กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--โทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
จากกระแสการรับชมละครช่อง 3 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งในประเทศไทยและประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ระหว่าง บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) โดย นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ ร่วมกับ WeTV ในเครือ เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) และ Tencent Video ประเทศจีน โดย มร. เจฟ ฮาน (Ms. Jeff Han) รองประธานอาวุโส บริษัท เทนเซ็นต์ เพนกวิน จำกัด โดยทั้งสองได้แถลงความร่วมมือทางธุรกิจที่จะทำร่วมกันในปี 2020 ในการนำคอนเทนต์ละครช่อง 3 ที่ได้รับความนิยมไปออกอากาศบน WeTV ที่สามารถรับชมได้ในประเทศไทยและอีกหลายประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีการตกลงการออกอากาศละครแบบคู่ขนานบน Tencent Video ที่ผู้ชมในประเทศจีนสามารถรับชมได้พร้อมกันกับผู้ชมในประเทศไทยในปี 2020 นี้
ในส่วนของการออกอากาศบน We TV ในประเทศไทยนั้น นายวรุตม์ ลีเรืองสกุล Managing Director บริษัท บีอีซีไอ คอเปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงข้อตกลงในครั้งนี้ว่า "ต้องถือว่าช่อง 3 เป็นผู้นำด้าน คอนเทนต์ละครอยู่แล้วและการขยายฐานผู้ชมไปในหลายแพลตฟอร์มนั้นก็เป็นการทำงานตามสิ่งที่ผู้ชมของเราต้องการแม้ว่าผู้ชมหลักของเราที่มีจำนวนมากจะสามารถรับชมละครช่อง 3 ทางออนไลน์ผ่าน แอปพลิเคชัน CH3+ (ซี-เอช-สาม-พลัส ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของ Mello) ได้อยู่แล้ว แต่ความร่วมมือกับ WeTV ครั้งนี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มฐานผู้ชมของเราให้มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ WeTV เองก็กำลังเติบโตและขยายฐานผู้ชมอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ผมจึงมองว่า WeTV เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของเราในการเพิ่มจำนวนผู้ชม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ"
นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ Country Manager, WeTV Thailand (ผู้จัดการประจำประเทศไทย) บริษัท เทนเซ็นต์ ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "เกือบหนึ่งปีที่เราได้เปิดตัว WeTV ในประเทศไทย เราได้นำเสนอซีรีส์คุณภาพระดับโลกจากเทนเซ็นต์ เพนกวิน พิคเจอร์ส อาทิ ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed) และอีกกว่า 200 เรื่อง ทำให้ปัจจุบัน WeTV ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งชั้นนำของไทย นอกจากการเป็นผู้นำคอนเทนต์จีน WeTV ยังมุ่งเน้นการนำละครคุณภาพดีของประเทศไทยมาฉาย รวมถึงการสร้างออริจินัลคอนเทนต์ เพื่อนำเสนอคอนเทนต์พิเศษเฉพาะสำหรับผู้ใช้ของเรา สำหรับการร่วมมือกับช่อง 3 ในครั้งนี้ ด้วยแนวคิดและกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้กัน เราเชื่อว่าในฐานะที่ WeTV เป็นพันธมิตรรายแรกที่ได้รับสิทธิ์ในการออกอากาศละครแบบคู่ขนาน และ รีรันละครแบบเอ็กซ์คลูซีฟ จะทำให้เราสามารถขยายฐานกลุ่มผู้ใช้ของ WeTV โดยคาดการณ์ว่าจะมีการดูละครไทยผ่านแพลตฟอร์มของเราเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ภายในปี 2020 นี้"
นางสาวกนกพรกล่าวต่อ "ที่สำคัญ เรายังได้เห็นถึงความสำเร็จของละครไทยหลายๆ เรื่องที่สร้างกระแสให้กับผู้บริโภคไปทั่วภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ WeTV จึงต้องการเข้ามาเป็นตัวกลางที่ช่วยเชื่อมและขยายความนิยมของละครไทยของช่อง 3 ไปยังประเทศจีนผ่าน เทนเซ็นต์ วิดีโอ รวมถึงผ่านแพลตฟอร์มของ WeTV ในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย"
ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่านอกจากการนำคอนเทนต์ไปออกอากาศบนแพลตฟอร์ม WeTV ที่สามารถรับชมได้ในประเทศไทยแล้ว ในการตกลงความร่วมมือครั้งนี้ยังมีการตกลงเกี่ยวกับการคัดเลือกละครไทยไปออกอากาศแบบเอ็กซ์คลูซีฟบน Tencent Video ผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน ที่มีฐานผู้ชมกว่า 550 ล้านคนต่อเดือน นายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ Chief Commercial Officers บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า "ความชื่นชอบละครไทยในประเทศจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยละครเรื่องแรกของเราที่ออกอากาศบน Tencent Video แบบคู่ขนานกับประเทศไทยเมื่อสองปีที่ผ่านมา คือเรื่อง ลิขิตรัก (The Crown Princess) ที่นำแสดงโดย ณเดชน์ ญาญ่า ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มีผู้เข้าชมมากกว่า 280 ล้านครั้ง นับเป็น TOP 5 ของคอนเทนต์ละครไทยที่มีคนดูมากที่สุดบน Tencent Video"
"โดยในส่วนของความร่วมมือครั้งนี้ เราก็จะร่วมมือกับ Tencent Video คัดสรรละครดังของช่อง 3 เพิ่มเติมอีก 3 เรื่อง เพื่อไปออกอากาศพร้อมกับประเทศจีน และออกอากาศในอีก 4 ประเทศในเอเชีย ซึ่งเรามั่นใจว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ชมชาวจีนและในประเทศอื่นๆ อีกด้วย" นายรณพงศ์กล่าวสรุป
โดยข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้จะครอบคลุมการทำงานร่วมกันในปี 2020 โดยละครช่อง 3 จะเริ่มออกอากาศทาง WeTV Thailand ตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 เป็นต้นไป ส่วนจะมีละครเรื่องใดบ้างนั้น ทางบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไปในเวลาอันใกล้นี้ โดยละครที่คัดสรรไปออกอากาศทั้งแบบคู่ขนานและแบบดูรีรันบน WeTV และ Tencent Video นั้น ก็จะเป็นการที่ผู้ชมสามารถรับชมรายการได้เหมือนกันกับการรับชมรายการบนแอปพลิเคชัน CH3+ของทางช่อง 3 อาทิ การรับชมละครที่จะช้ากว่าการออกอากาศบนโทรทัศน์เพียง 2 ชั่วโมง ผู้ชมก็จะได้รับชมพร้อม ๆ กันทั้งบน WeTV และ Ch3+ ซึ่งนับเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย