กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--เวเบอร์ แชนวิค
เป็นที่ทราบกันดีว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าพัฒนาประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล สู่ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ดังนั้นการเตรียมศักยภาพแรงงานสายสะเต็มเพื่อสร้างฐานทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทยให้พร้อมรองรับภาคอุตสาหกรรมไทยในวันข้างหน้าเป็นสิ่งรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก การส่งเสริมให้เยาวชนในวงกว้างได้รู้จักกับอาชีพสาขาสะเต็ม จึงเป็นหนึ่งในวาระสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันผลักดัน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่สนใจศึกษาและทำงานในสาขาสะเต็มต่อไป
ด้วยเหตุนี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สานต่อภารกิจในการปลูกฝังหัวใจรักในการเรียนรู้ด้านสะเต็ม และเตรียมความพร้อมการประกอบอาชีพในอนาคต ด้วยการส่งเสริมและจุดประกายการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับเยาวชนทั่วประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดนิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟ "Enjoy Science Careers: สนุกกับอาชีพวิทย์" ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2559 ภายใต้โครงการ "Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต" ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไปแล้วกว่า 700,000 คน ในกว่า 63 จังหวัด โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จับมือกับพันธมิตร โรบินสัน เปิดนิทรรศการ "Enjoy Science: สนุกกับอาชีพวิทย์ 3" นำร่องจัดแสดงครั้งแรก
ณ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน ก่อนที่จะเดินทางจัดกิจกรรมร่วมกับคาราวานวิทยาศาสตร์ภายในศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ 8 สาขาทั่วภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะมีเยาวชนได้รับผลประโยชน์อีกกว่า 100,000 คน
นิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟ "Enjoy Science Careers: สนุกกับอาชีพวิทย์ 3" ในปีนี้ ได้แนะนำ 10 สุดยอดอาชีพสะเต็มแห่งอนาคตที่กำลังเป็นที่จับตามอง จาก 5 สายอาชีพ ได้แก่ วิศวกรภูมิศาสตร์สารสนเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย นักพัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ วิศวกรชีวการแพทย์ นักคิดค้นวัคซีน นักออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม นักสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากขยะ นักวิทยาศาสตร์อาหาร และเกษตรกรยุคใหม่ ซึ่งจะทวีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ทดลองสวมบทบาทเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยมีบุคคลต้นแบบของแต่ละอาชีพร่วมแบ่งปันประสบการณ์แนะแนวให้น้องๆ เยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ และทราบแนวทางในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพในอนาคต
นายชญานิน หาญการสุจริต บุคคลต้นแบบอาชีพวิศวกรภูมิศาสตร์สารสนเทศ จาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า "วิศวกรภูมิศาสตร์สารสนเทศ ถือเป็น 1 ในอาชีพสายสะเต็มที่มีบทบาทสำคัญต่อการสำรวจและพัฒนาแหล่งกักเก็บปิโตรเลียม อันเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยที่ช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมหนึ่งแหล่งใช้เวลานาน ลงทุนสูง อีกทั้งสภาพธรณีวิทยาของอ่าวไทยมีความซับซ้อน การขุดเจาะปิโตรเลียมในอ่าวไทยจึงมีความท้าทายสูง ดังนั้นต้องอาศัยเทคโนโลยี นวัตกรรม และบุคลากรที่เชี่ยวชาญทางด้านต่างๆ มากมาย เพื่อช่วยให้การปฏิบัติงานมีความปลอดภัย ถูกต้อง และแม่นยำ ยิ่งไปกว่านั้น วิศวกรภูมิศาสตร์สารสนเทศ ยังเป็น 1 ใน 10 อาชีพที่มีบทบาทสำคัญในอนาคต เพราะจะเข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาของอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นๆในอนาคต อาทิ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น"
