้ เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวมีความเสี่ยงอยู่บ้าง
"แนวทางความร่วมมือกันยังคงเป็นความมุ่งมั่นหลักของเราต่อผู้ประกอบการโรงแรมไทย การลงทุนเพื่อการวิจัย พัฒนา และทดสอบเทคโนโลยีแทนผู้ประกอบการโรงแรม ในปี 2561 เราได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีเป็นจำนวนเงินกว่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.9 หมื่นล้านบาท) แม้เรายังไม่ได้คาดการณ์ว่าในอนาคตจำนวนเงินนี้จะเพิ่มเป็นเท่าไร แต่เราทราบว่าการลงทุนนี้จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับโรงแรมพาร์ทเนอร์ในประเทศไทยในทศวรรษที่จะถึง และเปิดโอกาสในการเติบโตร่วมกันมากยิ่งขึ้น" คุณแอนดรูส์สรุป
เกี่ยวกับ Expedia Group
Expedia Group (NASDAQ: EXPE) คือแพลตฟอร์มจองการเดินทางระดับโลก เราช่วยทำลายอุปสรรคในการเดินทาง ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น เพลิดเพลินมากขึ้น และสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับลูกค้าและพาร์ทเนอร์รอบโลกของเรา เราสามารถทำให้โลกอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม เราใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของเราในแบรนด์ที่หลากหลายเพื่อให้บริการการเดินทางแก่นักท่องเที่ยวทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก แบรนด์ของเราประกอบด้วย: Brand Expedia(R), Hotels.com(R), Expedia(R) Partner Solutions, Vrbo(R), Egencia(R), trivago(R), HomeAway(R), Orbitz(R), Travelocity(R), Hotwire(R), Wotif(R), ebookers(R), CheapTickets(R), Expedia Group Media Solutions, Expedia Local Expert(R), CarRentals.com, Expedia(R) CruiseShipCenters(R), Classic Vacations(R), Traveldoo(R), VacationRentals.com และ SilverRail