กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคนไทยไปแล้วสำหรับ "การส่งพัสดุ การส่งจดหมาย และบริการต่างๆผ่านไปรษณีย์ไทย" เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มักจะเจอทั้งตู้แดงที่อยู่ตามถนนหนทาง บุรุษไปรษณีย์ที่เข้าตามตรอกออกตามซอยของแต่ละหมู่บ้าน หรือแม้แต่กระทั่งเคาน์เตอร์บริการตามห้างสรรพสินค้า และที่ทำการไปรษณีย์ที่อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 10,000 แห่ง โดยจุดบริการหนึ่งที่มีความคึกคักและมีคนใช้บริการกันอย่างไม่ขาดสายก็คือ "ที่ทำการไปรษณีย์ในรั้วมหาวิทยาลัย" เนื่องจากเป็นแหล่งรวมของนักศึกษาจำนวนมากที่ส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการส่งพัสดุบ้างก็ส่งเป็นกิจวัตรเพราะผันตัวเป็นแม้ค้าพ่อค้าออนไลน์หารายได้เสริม บางคนก็ ส่งของฝากกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพราะด้วยระยะทางที่ห่างไกล หรือบางคนก็ยังชอบการส่งจดหมายและโปสการ์ดเนื่องจากหลงไหลความคลาสสิคบอกเล่าเรื่องราวสั้นๆ ผ่านการเขียนตัวอักษรบนกระดาษ และผนึกข้อความเหล่านั้นผ่านซองจดหมาย
เพื่อคลายข้อสงสัยว่าเดี๋ยวนี้เด็กมหา'ลัย ส่งอะไรผ่านไปรษณีย์ เลยอยากอาสาพาไปเปิดกล่องพัสดุของเหล่าเฟรชชี่จาก 5 รั้วมหาวิทยาลัย ขอบอกเลยว่าเด็กรุ่นใหม่ยังคงส่งพัสดุกันอย่างคึกคักไม่แพ้ คนวัยทำงานเลยทีเดียว ส่วนของในกล่องจะเป็นอะไรบ้างนั้นไปตามดูพร้อมๆ กันได้เลย
อะดิส ไกรวิทย์ วงศ์หมัดทอง นิสิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า ปกติใช้บริการส่งพัสดุกับทางไปรษณีย์ไทยเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะอันดับแรกเลยคือ มีจุดให้บริการอยู่ในมหาวิทยาลัย เดินทางง่าย ไม่ต้องไปส่งที่ไหนไกล และที่ชอบมากที่สุดคือส่งไว คนรับได้เร็ว ค่าบริการถูก เจ้าหน้าที่มีความเป็นกันเองสนิทกันจนรู้ใจเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง สำหรับพัสดุ EMS ที่ส่งกับไปรษณีย์เป็นประจำคือ 'กล้องมือสอง' ที่ตนเองรับซื้อมาจากที่ต่างๆ เพราะนอกจากจะเรียนหนังสือแล้ว ยังมีอีกบทบาทหนึ่งก็คือ "การเป็นพ่อค้าออนไลน์" หารายได้เพิ่มเติมอีกหนึ่งช่องทางเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว โดยช่วงที่จะมาส่ง EMS เป็นประจำก็คือช่วงต้นเดือน และวันศุกร์ของแต่ละสัปดาห์ เพราะว่าจะมีออเดอร์สินค้าเข้ามาเยอะ
นาน่า ณัฐธิดา สมุทรพูนไพศาล นิสิตจากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล่าว่า เมื่อช่วง 2 – 3 เดือนก่อน ได้ส่ง EMS ช่วงเช้า ไปให้เพื่อนที่อยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ตั้งใจจะเซอร์ไพร์วันเกิดในวันรุ่งขึ้นแต่คิดว่าน่าจะไม่ทันแน่ๆ ตอนนั้นคิดว่าอาจจะไปถึงในวันถัดไป ซึ่งอาจจะเลยวันเกิดเพื่อนไป 1 วัน แต่ปรากฏว่าตอนบ่ายเพื่อนได้ของแล้วก็เลยติดใจ และไปสืบทราบมาว่าไปรษณีย์ไทยเขาอัปเดตบริการ Same Day, Next Day (ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น) เช้าวันนี้เลยมาส่งของขวัญให้เพื่อนอีกคน คิดว่าบ่ายนี้ก็คงได้ของแล้ว สำหรับบริการนี้ถือว่าสะดวกมาก เพราะสามารถมาส่งพัสดุที่ไปรษณีย์ได้ทั้งก่อนและหลังเลิกเรียน ใช้เวลาเพียงไม่ กี่นาทีก็เสร็จแล้ว
