กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--การยางแห่งประเทศไทย
ประธานบอร์ด กยท. "ประพันธ์" เปิดเวทีเครือข่ายสถาบันเกษตรกรสวนยาง พลิกโฉม กยท. ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล บริหารงานยางยุคใหม่ ปรับบทเป็นพี่เลี้ยงสร้างความเข้มแข็งเกษตรกร ลดอุปทาน เน้นวิจัย-นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม ดันยางพาราใช้งานทุกช่องทาง ตั้งเป้าพัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านยางพาราของโลก
วันนี้ (14 ม.ค.63 ) นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มอบนโยบายบริหารงานยางพารายุคใหม่ ในที่ประชุมคณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกร
ชาวสวนยาง กยท. ระดับประเทศ ครั้งที่ 2 ปี 2563 ณ ห้องประชุมชมพูภูคา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จ.น่าน โดยกล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ กยท. ต้องลดบทบาทจากฐานะผู้ปฏิบัติและผู้ดำเนินการในบางส่วนที่ไม่จำเป็น เปลี่ยนมาเน้นบทบาทเป็นพี่เลี้ยง ผู้กำกับดูแล ส่งเสริมเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ให้เข้มแข็งและสามารถดำเนินการบางเรื่องแทน กยท. ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
ด้านการบริหารงบประมาณ นายประพันธ์ กล่าวว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ตามมาตรา 49 ของกองทุนพัฒนายางพารา ต้องบริหารจัดการและใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเน้นที่นวัตกรรมและการศึกษาวิจัย งบประมาณตามมาตรา 49 (4) กองทุนพัฒนายางพารา ใช้สนับสนุนงานด้านวิจัยและค้นคว้าทดลอง เพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมให้ยางพาราเกิดมูลค่าเพิ่มได้ ทุกภาคส่วนควรช่วยกันผลักดันให้ยางพารานำมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ลดอุปทานยางพารา สร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และช่องทางการใช้ เพื่อให้เกิดความต้องการนำยางไปใช้เป็นวัสดุหรือองค์ประกอบของสินค้าอุปโภคต่าง ๆ ด้วย
ประธานบอร์ด กยท. ย้ำทิ้งท้ายว่า ในฐานะที่ไทยเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่สุดของโลก เป้าหมายต้องพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านยางพาราของโลกด้วย ถ้าทำได้ สิ่งนี้จะเสมือนส่งมอบมรดกทรัพยากรยางพาราที่ยั่งยืนและมีมูลค่าให้ลูกหลาน ความสำเร็จของวงการยางพารา จะเกิดได้ด้วยพลังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ทั้งพี่น้องชาวสวนยาง ผู้ประกอบกิจการยาง และ กยท. ซึ่งจะส่งผลถึงความสำเร็จของผู้ที่มีอาชีพในวงจรยางพารา1.7 ล้านครัวเรือน หรือ 10 ล้านคนทั่วประเทศ สุดท้ายคือความสำเร็จของประเทศไทยนั่นเอง