![ฉีดพ่นละอองน้ำล้างฝุ่นละออง - ออกหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ดูแลสุขภาพประชาชน]()
กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นาย
ชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวตามที่
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง
นายกรัฐมนตรี กำชับ กทม. เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น ตลอดจนพิจารณาล้างถนนและ
ต้นไม้ริมข้างทางทุกวัน เพื่อช่วยลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่
สาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจสุขภาพประชาชนว่า ที่ผ่านมา สสล. ได้สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ได้แก่ การสร้างสวนสาธารณะเพิ่มเติม การดำเนินโครงการ "มอบล้านกล้า สู่ล้านต้น จากล้านคน สู่สังคมเมือง" ซึ่งมีประชาชนรับกล้าไม้ไปปลูกแล้วกว่า 250,000 ต้น และจะทยอยแจกจ่ายกล้าไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นได้เพิ่มความถี่การล้างถนน รวมถึงฉีดล้างฝุ่นละอองจาก
ต้นไม้ใบไม้บริเวณริมถนนและในสวนสาธารณะ ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งข้อมูลรถที่ปล่อยควันดำ ไปยังสายด่วน กทม. 1555 เพื่อประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกำชับทุกหน่วยงานในสังกัด ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดมลพิษ เข้มงวดมาตรการห้ามเผาขยะและการเผาในที่โล่งทุกชนิด ตลอดจนเพิ่มความเข้มงวดให้ผู้รับเหมาฉีดน้ำทำความสะอาดล้อรถบรรทุกก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้างและทำความสะอาดพื้นที่ก่อสร้างทุกวัน เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง
นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า สนอ. ได้ออกหน่วยแพทย์และ
สาธารณสุขเคลื่อนที่ เพื่อให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 และแจกหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง พร้อมสาธิตวิธีการใส่ที่ถูกต้อง รวมถึงได้เตรียมพร้อมแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 โดยในสถานการณ์ที่มีค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับไม่เกิน 50ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ศูนย์บริการ
สาธารณสุข กทม. ได้ให้ความรู้ในการป้องกันและดูแลตนเองจากภัยหรืออันตรายที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน แก่ประชาชน รวมถึงเฝ้าระวังติดตามในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง เด็ก ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด และหญิงตั้งครรภ์ส่วนในสถานการณ์ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานมากกว่า 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร บุคลากรของศูนย์บริการ
สาธารณสุข กทม. และอาสาสมัคร
สาธารณสุข จะให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากฝุ่นละอองแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง และเมื่อค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก อยู่ในระดับ 50 - 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จะออกหน่วยแพทย์และ
สาธารณสุขเคลื่อนที่ จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ รวมทั้งจะติดตามเยี่ยมผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเมื่อค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก อยู่ในระดับ 76 - 100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ติดต่อกัน 3 วัน
นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวว่า ในส่วนของ สนย. ได้แจ้งให้เจ้าของอาคาร อาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้ปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขในการก่อสร้างตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และจะต้องไม่กระทำการใด ๆ อันอาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน โดยจะต้องฉีดพ่นละอองน้ำบนอาคารและบริเวณโดยรอบสถานที่ก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ รวมทั้งได้กำชับให้เจ้าของอาคารที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ปฏิบัติตามความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการอย่างเคร่งครัด ส่วนอาคารที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและใช้งานแล้ว ได้ขอความร่วมมือให้ติดตั้งระบบสปริงเกอร์หัวฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณดาดฟ้าอาคาร เพื่อพ่นละอองน้ำดักจับฝุ่นละอองอีกด้วย