ซอ ณัฐภัทร แววสอน นักศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เผยว่า ปกติในมหาวิทยาลัยจะมีตลาดนัดทุกวันพุธ ซึ่งในตลาดก็จะมีของมาขายเยอะมาก ทั้งของกิน ของใช้ ของแฮนด์เมด แบบอินดี้ๆ ที่ทำโดยเด็กศิลปากร วันนี้มีโอกาสได้มาเดินเที่ยวตลาดนัดช่วงเที่ยงพอดี เลยแวะซื้อเครื่องสำอางที่ร้านประจำซึ่งร้านนี้ขายถูกมาก ตั้งใจว่าจะส่งของไปให้น้องสาวที่ จ.ราชบุรี โดยปกติแล้วส่งของที่ไปรษณีย์ ในมหาวิทยาลัยเป็นประจำอยู่แล้ว บางครั้งก็ส่งขนมไปให้ที่บ้าน ส่งโปสการ์ดไปให้เพื่อนเก่าสมัยมัธยม เพราะที่ศิลปากรมีโปสการ์ดสวยๆ เพียบเลย ส่งเสร็จก็เดินเข้าห้องสมุดไปอ่านหนังสือเพราะว่าสองที่นี้อยู่ใกล้กัน มาส่งของบ่อยจนพี่ๆ เจ้าหน้าที่จำหน้าจำชื่อได้ แรกๆก็เรียกชื่อจริง หลังๆ มานี้เรียกชื่อเล่นแล้ว (หัวเราะ)
ฟิว ปฏิภาณ นาทิพย์ นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังมือง จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าว่า ตนได้ตัดสินใจเข้าศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะความสนใจด้านการออกแบบและปรัชญา และมีเพื่อนที่เรียนต่างมหาวิทยาลัยสนใจแนวเดียวกัน ซึ่งโดยปกติฟิวจะแชร์หนังสือปรัชญาและวรรณกรรมของธรรมศาสตร์ ซึ่งการส่งหนังสือที่แชร์กันนั้นฟิวจะส่งไปให้ด้วยบริการ EMS แอบเล่าอีกนิดหนึ่งว่าก่อนหน้านี้มีโอกาสได้ส่งหนังสือที่ซื้อจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาด้วยบริการเดียวกัน ผ่านไปไม่ถึง 1 วันปรากฏว่าของมาส่งถึงหอพักแล้ว ที่สำคัญส่งมากล่องใหญ่เพราะหนังสือหลายเล่ม แต่ราคาค่าบริการเพียง 160 บาทเท่านั้น ส่วนของที่ส่งวันนี้ก็คาดว่าไม่น่าเกินพรุ่งนี้เพื่อนก็น่าจะได้รับแล้ว ถือว่าไปรษณีย์ไทยส่งไวเลยทีเดียว คุ้มครับ!!!
และปิดท้ายกันที่ โอ นภสินธุ์ อินทรโยธา นักศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เผยว่า สำหรับพัสดุที่ส่งครั้งนี้ก็คือ อุปกรณ์กีฬา และเครื่องเขียน ที่รวบรวมมาจากเพื่อนๆ ร่วมหอพักและในคณะ ตั้งใจว่าจะส่งไปให้น้องๆ ในโครงการ "ส่งสุข ส่งฟรี" ปีใหม่ 2563 ของไปรษณีย์ไทยที่จริงทราบข่าวมาสักพักแต่เพิ่งมีโอกาส ด้วยความที่ไปรษณีย์ สจล. อยู่กลางสถาบันและใกล้กับตึกที่เรียน เลยเลือกบริจาคที่นี่ ได้แบ่งปันความสุขให้กับน้องๆ ในโรงเรียนตชด. ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มองว่าการทำบุญหรือบริจาคเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วทำได้ง่ายมาก คิดว่าโอกาสจะรวบรวมพวกเสื้อผ้า ของเล่นเด็ก หนังสือที่อ่านแล้ว ไปให้มูลนิธิต่างๆ และพื้นที่ทุรกันดาร เชื่อว่าคนละเล็กละน้อย 100 คน ก็น่าจะได้ปริมาณที่มากพอ
ถือเป็นอีกจุดบริการส่งพัสดุและส่งของต่างๆ ที่น่าสนใจเลยทีเดียว สำหรับที่ทำการไปรษณีย์ ในมหาวิทยาลัย ใครว่างอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศการส่งก็สามารถเข้าไปในที่ทำการฯ ดังกล่าวได้เลย รับรองได้ว่านอกจากจะบริการดีแล้ว หนุ่มๆ สาวๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยก็งานดีไม่แพ้กัน ....