ทางด้าน นายพงษ์พัฒน์ แก้วพะเนาว์ บุคคลต้นแบบอาชีพเกษตรกรต้นแบบยุคใหม่ เจ้าของแก้วพะเนาว์ ออร์แกนิค ฟาร์ม กล่าวว่า "สำหรับการทำการเกษตรให้ประสบความเร็จในด้านผู้ประกอบการเกษตรในยุคปัจจุบัน นอกเหนือจากการใช้ความรู้จากภูมิปัญญาในอดีตหรือการคำนวณเบื้องต้นแล้ว สิ่งที่สำคัญ คือเราจำเป็นต้องนำความรู้ด้าน ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้ในพื้นที่ทำการเกษตรของเราเพื่อให้เกิดความแม่นยำในการทำเกษตรกรรมที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพและผลิตผลที่ดีที่สุดทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ อันนำไปสู่การสร้างความมั่นคงต่ออาชีพเกษตรกรรมของตัวเราตลอดจนชุมชนของเราด้วยเช่นกัน"
ด้านเยาวชนที่มาร่วมนิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟในครั้งนี้ ได้กล่าวถึงความประทับใจ โดย นางสาวพิมพ์ชนก เย็นลับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนราษฎร์นิยม กล่าวว่า "ในปัจจุบันนี้โลกของเรากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ทั้งอุณหภูมิที่สูงขึ้น ขยะพลาสติก และป่าไม้ถูกทำลาย จากวันนี้ที่หนูได้มาเยี่ยมชมนิทรรศการ "Enjoy Science Careers: สนุกกับอาชีพวิทย์ 3 หนูรู้สึกว่าอาชีพ "นักออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม" นั้นมีความน่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยให้ความสำคัญและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับความตั้งใจที่จะเรียนต่อในสาขาวิศวกรรมศาสตร์อยู่แล้ว การมาเยี่ยมชมงานในวันนี้เหมือนเป็นการตอกย้ำความเชื่อของหนูว่าในอนาคตข้างหน้า ความรู้ทางด้านวิศวกรรมจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขและการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้นได้อย่างแน่นอน"
ในขณะที่ นายภูมิมินทร์ เรืองศรี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนราษฎร์นิยม ที่ใฝ่ฝันอยากประกอบอาชีพเกษตรกรในอนาคต กล่าวว่า "ด้วยความที่ครอบครัวของผมประกอบอาชีพปลูกผักปลอดสารพิษ ผมจึงมีความสนใจในเรื่องของการเพาะปลูกมากเป็นพิเศษ ซึ่งผมเองก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมนิทรรศการ "Enjoy Science Careers: สนุกกับอาชีพวิทย์ 3" วันนี้ผมได้คำแนะนำดีๆ และได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่ประกอบอาชีพทางด้านนี้ ทำให้ผมเชื่อว่าผมสามารถนำเทคโนโลยีและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปต่อยอดและพัฒนาสิ่งที่ครอบครัวของผมทำอยู่ในตอนนี้ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ผมมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะศึกษาต่อในด้านนี้และก้าวขึ้นมาประกอบอาชีพ "เกษตรกรยุคใหม่" ในอนาคตให้ได้"
นิทรรศการ "Enjoy Science Careers Year: สนุกกับอาชีพวิทย์ 3" เปิดตัวและจัดแสดงครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 –12 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน และเตรียมโรดโชว์ ไปจัดแสดงร่วมกับ "คาราวานวิทยาศาสตร์" ของ อพวช. ที่จะเดินทางไปจัดกิจกรรมทั่วประเทศไทย ให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี ภายในศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ 8 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 15 มีนาคม 2563 ผู้สนใจสามารถตรวจสอบตารางกิจกรรมหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Enjoy Science Careers หรือเว็บไซต์ www.enjoy-science.org และ www.nsm.or.th
เกี่ยวกับโครงการ "Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต"
โครงการระยะยาว 5 ปี ด้วยงบประมาณรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ที่บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ริเริ่มขึ้นในปี 2558 เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศไทย ผ่านการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็ม (STEM) รวมถึงการศึกษาสายอาชีพหรืออาชีวศึกษาครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ การศึกษา สังคม และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.), สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.), และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีสถาบันคีนันแห่งเอเซียเป็นผู้ดูแลโครงการ